จากกรณี นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ลูกบุญธรรม เข้าร้องสื่อหลังอ้างว่า ลูกสาวโดนเสี่ยวัย 60 ปี เจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ บังคับให้ขายบริการทางเพศให้แก่แขกที่มาพักในรีสอร์ทของตัวเอง เพื่อเป็นการขัดดอก หลังจากทำสัญญากู้ยืมเงิน 6,300 บาท เพื่อนำไปรักษาย่าวัย 70 ปี ที่ต้องการผ่าตัดด่วน โดยเด็กสาวต้องจำใจขายบริการให้แขกถึง 4 ครั้ง แต่กลับถูกบังคับให้ขายต่อไปจนทนไม่ไหว พอจะนำเรื่องไปบอกตำรวจ อีกฝ่ายก็อ้างมีอิทธิพลรู้จักตำรวจทั้งโรงพัก จึงนำเรื่องมาเล่าให้นางน้อยฟัง ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

จ่อออกหมายจับเจ้าของรีสอร์ท หลังนักเรียนม.3อ้างถูกบังคับขายกาม

คืบหน้าเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ สภ.ละหานทราย นายบี (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี เจ้าของรีสอร์ท ได้เดินทางเข้ามอบตัวสู้คดี ซึ่งเป็นจังหวะตรงกับหมายศาลจังหวัดนางรอง อนุมัติออกหมายจับ ทาง ร.ต.อ.อนุสรณ์ ศรีพรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ละหานทราย จึงอ่านหมายจับให้กับนายบี ได้ทราบ 4 ข้อหา ประกอบด้วย กระทำอนาจารบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, พยายามข่มขืนกระทำชำเราบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน, เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ก่อนตำรวจจะควบคุมตัวไปสอบสวน

เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ตำรวจได้นำตัวส่งศาลพร้อมคัดค้านการประกันตัว.