เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แฟน ๆ ต่างรอคอย สำหรับ “อันนาราซูมานารา (Annarasumanara) : โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic)”  ออริจินัลซีรีส์ทาง “เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)” แนวมิวสิคคัล แฟนตาซี ที่สร้างเว็บตูนเรื่องดัง  อย่างอันนา ราซูมานารา (Anna Rasumanara)  นำแสดงโดย จีชางอุค พระเอกชื่อดังขวัญใจแฟน ๆ ที่ครั้งนี้เขาพร้อมขโมยหัวใจทุกคนอีกครั้ง ในบทบาท “รีอึล” นักมายากลลึกลับ ผู้ไม่รู้จักโต ร่วมด้วย ชเวซองอึน นักแสดงสาวหน้าใสที่จะสวมบท “ยุนอาอี” เด็กสาวผู้สูญเสียความฝันในการเป็นนักมายากลและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก  และนักแสดงหนุ่มฮอต ฮวังอินยอบ กับบท “นาอิลดึง” เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ “ยุนอาอี” ซึ่งเขาถูกบังคับให้ตื่นจากฝัน มาเจอความจริงอันแสนโหดร้ายในชีวิตจริง  พวกเขาจะแท็คทีมกันมาถ่ายทอดความซาบซึ้งและประทับใจ ผลงานผู้กำกำกับ คิมซองยุน ที่เคยฝากผลงานการันตีฝีมือใน “Itaewon Class” ซีรี่ส์ฮิตที่ครองใจแฟน ๆ มาแล้ว ซึ่งครั้งนี้เขาได้   คิมมินจอง มาเขียนบทให้ด้วย

สำหรับ “Annarasumanara : โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic)”  เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “ยุนอาอี” เด็กหญิงที่ต้องใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่เร็วกว่าเด็กทั่วไป และ “รีอึล” นักมายากลลึกลับที่อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้าง แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่กลับยังใช้ชีวิตเหมือนเป็นเด็กคนหนึ่ง  และนักมายากลแสนลึกลับคนนี้ สามารถเสกปัญหาของวัยรุ่นสาวคนหนึ่งให้หายไป และนำความหวังกลับมา ในยามที่ต้องเผชิญความจริงอันโหดร้ายที่พรากความสดใสวัยเยาว์ไปจากเธอ! ล่าสุด “ฮาอึน” มีโอกาสได้ร่วมงานแถลงข่าวและพูดคุยกับ จีชางอุค, ชเวซองอึน, ฮวังอินยอบ และ ผู้กำกับคิมซองยุน แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟส่งตรงจากเกาหลีใต้ จึงไม่พลาดนำบทสัมภาษณ์ครั้งนี้มาฝากแฟน ๆ กัน

Q : เหตุผลที่ตัดสินใจรับบทบาทในซีรีส์เรื่องนี้ คืออะไร?

จีชางอุค : ผมได้รับบทและมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้กำกับเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน หลังจากอ่านบทแล้ว มีความรู้สึกหลากหลายมากครับ ตัวละคร ‘ยุนอาอี’ และ ‘นาอิลดึง’  ในเรื่องคล้ายกลับเรื่องราวของตัวผมเอง ผมมองว่าไม่ว่าใครก็สามารถอินกับตัวละครได้ไม่ยาก สิ่งที่ดึงดูดผมมากที่สุดน่าจะเป็นความรู้สึกที่อยากเป็นกำลังใจตัวละคร ‘ยุนอาอี’ และ ‘นาอิลดึง’ ครับ นอกจากนั้น ตัวละครรีอึลเป็นตัวละที่น่าสนใจและมีเสน่ห์ ยิ่งได้ผู้กำกับคิมซองยุนร่วมกับโปรดิวเซอร์เพลง ก็น่าจะถ่ายทอดภาพรวมออกมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผมตัดสินใจรับบทในเรื่องนี้ครับ

ชเวซองอึน : ก่อนเจอกับผู้กำกับฉันเคยอ่านฉบับเว็บตูนมาก่อนค่ะ ทั้งเนื้อเรื่องและลายเส้นมีความสนุกและสวยงาม เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถรู้สึกอินตามได้ง่าย ภาพในเว็บตูนต้นฉบับสวยมาก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าดัดแปลง เป็นฉบับภาพเคลื่อนไหวแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากได้เจอผู้กำกับแล้ว ฉันรู้สึกว่าได้ร่วมงานกับ ผู้กำกับคนนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ ผู้กำกับคนนี้อาจจะดึงภาพลักษณ์ใหม่ของฉันที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็ได้ จึงตัดสิน ใจรับบทนี้ค่ะ

ฮวังอินยอบ : ผมเองก็อ่านเว็บตูนมาก่อนครับ  เนื้อเรื่องสนุกและสื่อเมสเสจที่กินใจ คล้ายๆ กับซองอึน ผมประทับใจในตัว ผู้กำกับหลังจากที่ได้พูดคุยกัน ผมนึกว่าเขาจะถามว่าตัวผมใกล้เคียงกับตัวละครนาอิลดึงมากแค่ไหน แต่เขามุ่งเน้นไป ที่คำถามที่ว่า ตัวจริงของฮวังอินยอบเป็นยังไง ทำให้ผมประทับใจมากและอยากร่วมงานกับผู้กำกับคิมซองยุนครับ

Q : ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครของพวกคุณให้ฟังได้มั้ย?

จีชางอุค : ผมรับบทเป็น ‘รีอึล’ นักมายากลลึกลับที่อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้างที่อยู่ห่างไกลจากฝูงชน เป็นผู้ใหญ่ที่ชอบเกี่ยว กับเรื่องเวทมนตร์ และเป็นผู้ใหญ่ที่อยากเป็นเด็กไปตลอดกาลครับ

ชเวซองอึน :  ฉันรับบท ‘ยุนอาอี’ เป็นเด็กสาวยากจนที่เอาชีวิตรอดในแต่ละวันอย่างทุกข์ทรมาน แม้อายุยังน้อยนิด แต่ความยากลำบากทำให้เธออยากโตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ และละทิ้งความฝันไว้ข้างหลัง แต่พอได้เจอนักยามากลลึกลับ เธอกลับมามีความหวังและกล้าที่จะฝันอีกครั้งค่ะ 

ฮวังอินยอบ : ตัวละครของผมเป็นตามชื่อ ‘นาอิลดึง’ ที่แปลว่า ฉันเป็นที่หนึ่ง เลยครับ เป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่บังคับให้ฝันว่าต้องเป็นที่หนึ่งตลอด แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเขาเองชอบอะไร ต้องการอะไร ไม่รู้อะไร เกี่ยวกับตัวเองเลย อยู่มาวันหนึ่งเขาได้เจอกับ ‘รีอึล’ นักมายากลลึกลับและได้ค้นพบตัวเองและก้าวเติบโตต่อไปครับ

Q: สิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการรับบทบาทตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้คืออะไร?

จีชางอุค : เพื่อรับบทเป็น ‘รีอึล’ ผมใช้เวลาทบทวนถึงความไร้เดียงสาในวัยเด็กและความฝันของตัวผมเองที่หลงลืมไป หลังจากโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว นอกจากนั้นแล้ว การสร้างบรรยากาศที่ครื้นเครง ทีมเวิร์คและเคมีระหว่าง เพื่อนร่วมงาน เป็นอีกสิ่งที่ผมให้ความสำคัญครับ

ชเวซองอึน : ฉันปรึกษากับผู้กำกับอยู่เสมอว่าต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้ผู้ชมรับรู้ความรู้สึกและอินไปกับตัวละคร ‘ยุนอาอี’ ถ้าผู้ชมเข้าใจตัวละคร ‘ยุนอาอี’ ก็จะทำให้เข้าใจการเติบโตของตัวละครหลังจากได้เจอ ‘รีอึล’ รวมถึงเข้าใจตัวละคร ‘นาอิลดึง’ และภาพรวมได้ได้ง่ายขึ้น ฉันจึงโฟกัสว่าควรถ่ายทอดออกมาอย่างไรเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตาม ไปด้วยค่ะ

ฮวังอินยอบ : สำหรับ ‘นาอิลดึง’ สื่ออารมณ์ความรู้สึกไม่ค่อยเป็น เป็นคนแข็งกร้าว ผมเน้นทำความเข้าใจตัวละครของ ‘นาอิลดึง’ เป็นอันดับแรกครับ พยายามทำความเข้าใจว่าเขาชอบอะไรและต้องการอะไรครับ

Q : อะไรคือสิ่งที่ท้าทายในการรับบทตัวละครในเรื่องนี้?

จีชางอุค :  มันแปลกใหม่มากครับ เป็นผลงานที่ยาก แต่ก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอผลงานแบบนี้อีกเมื่อไหร่ ทั้งแสดง ร้องเพลง เต้น และเล่นมายากลไปด้วย ต้องเตรียมตัวหลายอย่างแต่ก็สนุกครับ พอได้เห็นผลลัพธ์แล้วก็รู้สึก แปลกๆเหมือนกันครับ

ชเวซองอึน :  ทุกผลงานยากเหมือนกันหมดค่ะ ในเรื่องนี้มีหลายอย่างที่ฉันต้องเรียนรู้และพยายาม โดยเฉพาะเรื่องร้องเพลง ซึ่งฉันได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากหลายท่าน เนื้อเพลงในบทถูกประพันธ์มาอย่างดีมาก ผู้ประพันธ์เนื้อเพลงทำให้ ฉันสัมผัสบางอารมณ์และความรู้สึกที่ฉันคิดไม่ถึงว่าตัวละคร ‘ยุนอาอี’ จะรู้สึกแบบนี้ค่ะ ถึงไม่เคยได้พบกับผู้เขียนเนื้อเพลง เป็นการส่วนตัว แต่ฉันรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ

ฮวังอินยอบ: อย่างที่เห็นจากตัวอย่างอย่างเป็นทางการว่าเพลงในเรื่องเพราะมากและมีสถานที่งดงามมากมาย ระหว่างที่ถ่ายทำในบรรยากาศเหล่านั้นผมมักจะหันไปพูดกับผู้กำกับว่า นี่เป็นครั้งแรกสำหรับผมเลยครับ ผู้กำกับก็จะตอบว่าเป็นครั้งแรกสำหรับเขาเช่นกัน ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้สร้างความทรงจำที่เป็นครั้งแรก ร่วมกับทุกคนครับ

Q :  ถามผู้กำกับบ้าง อยากรู้เหตุผลที่เลือกแคสติ้งนักแสดงจีชางอุค, ชเวซองอึน และ ฮวังอินยอบ?

ผู้กำกับคิมซองยุน :  แน่นอนว่าความประทับใจแรกคือรูปลักษณ์ภายนอกที่เท่ห์และสวยงามของเหล่านักแสดง แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าการดูว่าพวกเขาเหมาะกับตัวละครหรือไม่คือ การที่นักแสดงสามารถเพิ่มเสน่ห์ ให้กับตัวละครนั้นๆได้หรือไม่ นอกจากนั้นแล้ว ชุดของตัวละครบวกกับเสน่ห์เดิมของนักแสดงแล้วสามารถทำให้ ตัวนักแสดงเองโดดเด่นมากขึ้นหรือไม่ ยกตัวอย่างนักแสดงจีชางอุค ที่มีความเป็นเด็กและดูลึกลับ ถึงเวลาที่เข้าบทดาร์ค สายตาเขาก็จะขรึมขึ้นตามอารมณ์ ความขี้เล่นและความดาร์กของเขาทำให้ตัวละคร ‘รีอึล’ ออกมามีเสน่ห์มากขึ้น ส่วนนักแสดงชเวซองอึนที่รับบท ‘ยุนอาอี’ พอกล้องโรลปุ๊บสายตาเธอเปลี่ยนไปดูมีความกังวลขึ้นมาทันที ซึ่งช่วยถ่ายทอด อารมณ์ของ ‘ยุนอาอี’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยบทบาทแล้ว ‘นาอิลดึง’ เป็นคนที่แอบวางมาด และจริงจังกับคนเขาที่แอบรักข้างเดียว แต่นักแสดงฮวังอินยอบทำให้ตัวละครน่ารักและมีความใสๆ แบบเด็กยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ทำให้ผมประทับ ใจมากที่สุด คือเคมีของนักแสดงทั้งสามคนเวลาอยู่แสดงด้วยกันครับ

Q : ทราบมาว่านักมายากล “อีอึนกยอล” มีส่วนร่วมในผลงานนี้ด้วย คุณให้ความสำคัญในส่วนของฉากที่มีการเล่น มายากลหรือร่ายเวทมนตร์อย่างไรบ้าง?

ผู้กำกับคิมซองยุน :  คุณอีอึนกยอลชื่นชอบผลงานเรื่องนี้มาก หลังจากได้อ่านบทเขาติดต่อมาว่าตัวเองน่าจะให้ความช่วยเหลือได้ สิ่งที่สำคัญของการเล่นกลคงหนีไม่พ้นเรื่องดีไซน์ครับ จะดีไซน์การเล่นกลออกมาอย่างไรถึงจะทำให้ตัวละครดูโดดเด่น และถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี นอกจะสอนเทคนิคของการเล่นมายากลแล้ว คุณอีอึนกยอลยังช่วยออกแบบภาพรวมต่างๆ เพื่อให้เราเสนอภาพการร่ายเวทมนตร์ได้ออกมาอย่างสมจริง ต้องขอบคุณคุณอีอึนกยอลที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมถึงขอขอบคุณโปรดิวเซอร์เพลง ทีมออกแบบท่าเต้นและทีมอาร์ตมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

Q: สิ่งที่โฟกัสเป็นพิเศษในการกำกับเรื่องนี้ คืออะไร?

ผู้กำกับคิมซองยุน :  ผมเน้นส่วนของการดำเนินเรื่องให้เป็นไปอย่างธรรมชาติเป็นหลักมากกว่าครับ เรื่องเพลงท่าเต้นหรืออื่นๆโปรดิวเซอร์ของแต่ละทีมย่อมชำนาญกว่าผมอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เป็นแนวแฟนตาซี มีร้องและเต้นร่วมกับการแสดงด้วย เข้าบทอยู่ดีๆเดี๋ยวก็ตัดภาพไปร้องเพลงอีก ผมโฟกัสว่าทำอย่างไงให้เรื่องดำเนินไปอย่างไม่สะดุดตา ฉากที่ร่ายมนตร์ต้องลอยตัวประมาณไหนถึงจะดูไม่เว่อร์ไป ผมจะเน้นเรื่องโทนและแมนเนอร์ และความเป็นธรรมชาติในการดำเนินเรื่องเป็นพิเศษครับ

Q : คุณ “จีชางอุค” มีประสบการณ์การแสดงมิวสิคัลมาก่อน การร่วมงานในซีรีส์เรื่องนี้ต่างจากผลงานมิวสิคัลก่อนหน้านี้อย่างไร รู้สึกกังวลหรือลำบากใจไหมที่มีฉากร้องเพลงเยอะบ้างมั้ย?

จีชางอุค : ความจริงแล้วซีรีส์เราไม่ใช่มิวสิคัล ผมเลยไม่เคยนึกเปรียบเทียบกับผลงานมิวสิคัลก่อนหน้านี้ครับ โทนของการร้องและเทคนิคโดยรวมแตกต่างจากการแสดงมิวสิคัลบนเวทีมากครับ อย่างเช่น ในซีรีส์เรามีการอัดเสียงก่อน ฝึกซ้อมและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมแล้วค่อยอัดถ่ายทำ มีการเว้นคั่นระหว่างการถ่ายทำ ซึ่งไม่เหมือนกับการแสดงบนเวที แน่นอนว่ากังวลครับ แต่ทีมงานเพลงคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และตัวผมเองก็หมั่นฝึกซ้อม เป็นการท้าทายที่แปลกใหม่และก็ถือเป็นของขวัญสำหรับตัวผมเองด้วยครับ

Q : ซีรีส์ “Annarasumanara: โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic)” มีความหมายอย่างไรกับคุณ?

