@เริ่มที่เรื่อง “เศรษฐกิจ” และ “ปากท้อง” หลังการ “คลี่คลาย” ของ “โควิด-19” สิ่งสำคัญคือการ “ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” และ “ปากท้อง” ของประชาชนทุกสาขาอาชีพ “เพื่อการรับมือ” กับ “ของแพงทั้งแผ่นดิน” และ “ความยากจนทั้งแผ่นดิน”ภายใต้สถานการณ์ที่ “ย่ำแย่” ของ “เศรษฐกิจโลก” จากปัญหาของ “โควิด-19” ที่ “โหมกระหน่ำ” มาร่วม 2 ปี และ “ซ้ำเติม” ด้วย “สงคราม” ที่ไม่ประกาศ “สงคราม” ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศยูเครน ที่ยังหา “จุดจบ” ของการ “แพ้-ชนะ” หรือ “เจรจา” ด้วย “สันติวิธี” ไม่พบ และยัง “ซ้ำเติม” ด้วยการบริหาร “ประเทศแบบ” ไม่ “บริหาร” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีแต่นโยบาย “กู้เงิน” เพื่อ “แจก” ไม่ใช่ “กู้เงิน” เพื่อ “สร้างงาน” เงินเข้าประเทศไม่มีการควบคุมราคาสินค้า ไม่ได้ ทุกอย่างจึง “อลเวง” และกลายเป็นความ “ทุกข์ยาก” ของคน “รากหญ้า” ทั้งแผ่นดิน…ที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งมีเพียง “สงขลา” กับ “สตูล” ที่ เป็นเมืองท่องเที่ยว และการลงทุน ส่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะมี “ศักยภาพ” ของการ “ท่องเที่ยว” และ “การค้า การลงทุน” แต่ สถานการณ์ การ “ก่อการร้าย” ที่ยังไม่ “ยุติ” จึงไม่สามารถนำ “ศักยภาพ” ให้เกิดประโยชน์…

@และวันที่ 8 มิถุนายน นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) จะเดินทางมายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำหน้าที่นั่ง “หัวโต๊ะ” เพื่อ “รับฟัง” ข้อเสนอ และข้อเรียกร้อง จาก นักธุรกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้นำภาคประชาชนในการ “ฟื้นฟู” เศรษฐกิจ-ปากท้อง ของประชาชน และหนึ่งในข้อเสนอจาก “เอกชน” ที่เป็น “นักลงทุน” คือการเดินหน้า “โครงการเมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ” ซึ่งเป็น “อุตสาหกรรม” ที่เป็น “อภิมหาโปรเจคท์” ของ บริษัท “ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์” ที่มี “เม็ดเงิน” การลงทุน 600,000 ล้าน ที่ นักลงทุน ในพื้นที่เห็นว่า หากโครงการนี่เกิด จะมีการ “ลงทุน” ใน กิจการอื่นๆ ตามมามากมาย และจะเกิดประโยชน์ของ “ห่วงโซ่” ในการพัฒนา ที่สร้าง “เม็ดเงิน” และ “สร้างงาน” สร้างอาชีพ ให้กับคนในพื้นที่อย่างทั่วถึง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และประธาน “กพต.” ต้องนำข้อเสนอของ “เอกชน” ไป “ผลักดัน” การ “พูดคุย” กับ “สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ที่ รับผิดชอบโครงการ “เมืองต้นแบบ” แห่งนี้ ให้หยุดการทำงานแบบ “เรือเกลือ” ที่ผ่านไปแล้ว 1 ปี แต่ไม่มีความก้าวหน้า…

@แต่ ช้าก่อน เพราะในห้วงเวลาเดียวกัน ที่ ศูนย์วัฒนธรรมกรุงเทพ “เอ็นจีโอ” ก็จะนำกลุ่ม “คัดค้านโครงการกลุ่มเดิม” ไปทำกิจการเรื่อง “ทะเล” และ “อาหาร” รวมทั้งการ “คัดค้าน” โครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ก็ต้องดูว่า ระหว่าง “เอกชน” กับ “เอ็นจีโอ” ใครจะมี “เสียงดัง” กว่า และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเชื่อใคร เพราะที่ผ่านมา เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ปะทะ” กับ “เอ็นจีโอ” เมื่อไหร่ ก็จะออกอาการ “ปากกล้าขาสั่น” และ สั่ง “ไอ้เสือถอย” ทุกครั้ง ฮา….และต้องขอชื่นชม พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดร.ชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ใน “ฐานะที่เป็นเจ้าภาพ” ที่สั่งการให้ ผอ.ทุกสำนักที่เกี่ยวข้องกับ “ยุทธศาสตร์” ของปัญหา “เศรษฐกิจ” และ “ปากท้อง” ของประชาชน จัดประชุม รับฟังความคิดเห็นจาก “ทุกภาคส่วน” เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ “ครบถ้วน” และเป็นที่ “พอใจ” ของทุกฝ่าย….

