สืบเนื่องจากการแถลงข่าวสรุปสำนวนการเสียชีวิตของนักแสดงแตงโม-นิดา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ทีมสืบสวนได้จัดทำวิดีโอความยาว 25 นาที เพื่อใช้ในการอธิบายสรุปสำนวนคดีแตงโม ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ช้ัน 2 อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งโต๊ะแถลงสรุปสำนวนการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโม-นิดา โดยบางส่วนภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้มีการระบุว่า “บาดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณต้นขานั้น สอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากต่างประเทศมาอ้างอิงว่าเป็นแผลที่เกิดจากใบพัดเรือซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน”

โดยเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) เพจดัง Drama-addict ได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมแนบภาพประกอบ ซึ่งเป็นภาพบาดแผล จำนวน 1 รูป ซึ่งคล้ายกับภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาเปรียบเทียบกับแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ โดยพบว่าภาพดังกล่าวมีลักษณะเดียวกับภาพจากเว็บไซต์เดอะซัน ของอังกฤษ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังเต้นรำในงานสังสรรค์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองสแตฟฟอร์ด โดยทางเพจ Drama-Addict ระบุว่า “ในภาพ เป็นข่าวปี 2019 เหตุเกิดที่อังกฤษ ตามข่าวระบุว่า หญิงอายุ 21 ปี ระหว่างที่กำลังเต้นรำในงานสังสรรค์ที่โรงแรมแห่งนึงในเมืองสแตฟฟอร์ด ในวันที่ 20 กันยายน ระหว่างเต้นรำ จู่ๆก็เกิดแผลยาวขนาด 30 ซม. เป็นแผลถูกของมีคมบาดที่ขาขวาของเธอ โดยไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร หลังเกิดเหตุ คนในงานรีบพาเธอไปรับการรักษาที่ รพ. และตำรวจก็ไล่ตามกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุว่าแผลของเธอเกิดจากอะไรกันแน่ ดูภาพแผลคุ้นๆมั้ยครับ อ้างอิง

https://www.thesun.co.uk/news/uknews/10046137/woman-leg-gash-young-farmers-ball/” หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เป็นกระแสฮือฮา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ จับโป๊ะกันสนั่นในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก รวมไปถึงยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของของเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีอีกด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ช้ัน 2 อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภายหลังกระแสดังกล่าว พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำรอง ผบก.สส.ภ.1 ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงภาพที่ปรากฏในวิดีโอสรุปสำนวนคดีแตงโม

พ.ต.อ.วรชาติ เปิดเผยว่า ภาพที่นำมาประกอบนั้น ใช้อธิบายลักษณะบาดแผลเป็นรูปโค้งเว้ารูปตัวเอส โดยตำรวจได้ใช้คำว่าบาดแผลโค้งเว้าที่มีลักษณะเดียวกันในวันแถลงสรุปคดี เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่สามารถนำบาดแผลจากศพมานำเสนอได้ ซึ่งบาดแผลหลังการเย็บจะมีรูปโค้งเว้าเป็นอักษรตัวเอส โดยทีมงานนำมาเสนอเพราะต้องการให้เห็นภาพว่าบาดแผลมีลักษณะว่าเป็นอย่างไร และภาพบาดแผลนั้น ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถค้นหาได้บนกูเกิลด้วยการค้นหาคำว่า Propeller wound ซึ่งปรากฏภาพบาดแผลทั้งในคนและสัตว์ โดยตำรวจได้ศึกษางานวิจัยของต่างประเทศ ในกรณีของคนที่ถูกใบพัดเรือฟันในลักษณะต่างๆ พร้อมยืนยันว่าตำรวจไม่สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ในโลกที่ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เช่นปัจจุบัน จึงต้องขออภัยประชาชนที่นำภาพซึ่งไม่ได้ระบุแหล่งที่มาอย่างครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจที่กำกวมและมีข้อสงสัย เนื่องจากเจตนาจริงนั้น ตำรวจต้องการนำเสนอภาพบาดแผลที่คล้ายอักษรตัวเอสเท่านั้น และยืนยันว่าประเด็นนี้ ไม่ทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ได้ระบุเพิ่มว่า ไม่กระทบทั้งภาพลักษณ์ และรูปคดีก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการเปิดวิดีโอจากสำนักข่าวไทยรัฐทีวี ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยในวิดีโอมีการแสดงถึงภาพของชายรายหนึ่งที่มีบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือสปีดโบ๊ตฟันขา เพื่ออธิบายยืนยันถึงลักษณะบาดแผลว่าถ้าหากโดนใบพัดเรือฟันจะเป็นอย่างไร รวมถึงยังมีการเปิดภาพงานวิจัยฉบับภาษาอังกฤษที่แสดงถึงลักษณะบาดแผลหากโดนใบพัดเรือเช่นเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า จากภาพในงานวิจัยดังกล่าวพบว่า หากโดนใบพัดเรือเฉี่ยว แผลจะเป็นรอยก้างปลาตรงๆ ถ้าใบพัดฟันลึกไปอีก จะเป็นตัวเอส แต่หากลึกไปเลย จะมีความโค้งมากกว่าตัวเอส ส่วนประเด็นเรื่องของจำนวนบาดแผลชันสูตรพลิกศพนั้น จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ตั้งข้อสังเกตว่าบาดแผลบนศพมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 11 รอย เป็น 26 รอย โดยไม่มีการระบุที่มาของแผลเพิ่มเติมนั้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ตอนนี้ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบเนื่องจากสาระสำคัญในคดีไม่ได้เปลี่ยนแปลง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า เสียงบรรยายในคลิปที่มีการนำเสนอในวันสรุปสำนวนคดีอ้างอิงกรณีต่างประเทศถูกใบพัดเรือชนิดเดียวกันและแผลหลังการเย็บมีลักษณะโค้งเว้าเช่นเดียวกับแผลของแตงโมนั้น

