เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธานการรับมอบชุดตรวจโควิด-19 (ATK) จำนวน 20,000 ชุด หน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้น จากนายโทนี่ หยาง ประธานบริษัทเอชไอพี โกลบอล จำกัด และประธานสมาคมผู้ประกอบการระบบรักษาความปลอดภัยไทย
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การต่อสู้กับโควิด-19 ที่ผ่านมาก็ส่วนหนึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือทั้งยา เวชภัณฑ์ แม้กระทั่งอาหาร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ประเมินค่าไม่ได้ สำหรับวันนี้โรคโควิด-19 ถือว่ามีแนวโน้มลงมาระดับหนึ่ง หวังว่าถ้าเชื้อไม่มีการกลายพันธุ์ จำนวนคนติดเชื้อ เสียชีวิตก็น่าจะลดลงในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งติดตามทุกวันเห็นว่าคนใช้เครื่องช่วยหายใจ ปอดอักเสบอาหารหนักลดลง การใช้ยาต้านไวรัสก็เป็นขาลง จึงหวังว่าน่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี สอดคล้องกับความตั้งใจของกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลที่จะให้ประเทศผ่อนคลายมาตรการมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ต้องมีการจำแนกว่าเป็นการเสียชีวิตจากโควิดจริงๆ หรือเสียชีวิตและตรวจพบว่ามีโควิดร่วมด้วยอย่างไร ซึ่งหากเสียชีวิตจากโควิดจริงๆ น้อยกว่าก็สะท้อนว่าโควิดทำลายชีวิตคนได้น้อยลง และคนที่เสียชีวิตจากโควิด ส่วนใหญ่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้นรู้สาเหตุแล้วก็ไปป้องกันตรงนั้น นี่คือวิธีการที่จะเดินว่าเป็นโตประจำถิ่น ไม่ต้องกำหนดว่าวันไหน
ซึ่งขณะนี้ในการเป็นโรคประจำถิ่นนั้น แต่ละจังหวัดก็ถือว่ามีความพร้อมกันทั้งนั้น ประธานกรรมการโรคติดต่อก็รับทราบนโยบายรัฐบาล และความต้องการของประชาชนที้องการเปิดประเทศทำมาหากินได้ แต่ก็ต้องการความมั่นใจจะไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ซึ่งย้ำว่าวัคซีนสำคัญ ต้องบูสเตอร์ 3 เข็ม 4 เข็มได้ยิ่งดี ถ้าไม่มีโรคปรพจำตัวคนฉีด 4 เข็ม ติดเชื้อได้ แต่ไม่เป็นอะไรเลย โดยมากกว่า 90% ไม่มีอาการ ไม่ต้องเข้า รพ. ไม่ต้องกินยา ทั้งนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนมาก เหลือผู้สูงอายุ ดังนั้นถึงเวลาเปลี่ยนมายด์เซต ถ้าจะให้ปะเทศไทยมีความปลอดภัยครบวงจร ก็ฉีดวัคซีน แล้วทุกอย่างจะผ่อนคลายได้มากที่สุด องค์การอนามัยโลกก็ชม และจะเอาประเทศไทยเป็นตัวอย่างในการรับมือกับวิกฤติ ดังนั้นเราต้องช่วยกันสนับสนุน ทำให้เห็น
“การเป็นโรคประจำถิ่นจะต้องดูทั้งประเทศ จะเป็นเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งก่อนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวายมาก ต้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน วันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ยาก ประชาชนเข้าใจ สวมหน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีน สถานพยาบาล ยา บุคลากรมีควาพร้อม เราก็ต้องลุย ต้องเดินหน้าไป ส่วนแผนต่างๆ กรมควบคุมโรคก็จะเสนอ ศบค.ต่อไป ซึ่ง ศบค. และ ครม.ทั้งคณะ นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนเต็มที่” นายอนุทิน กล่าวและว่า วันนี้เข้าใจว่าเรามีทั้งคนที่อยากเปิดหมด บางกลุ่มก็ยังไม่อยากให้เปิด ดังนั้นเราต้องพยายามสร้างสมดุลด้วยหลักฐาน ด้วยสถิติเพื่อให้เห็นว่าได้แล้ว และค่อยๆ เปิด และได้รับความร่วมมือเต็มที่ ส่วนหลังสงกรานต์ที่ตัวเลขติดเชื้อไม่เพิ่มขึ้นนั้นต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ร่วมมือกันทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกนโรค และมาฉีดวัคซีน ตอนนี้ผ่านมา 10 วันแล้ว หวังว่าจะคงการติดเชื้อตรงนี้ให้ได้ แต่ต้องดูที่อาการ หากไม่มีอาการอะไรก็ไม่ต้องตกใจ จำนวนมากไม่ได้กินยาก็หายเอง.