@แต่ในด้านความ “มั่นคง” หลังจากที่ปล่อยให้ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ทั้ง “แม่ทัพใหญ่” และ “แม่ทัพน้อย” รวมทั้ง “หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข” ดีอกดีใจ ในความสำเร็จของ “สันติวิธี” ในเดือน “รอมฎอน” ได้ไม่กี่วัน “กองกำลังติดอาวุธ” ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” ก็ขนอาวุธสงคราม ปฏิบัติการ “เหยียบจมูก” ด้วยการ “ถล่ม” สถานีตำรวจน้ำตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส “เละตุ้มเป๊ะ” มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหลายราย ประชาชนทั้งฝั่งไทย-มาเลเซีย แตกตื่น และสุดท้ายคือการ “วิพากษ์วิจารณ์” ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อม “คำถาม” ที่ตามมามากมาย ทั้งด้านความ “ล้มเหลว” ของขบวนการ “พูดคุย” และของการป้องกันการรักษาความสงบที่ “โหลยโท่ย” เหมือนเดิม…ประเด็นที่ต้องถามคือ หน่วยงานความมั่นคงมีงบ “การข่าว” 1,000 กว่าล้าน มี “นักการข่าว” ตั้งแต่ “สันติบาล” โรงพัก, ปกครอง, กอ.รมน., สำนักนายกฯ, ข่าวกรองทัพบก ทัพอากาศ ทัพเรือ มีชื่อ มีตำแหน่ง และ รับเงินเดือน เต็มพื้นที่ แต่..ไม่มี หน่วยข่าวหน่วยไหน ทราบ “ระแคะระคาย” ความเคลื่อนไหวของ “กองกำลังติดอาวุธ” ของ “บีอาร์เอ็น” แม้แต่คนเดียว นี่มันอะไรกัน นี่เราทำงาน “การข่าว” จริงหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องฝากเป็น “การบ้าน” ไปยัง “กองทัพไทย” และ “กองทัพบก” รวมทั้ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ที่ต้อง “สังคายนา” เรื่องของ “การข่าว” และ “งบการข่าว” อย่างจริงจัง เพราะเป็นงบที่ “สูญเปล่า” แบบ “ไร้ประโยชน์” จริงๆ ….

พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” ฝ่ายไทย กับ พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 ในฐานะ “เลขานุการ” คณะพูดคุย และ ผอ.ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้อง “จับมือ” นายหิพนี มะเระ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติภาพ” ที่เป็น “ร่างทรง” ของ ผู้นำ “บีอาร์เอ็น” และ “เด็ง แวกะจิ” ที่ปรึกษาสภาซูรอ ของ “บีอาร์เอ็น” ที่ “คณะพูดคุยฝ่ายไทย” เชื่อมั่นว่าเป็น “ของจริง” ที่ เชื่อถือได้ ถามถึงจุดประสงค์ของ “บีอาร์เอ็น” กับการ “โจมตี” สถานีตำรวจน้ำในครั้งนี้….แม้ว่า “บีอาร์เอ็น” จะไม่ออกมารับแต่ก็ไม่ “ปฏิเสธ” ว่าเป็นผู้กระทำ แต่ที่ชัดเจนคือหลัง “ปฏิบัติการ” มีการ “ปล่อยคลิป” จากกลุ่มผู้ “ปฏิบัติการ” ที่มี “สัญลักษณ์” และการ “ตะโกน” ที่แสดงออกถึง “พระเจ้า” รวมทั้ง “ยุทธวิธี” ที่ใช้ เป็นการ “บ่งชี้” ว่าเป็น “กองกำลังติดอาวุธ” ของ “บีอาร์เอ็น” ชัดเจน….