พล.ต.ต.วสันต์ เผยว่า ให้ย้อนกลับไปดูว่าพูดแบบนั้นจริงหรือไม่ พร้อมกล่าวขออภัยในการนำเสนอข้อมูลที่กำกวมเนื่องจากเจตนาจะให้เห็นลักษณะบาดเเผลเป็นรูปตัวเอส จึงมีภาพนั้นปรากฏขึ้นมา ขออภัยกับประชาชน

เมื่อสื่อมวลชนถามอีกว่า คณะทำงานวีดิทัศน์ประกอบสำนวน กับคนพากษ์ เป็นทีมงานของตำรวจ หรือเป็นทีมงานจากส่วนอื่น เพราะไม่มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ จนทำให้เกิดข้อบกพร่องในการนำภาพผิดมาเผยเเพร่นั้น พ.ต.อ.วสันต์ เผยว่า ทีมงานของเราเป็นทีมงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถนำข้อมูลที่อ้างอิงได้มานำเสนอ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คณะทำงานได้มีการตรวจสอบข้อมูลของบาดแผลในข่าวก่อนนำเสนอหรือไม่ เนื่องจากบาดแผลดังกล่าวเป็นบาดแผลที่เกิดจากของมีคม ปรากฏว่าไร้เสียงตอบรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีการร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่เปิดคลิปวิดีโอในวันแถลงสรุปสำนวนคดี เพื่อยืนยันว่าในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้มีการพูดถึงบาดแผลจากกรณีในต่างประเทศที่มีการอ้างถึงว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือเช่นเดียวกับบาดแผลบริเวณต้นขาด้านขวาของคุณแตงโม แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอในวันแถลงเพื่อยืนยันแต่อย่างใด โดยระบุว่าไม่ได้มีการเตรียมมา จากนั้นในช่วงท้าย เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ภาพที่นำเสนอเป็นข้อมูลเท็จ กังวลว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแถลงข่าวในวันนี้ ไม่ได้ตอบคำถาม และลุกขึ้นจากโต๊ะแถลงข่าวเดินทางกลับในทันที

ทั้งนี้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ยังได้ร่วมเดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงชี้แจงในวันนี้ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มารับฟังข้อมูลในฐานะประชาชน ไม่ได้มากดดันเจ้าหน้าที่ และไม่ขอตอบอะไรมาก จากนี้ก็จะนำข้อมูลมาประชุมกับ ทีมงาน ส.ส.เต้ อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มีประเด็นในใจอยู่แล้ว 50/50 เมื่อย้ำถามว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมหรือไม่ ทนายกฤษณะ บอกว่าเ ป็นประเด็นที่ตนเคยตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว.