สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงการที่พื้นที่ขัดแย้งหลายแห่งในภาคตะวันออกของยูเครน มีแผนจัดการลงประชามติเพื่อไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ว่าหากเกิดขึ้นจริงแบบกรณีคาบสมุทรไครเมีย เมื่อปี 2557 และการเข่นฆ่าประชาชนในเมืองมาริอูโปลยังไม่ยุติ รัฐบาลเคียฟจะถอนตัวออกจากกกระบวนเจรจาสันติภาพทุกรูปแบบ


ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนยืนยันความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเอง ในการเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อยุติสงครามซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว อย่างไรก็ตาม ทำเนียบเครมลินกล่าวมาตลอดเช่นกัน ว่าไม่เคยปิดกั้นการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียกับผู้นำยูเครน เพียงแต่มีเงื่อนไขว่า การเจรจาระดับคณะทำงาน “ต้องมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมเช่นกัน”


เกี่ยวกับการที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เตรียมเยือนรัสเซียและยูเครนด้วยตัวเอง เซเลนสกี กล่าวว่า เขายินดีที่จะได้พบหารือแบบตัวต่อตัวกับกูเตร์เรส แต่โดยส่วนตัวมองว่า “ไม่สมเหตุสมผล” ที่เลขาธิการยูเอ็นเลือกเยือนกรุงมอสโกก่อน คือในวันที่ 26 เม.ย. แล้วเดินทางต่อไปยังกรุงเคียฟ ในวันที่ 28 เม.ย. ที่จะถึงนี้.

เครดิตภาพ : REUTERS