@แต่ มีเรื่อง “แอบแฝง” เพื่อ “ข่มขู่” และ “ไม่พอใจ” ที่ เจ้าหน้าที่รัฐ มีการจับกุม ขบวนการค้า “บุหรี่เถื่อน” ของ “นายทุนใหญ่” จำนวนหลายครั้ง มูลค่า หลายร้อยล้านบาท หรือการจับกุม กลุ่มผู้ค้า “ยาเสพติด” รวมทั้ง “แรงงานเถื่อน” และ “น้ำมันเถื่อน” หรือไม่นั่น ถ้า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งฝ่ายปกครอง ต้องการรู้ความจริง ก็ไม่น่าจะยาก เพราะอะไร ก็เพราะ “เจ้าพ่อ” และ “เจ้าแม่” ที่ ทำธุรกิจ “สีดำ” และ “สีเทา” ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ ที่เป็น 2 อำเภอของ “เส้นทาง” การทำธุรกิจ “เถื่อนๆ” ของ จ.นราธิวาส “รู้จักมักคุ้น” กับ หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยที่กล่าวมา ส่วนจะมีเรื่อง “ส่วยสาอากร” เป็น “รายเดือน” ตามที่มีการ “นินทา” กันหรือไม่นั้นไม่มีหลักฐาน….แต่นี่เป็น “ประเด็น” อีกเรื่อง ก่อนมีเหตุ “ถล่มสถานี” ข่าวว่ามี “หลายหน่วยงาน” ที่ไปขอขึ้นราคา “ส่วย” จาก ขบวนการค้าของเถื่อน จน “ขาใหญ่” ทนไม่ไหว จึงอาจจะมีการขอให้ “กลุ่มติดอาวุธ” ของ “บีอาร์เอ็น” ออกมา “สั่งสอน” เพราะคนในขบวนการ “ธุรกิจเถื่อน” คือ “มวลชน” ของ “บีอาร์เอ็น” ที่ถูกมองว่าถูก “รังแก” จาก เจ้าหน้าที่รัฐ….แต่ เชื่อเถอะ แม้ว่า พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4  จะให้ “น้ำหนัก” การ “ถล่มสถานีตำรวจน้ำ” ครั้งนี้ว่าเป็นเรื่อง “ภัยแทรกซ้อน” แต่สุดท้ายแล้ว “ภัยแทรกซ้อน” ก็ไม่ถูก “ทำลาย” เพราะ “ภัยแทรกซ้อน” ทุกอย่าง ล้วนเป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” หน่วยงานของรัฐอย่างถ้วนหน้า ไม่ได้เป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” เฉพาะของ “บีอาร์เอ็น” เพียงฝ่ายเดียว สุดท้ายเรื่องนี้ “ไม่มีอะไรในกอไผ่” เหมือนกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นใน “แผ่นดินปลายด้ามขวาน” แห่งนี้….

@ก็เขียนเรื่อง “ส่วย” 19 หน่วยงานที่ เมืองชายแดนด่านอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ไปหน่วยเดียวเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ กลุ่มนักธุรกิจกว่า 20 ราย ที่ “เมืองชายแดนด่านนอก” ซึ่งทำ “ธุรกิจบันเทิง” ก็ รวมตัวกัน ยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ “เดชอิศม์ ขาวทอง” (นายกชาย) ส.ส.เขต 5 ปชป.จ.สงขลา ให้ช่วยดำเนินคดีกับ “ชายฉกรรจ์” จำนวน 20 คน ที่ทำหน้าที่เรียก “เก็บส่วย” จาก สถานบันเทิงในพื้นที่ หลังจากการเปิด “ประเทศ” และสัมผัสเงิน “ริงกิต” ไม่ทันถึงเดือน ซึ่ง ส.ส.เดชอิศม์ ได้มอบหมายให้ เทพาย ศรีไตรรัตน์ ผู้ช่วย ส.ส. เดินทางไป ยื่นหนังสือกับ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา และ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ให้ตรวจสอบและดำเนินการกับ “ชายฉกรรจ์” ที่ทำหน้าที่ “เก็บส่วย” ปัญหาคือเป็น “สีกากี” หน่วยไหน และ “นาย” คนไหนเป็น “คนสั่ง” เรื่องอย่างนี้ “ไม่มีมูลหมาไม่ขี้”….