ชเวซองอึน : ผลงานแต่ละเรื่องมีเมสเสจที่ต้องการถ่ายทอดแตกต่างกันไป โดยส่วนตัวแล้วฉันพยายามหาเมสเสจ นั้นจากตัวบทของผลงานชิ้นนั้นๆ บทของซีรีส์ ‘โอม รักเอยจงมา’ นี้มีเนื้อหาที่ดีและช่วยปลอบใจและให้กำลังใจตัวฉันเองด้วย ยิ่งได้อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงครั้งที่ 3 มีหลายประโยค และเหตุการณ์มากที่แทงใจและช่วยปลอบประโลมผู้คน เป็นผลงานที่จะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนานค่ะ ไม่ทราบว่าผู้ชมจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่ในฐานะแสดงฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะถ่ายทอดตัวละคร ‘ยุนอาอิน’ ให้ผู้ชมเข้าใจ และคล้อยตามไปกับอาอีได้ไม่ยากค่ะ ฉันคิดว่าผู้ชมหลายท่านอาจมองเห็นตัวเองผ่านตัวละครยุนอาอีก็เป็นได้ค่ะ

Q: เสน่ห์ของตัวละครที่คุณได้รับในเรื่องนี้คืออะไร และมีบทบาทไหนที่อยากแสดงในอนาคตหรือไม่?

ฮวังอินยอบ:  สำหรับ “อิลดึง” เป็นตัวละครที่น่ารักครับ เขาเป็นคนสื่ออารมณ์ไม่เก่ง ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ดูเป็นคนแข็งกร้าว ผมเชื่อว่าผู้ชมน่าจะเข้าใจในตัวนาอิลดึงและได้รับกำลังใจจากเขา ฝากติดตามและเอ็นดูเขามากๆด้วยนะครับ สำหรับบทที่อยากเล่นในอนาคต ผมอยากเป็นนักแสดงที่แสดงได้สมบทบาทในทุกบทบาทที่ได้รับครับ

Q: เพลงที่ชอบที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้คือเพลงอะไร?

จีชางอุค : เพลงเปิดตัวผมก็ชอบ เพลงที่ร้องกับ ‘อาอี’ ในสวนสนุกก็ชอบ ชอบหมดเลยครับ เพลงที่ร้องกับฮวังอินยอบก็ชอบครับ เลือกแค่เพลงเดียวไม่ได้หรอกครับ

ชเวซองอึน: แม้จะถ่ายทำเสร็จแล้วแต่มีเพลงที่ฉันฟังเป็นประจำคือ เพลงที่ร้องที่ฉากม้าหมุนค่ะ แต่ถ้าเพลงที่ชอบมากที่สุดคือ เพลงที่อาอีร้องตอนที่เหลือตัวคนเดียวในสวนสนุกร้าง เนื้อเพลงซึ้งและจำขึ้นใจมากค่ะ

ฮวังอินยอบ: ผมชอบเพลงที่ ‘อิลดึง’ เล่นกีต้าร์และร้องให้ ‘อาอี’ ตอนสารภาพรักครับ เป็นเพลงที่น่ารักมากครับ เหมาะกับการฟังในขณะขับรถ ฟังตอนไหนก็ทำให้อารมณ์ดีครับ 

Q : ซีรีส์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่พวกคุณได้ร่วมงานกัน มีช่วงเวลาที่ประทับใจ น่าตื่นเต้น หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขณะถ่ายทำร่วมกันหรือไม่?

จีชางอุค : สนุกมากครับ ได้เจอทั้งซองอึนและอินยอบเป็นครั้งแรก พวกเขาน่ารักและเป็นน้องๆ ที่อยากให้กำลังใจและรอดูผลงานในอนาคตครับ มีอีกอย่างที่แปลกใหม่คือ การได้ถ่ายทำร่วมกับนกแก้วครับ น่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ เพราะต้องคอยระวังไม่ให้เขาตกใจ

ชเวซองอึน : ที่ประทับใจและสนุกที่สุดคือฉากสุดท้ายที่เหล่านักแสดงร่วมร้องเพลงด้วยกันบนเวทีค่ะ เพราะได้แสดงร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่และนักแสดงท่านอื่นๆ ถือเป็นช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดสำหรับฉันค่ะ

ฮวังอินยอบ : ถ้าให้เลือกหนึ่งช่วงเวลาที่ประทับใจคงเป็นฉากที่ ‘นาอิลดึง’ ได้เห็นการร่ายเวทมนตร์ของ ‘รีอึล’แล้วพยายามจะทำตาม แต่เกิดไฟลุกขึ้นมา ตอนถ่ายทำฉากนั้นร้อนมาก จนผมเผลออุทานเสียงดัง ทีมงานในกองหัวเราะกันใหญ่เลยครับ

Q : นอกจากความสนุกแล้ว ซีรี่ส์ “Annarasumanara: โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic)” ต้องการถ่ายทอดเมสเสจอะไรถึงผู้ชมบ้าง?

จีชางอุค : สำหรับซีรี่ส์  ‘โอม รักเอยจงมา’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเติบโตของ ‘นาอิลดึง’ เด็กหนุ่มที่โตเกินวัย และ ‘ยุนอาอี’ เด็กสาวที่จำต้องละทิ้งความฝัน และ ‘รีอึล’ นักยามากลลึกลับที่อยากเป็นเด็กไปตลอดกาล เป็นผลงานที่ชวนให้รำลึกถึงความไร้เดียงสาและความฝันในวัยเยาว์ของเรา เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นเรื่องหนึ่งครับ

ชเวซองอึน : ผู้ชมแต่ละท่านอ่านจะรู้สึกแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้ชัดเจนที่สุดจากซีรีส์ ‘โอม รักเอยจงมา’ นี้ คือจิตสำนึกของความเป็นเด็กน่าจะทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี  เด็กๆ มักมีข้อสงสัยอย่างไร้เดียงสาเกี่ยวกับผู้คนและโลก มีความฝันใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน ใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างสนุกสนาน แม้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ถ้าทำเช่นเดียวกันกับเด็กก็น่าจะทำให้เรากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่ว่าผู้ชมแต่ละท่านจะรับเมสเสจจากเรื่องอย่างไร อยากให้ทุกท่านรับชมอย่างเพลิดเพลินค่ะ

ผู้กำกับคิมซองยุน :  อาจจะไม่ใช่เมสเสจที่ลึกซึ้งอะไร แต่เป็นสิ่งที่ผมมักพูดกับกลุ่มเพื่อนๆ ในวัยเด็กอยู่ตลอดว่า พวกเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือยัง? เราสามารถพูดต่อหน้าเด็กๆ ว่าฉันเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือ? ขณะที่ได้อ่านเว็บตูนต้นฉบับ ผมมักตั้งคำถามว่า การเป็นผู้ใหญ่คืออะไร เราอยากให้ลูกหลานของเราเติบโตเป็นคนแบบไหน ต้องทำอย่างไรถึงจะมีความสุขมากขึ้น เป็นซีรีส์ที่ผู้ใหญ่และเด็กสามารถรับชมและเพลิดเพลินไปด้วยกันครับ สำหรับสิ่งที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ต้องการสื่อคือ เราไม่จำเป็นต้องมีความฝันก็ได้ และช่วยให้เราย้อนกลับมามองตัวเองว่า เราต้องการอะไร ชอบอะไร และเป็นคนแบบไหน ในขณะเดียวกันก็ได้รับกำลังใจและอินกับความรู้สึกของตัวละครไปด้วย ยิ่งได้รับชมพร้อมกับรับฟังเพลงด้วยแล้วยิ่งทำให้สนุกเพิ่มขึ้นไปอีก สิ่งที่ผมรู้สึกจากการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้มากที่สุดคือ การได้มีเวลาทบทวนตัวเองว่ารู้จักตัวเองดีแค่ไหน และรักตัวเองมากแค่ไหนครับ

Q : ฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยที่รอชมซีรีส์เรื่องนี้หน่อย?

ผู้กำกับคิมซองยุน :  นอกจากความสนุกและความประทับใจที่ทำให้ผู้ชมสามารถคล้อยตามแล้ว ซีรีส์นี้เป็นผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ใหญ่และเด็กสามารถรับชมพร้อมกัน และโยนคำถามกลับหาเราว่าการมีชีวิตที่ดีคืออะไร และต้องทำอย่างไรเพื่อให้ชีวิตมีความสุข ขอให้เพลิดเพลินในการรับชมครับ ขอบคุณครับ

คุณเชื่อเรื่องเวทมนตร์มั้ย? เตรียมมาร่ายเวทย์แห่งความสุข อบอุ่นหัวใจ ปลุกความฝันในวัยเยาว์ พร้อมชวนกลับมารักตัวเอง ไปกับ “จีชางอุค – ชเวซองอึน – ฮวังอินยอบ”  ใน “Annarasumanara  : โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic)”  กัน

ฮาอึน