@ก็เคยเขียนไปแล้วว่า “เมืองชายแดนด่านนอก” แห่งนี้ “ลมหายใจ” เข้า-ออก คือเรื่อง “สถานบันเทิง” ที่มีความคาบเกี่ยวกับ “การค้ามนุษย์” กับเรื่องของ “ยาเสพติด” และธุรกิจ “บ่อนการพนัน” และเรื่อง ผิดกฎหมาย ที่ “เมืองชายแดน” ทุกแห่ง “พึงมี” เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้อง “จ่ายส่วย” ให้กับ เจ้าหน้าที่รัฐ คนที่จะตอบได้ดีก็น่าจะเป็น สุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา และ พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าสุวรรณ ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา…และบทสุดท้าย เมื่อเล่นกัน “แรง” ถึงขั้นการ “เอาตาย” กับ “ชายฉกรรจ์” ชุดที่ทำหน้าที่ “เก็บส่วย” ต่อไป ธุรกิจที่ “คาบเกี่ยว” กับการ “ผิดกฎหมาย” ก็ต้องถูก “รังควาน” จาก “เจ้าหน้าที่ผู้เสียประโยชน์” และหวังว่าคงจะ “ไม่ถึงเลือดถึงเนื้อ” ….สิ่งที่อยากจะบอก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 ให้รับรู้คือ “เมืองเถื่อน” แห่งนี้ เต็มไปด้วยธุรกิจที่ผิด “กฎหมาย” ตั้งแต่ อาคาร ร้านค้า โรงแรม ก็ผิดรูป ผิดแบบ มีอนุญาต และไม่มีอนุญาต จนถึงธุรกิจ “เถื่อนๆ” มากมาย อดีตคน “สีกากี” เคยมีการ “ประมูล” ถนนซอยกันเป็นซอยๆ เพื่อการเก็บ “ส่วย” เป็น คืนๆ ไป นี่คือความ “ชั่วร้าย” ที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้นอีก หลังการ “เปิดเมือง”….

@ก็ไม่แตกต่างกับเรื่องที่มีการ “ปล่อยคลิป” ที่ อ.เมือง จ.ตรัง ถึงบ่อนการพนัน “ทรงไทยร้อยล้าน” ที่อยู่กลางใจเมือง ที่มีการ “เปิดโปง” ว่า มีการ “จ่ายส่วย” และเคยซื้อ “รถเบนซ์” ให้กับ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ทำเอา “ผู้ว่าฯ หมี” ขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ต้องสั่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว. รายงานให้ทราบใน 7 วัน และต่อมา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ก็ “กระโดดโลดเต้น” ออกมา “สำทับ” อีกที ให้จัดการ “โดยด่วน” …โถ “เขารู้กันมาตั้งนานแล้วลุง” ว่า “บ่อนทรงไทยร้อยล้าน” เป็นของ “กำนัน” คนไหน เพราะเปิดเล่นจนเป็น “บ่อนประจำเมือง” ทั้งหมดของการ “สั่งการ” เป็นเรื่อง “เต้นไปตามน้ำ” และ ผวจ.คนไหน ที่ได้ “รถเบนซ์” ก็ไม่ใช่ “ความลับ” สื่อเล็กสื่อใหญ่ ใน “ทับเที่ยง” ตอบได้หมด สุดท้าย สอบเสร็จแล้ว ไม่พบคนทำผิด บ่อนปิดไปแล้ว ฮา….อีกเรื่องที่มีการร้องเรียนจากประชาชนคือ “กองทราย” กว่า 30,000 คิว ที่กรมเจ้าท่านำมากองไว้หน้าสวนสาธารณะเทศบาลกันตัง นานกว่า 3 ปีแล้ว ยังไม่มีการขนออกไป สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เรื่องนี้ กรมเจ้าท่า กับ เทศบาล ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย….

@ “เสี่ยใหญ่” เจ้าเก่า นายทุนใหญ่ในการค้าบุหรี่หนีภาษีรายใหญ่ของภาคใต้ ถูกศุลกากรภูมิภาคที่ 4 จับกุมบุหรี่ ได้ 3 ลำเรือ ในพื้นที่ทะเลอำเภอ ตากใบ จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ลากเรือมาขึ้นที่ จ.สงขลา เที่ยวนี้ “มูลค่า” รวมค่าปรับกว่า 300 ล้าน ข่าวว่านำไปแถลงข่าวที่ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างผลงานให้นายที่ส่วนกลาง ก็บอกแล้วว่า ณ วันนี้ ธุรกิจที่ทำเงินให้กับ “นายทุน” ฝั่งทะเลภาคใต้ ถ้าไม่ใช่ “บุหรี่เถื่อน” ก็ “น้ำมันเถื่อน” ส่วนเรื่อง “ค้ามนุษย์” เป็นเรื่องที่รองลงมา สำหรับ “ยาเสพติด” นั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น “ประตู” ของการ “ขนส่ง” ออกไปยัง “ต่างประเทศ” ผ่าน มาเลเซีย-สิงคโปร์ เข้าสู่ “ตุรกี” เพื่อ “ทะลัก” เข้าสู่ “ยุโรป” อีกครั้ง ทั้งหมดคือ สถานการณ์ “ธุรกิจเถื่อน” ของ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้อง “รับรู้” และต้องแก้ปัญหา….

@เรื่อง “ไฟใต้” ที่ “ลาม” ไปสู่ “ไฟ” ศาสนา จับตา ความขัดแย้งเรื่องการ “คลุมฮิญาบ” ของ นักเรียน “มุสลิม” ที่ โรงเรียน “อนุบาลปัตตานี” เรื่องนี้ “ตรีนุช เทียนทอง” รมว.ศึกษาธิการ ต้องเป็นผู้ “ถอดสลักระเบิด” และที่สำคัญ ผู้นำ “ศาสนา” ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ต้องคิดให้ตกว่า จะเอา “กฎหมาย” หรือ หลัก “นิติศาสตร์” มาบังคับใช้ หรือว่าจะเอาหลัก “รัฐศาสตร์” ของการ “อยู่ร่วมกัน” ของสังคม “พหุวัฒนธรรม” ที่สำคัญ ที่ต้อง “ยึด” เพื่อเป็นหลัก คือการ “เคารพ” กฎกติกา ที่ เจ้าของที่ดิน กำหนดไว้ และอยู่ร่วมกันมากว่า 50 ปี โดยไม่มีปัญหา สถานที่วัด “วัดออกกฎกติกา” เช่นเดียวกับ “มัสยิด” ที่ กรรมการมัสยิดเป็นผู้กำหนด “กฎกติกา” ที่ถ้ามีการ “ละเมิด” ก็แสดงว่าไม่มีความ “เคารพ” ซึ่งกันและกัน…และคำว่า “พหุวัฒนธรรม” ไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายหนึ่งต้อง “ยอมตาม” ทุกอย่างเพื่อการอยู่ “ร่วมกัน” โดยที่ “อีกฝ่าย” ไม่ต้อง “โอนอ่อนผ่อนตาม” และที่สำคัญคือทั้งสองฝ่าย “ต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง” ถ้า “สุดโต่ง” เมื่อไหร่ นั่นคือการสุมไฟ “ศาสนา” ให้เกิดขึ้น…พบกันใหม่วันศุกร์หน้า 

——————————————————–

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

สืบสานพุทธศาสนา.   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานนำพุทธบริษัทร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีวัดเวฬุวัน (ป่าไผ่) พุทธศาสนา ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อบูรณะศาสนสถานในวัด โดยมี พ.ต.อ.ฉลอง รัตนภักดี ผกก.ศรีสาคร ร่วมสืบสานพุทธศาสนาในครั้งนี้ด้วย 

เปิดกิจกรรมเดิน-วิ่ง.  นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานเกิดกิจกรรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพซูเปอร์นิมิมาราธอน ครั้งที่ 5 ครอบรอบ 101 ปี รร.วิเชียรชม สงขลา ประจำปี 2565 นำรายได้สมทบส่งเสริมการศึกษา โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก 

กำลังใจ.   พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เยี่ยมครอบครัว สุทธิศักดิ์ หมินเส็น ซึ่งได้รับผลกระทบกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับครอบครัว ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยความห่วงใจจากกองทัพ 

ประชาธิปัตย์-นาเคียนคัพ.    นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรค ปชป. มอบถ้วยเกียรติยศ ของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ให้กับทีมฟุตบอล ประชาธิปัตย์-นาเคียนคัพ ครั้งที่ 2 จ.นครศรีธรรมราช ที่สนามกีฬาบ้านใหม่ ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก 

ตรวจสถานที่.   พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4  ส่วนหน้า ตรวจสถานีตำรวจน้ำตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งถูก กองกำลังติดอาวุธขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น บุกเข้าโจมตี เพื่อตรวจสอบความเสียหายและติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ 

ดอกไม้พระราชทาน.   สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส อัญเชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แก่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากการโจมตีของกองกำลังติดอาวุธขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่สถานีตำรวจน้ำ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 

เยี่ยมเยือนห่วงใย.   พ.ต.อ.ทวี สองส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อม ส.ส.ของพรรคฯ ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชน ในตลาดตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากการที่กองกำลังติดอาวุธ บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจน้ำตากใบ เพื่อสอบถามถึงผลกระทบและความเดือดร้อนที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับ 

ขวัญกำลังใจ.   ขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมแพทย์ ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา ปลัดจังหวัดตรัง สราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง และคณะลงพื้นที่ยัง โรงเรียนเทศบาล 1 สังขวิทย์ ถนนสังขวิทย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจเด็กนักเรียนวัย 9 ขวบ หลังถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน ขณะข้ามถนนทางม้าลายหลังเลิกเรียน 

บทบาท ผู้แทน.  เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป และ ส.ส.เขต 5 สงขลา รับมอบหนังสือร้องทุกข์จากประชาชน ที่ได้รับความไม่สะดวกจากการใช้ถนนเพชรเกษมสายเก่า หมายเลข 4287 ที่ชำรุด ซึ่งกรมทางหลวงได้ขยายเป็น 4 ช่องจราจร แต่ยังเหลืออีก 11 กม. ที่ยังไม่ได้สร้าง เพื่อเร่งรัดให้กรมทางหลวงซ่อมแซม และก่อสร้างให้แล้วเสร็จ 

เมืองกีฬา.   สุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงเเละการบินเกษตรจับมือ อำพล พงษ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา เพื่อสัญญาว่าจะร่วมมือสร้างเมืองสงขลาให้เป็นเมืองกีฬาให้ยิ่งใหญ่ในอนาคตต่อไป ณ ห้องประชุมโรงแรมสงขลาลากูนา ต.พะวง อ.เมือง สงขลา 

สลายความขัดแย้ง.   บุญพาส รักนุ้ย รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรมเวทีสาธารณะ สภาประชาสังคมชายแดนใต้ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยกระบวนการหารือและมีส่วนร่วม ที่บ้านดาโอะ อ.เมือง จ.ปัตตานี 

จุดประกายความคิด.    ศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม การเสวนาพัฒนาเมืองตานี เชื่อมโยง ตำบล มั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยมี พ.อ.ชาติชาย เกื้อกิจ รอง ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ และผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และ กลุ่มนักธุรกิจ ร่วมเสวนา ณ บักกะห์แลนด์ ฟาร์ม แอนด์รีสอร์ท อ.เมือง จ.ปัตตานี 

เยียวยา.    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มอบหมาย นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ นำทีมกลุ่มงานเยียวยา ติดตามให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดย ศอ.บต.จะติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือ 

ประเมินความพร้อม.    คณะกรรมการประเมินความพร้อมผู้ทรงคุณวุฒิด้านหลักสูตร ลงพื้นที่โรงเรียนเกาะแต้วพิทยาสรรค์ อ.เมือง จ.สงขลา โรงเรียนสังกัด อบจ.สงขลา ประเมินการจัดทำหลักสูตรพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศด้านกีฬา ศิลปะการดนตรี และเทคโนโลยีการเกษตร เห็นด้วยเป็นสถานศึกษาที่มีการจัดการศึกษาในลักษณะพิเศษ โดยมีนางจารุวรรณ ฉิมเรศ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.สงขลา เป็นประธานการประชุม 

แผนแม่บท.     โยธิน ทองเนื้อแข็ง ส.จ.เขตอำเภอกระแสสินธุิ์ จ.สงขลา ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการจัดทำแผนแม่บทบริหาร จัดการแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา (1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยว) ณ โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 

ตรวจเยี่ยม.   ธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ที่ประจำจุดตรวจชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา หมู่ที่ 5 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด และไม่ประมาท พร้อมตอบโต้ทันทีเมื่อเกิดการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย 

ช่วยเหลือ.   กระจายศักดิ์ ศรีสงค์  นายกเทศมนตรีตำบลบ่อตรุ อ.ระโนด มอบเงินช่วยเหลือแก่ ยงยุทธ รอดบุญมี ซึ่งได้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ เรือล่ม เป็นจำนวนเงิน 11,400 บาท และทีมบริหารเทศบาลตำบลบ่อตรุ มอบเงินช่วยเหลือเป็นจำนวน  3,000 บาท ไอเล โฮมสเตย์ มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000 บาท และทางบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบประมาณ 30,000 บาท ในการจัดทำบ้านปลา (ซั้ง) ร่วมกับศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปู กลุ่มบ้านพังเค็ม หมู่ที่ 1 ตำบลวัดสน อำเภอระโนด จ.สงขลา