ผลจากการศึกษาของสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าการเข้าสู่ภาวะไร้บ้านเป็นเวลานาน เสี่ยงทำให้มีปัญหาทางสุขภาพกายและจิตใจสูงขึ้น จากการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ และโควิด-19 ทำให้คนไร้บ้านในกรุงเทพฯ สูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากคนไร้บ้าน 1,307 คน เพิ่มเป็น 1,700 – 1,800 คน ขณะที่คนไร้บ้านทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 4,000 คน

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมพัฒนาสังคมสวัสดิการ และภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่จุดประสานงานช่วยเหลือคนไร้บ้านหัวลำโพง

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ต้องการทำให้คนไร้บ้านทุกคนไม่ไร้สิทธิในสังคม  โดยทาง กทม. ไม่อยากให้เรียกคนกลุ่มนี้ว่า ‘คนไร้บ้าน’ จึงร่วมกันผลักดันให้เกิดนโยบายเพื่อดูแลคนกลุ่มนี้ร่วมกับ สสส. พม. เครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาสังคม โดย กทม. สนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัยคนละครึ่ง ของ สสส. และภาคีเครือข่าย เพราะเป็นโมเดลต้นแบบที่สะท้อนให้เห็นว่าช่วยเหลือเรื่องที่พักและอาชีพของคนไร้บ้าน

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. เร่งดำเนินการสิ่งจำเป็นบรรเทาปัญหาคนไร้บ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะหากปล่อยให้เกิดการเข้าสู่ภาวะไร้บ้านเป็นเวลานาน จะทำให้มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพกายและจิตใจที่สูงขึ้น สสส. จึงได้สนับสนุนการดำเนินงาน 5 ด้านร่วมกับมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัยและภาคีเครือข่าย ได้แก่ 1.ด้านความมั่นคงทางอาหาร การจัดทำครัวกลาง  จำหน่ายอาหารราคาถูก 2.ด้านที่อยู่อาศัย พัฒนาศูนย์พักคนไร้บ้านใน 4 พื้นที่ กรุงเทพมานคร ปทุมธานี เชียงใหม่ และขอนแก่นให้มีกระบวนการพัฒนาศักยภาพรายบุคคลให้ตั้งหลักชีวิตได้ มีความสามารถในการอยู่ร่วมกับคนอื่น และประสานงานกับภาคส่วนต่างๆได้ 3. ด้านบริการสาธารณสุข สนับสนุนเวชภัณฑ์ที่จำเป็นการรับรองสิทธิในการเข้าถึงบริการสุขภาพ 4. การจัดตั้งจุดประสานงานเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านในพื้นที่สาธารณะ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลประชากรกลุ่มเปราะบาง และ 5. ด้านการประกอบอาชีพเพื่อให้คนไร้บ้านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ และกลับคืนสู่ครอบครัวและชุมชน

“การเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ลดความเสี่ยงจากการใช้ชีวิตบนพื้นที่สาธารณะ สสส. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนา “นวัตกรรมการจัดบริการที่อยู่อาศัยและความช่วยเหลือฉุกเฉินบนฐานการมีส่วนร่วมของคนไร้บ้าน” หรือโครงการ “ที่อยู่อาศัยคนละครึ่ง” เพื่อจัดการที่อยู่อาศัยผ่านการมีส่วนร่วมของคนไร้บ้านในรูปแบบ “แชร์” ค่าเช่าที่อยู่อาศัย ร่วมกับกองทุนที่เครือข่ายคนไร้บ้านและมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคนไร้บ้านต้องสมทบค่าเช่าร่วมกับโครงการฯ ในสัดส่วน 60:60 ของค่าเช่าห้อง ซึ่งส่วนเพิ่มร้อยละ 20 ของการสมทบจากคนไร้บ้าน จะนำไปเป็นเงินกองทุนช่วยเหลือสมาชิกกลุ่มด้านอื่นๆ การดำเนินการตั้งแต่เดือนก.พ. – เม.ย.ที่ผ่านมา พบคนไร้บ้านกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงที่อยู่อาศัย 30 คน และมีกองทุนสะสมเครือข่ายฯ กว่า 3 หมื่นบาท เดือน พ.ค.-ก.ค. มีผู้สนใจเข้าร่วมอีก 20 คน และเดือน มิ.ย.-ส.ค. จะเพิ่มอีก 10 คน สะท้อนว่าโครงการนี้ช่วยให้เข้าถึงที่อยู่อาศัย ทำให้คนไร้บ้านเข้าถึงงาน และรายได้ที่เพียงพอ มีเงินออม” นางภรณี กล่าว

ด้าน นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน ผู้จัดการแผนงานพัฒนาองค์ความรู้ฯ สุขภาวะคนไร้บ้าน สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มีข้อเสนอเรื่องคนไร้บ้านต่อผู้บริหารกรุงเทพมหานครชุดใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ การทำระบบฐานข้อมูลคนไร้บ้านในกรุงเทพมหานครที่ครอบคลุม ที่จะช่วยให้เกิดการสนับสนุนและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านและกลุ่มเปราะบางต่อภาวะไร้บ้านที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาการสนับสนุนระบบการเช่าที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเปราะบางต่อภาวะไร้บ้านและคนไร้บ้านหน้าใหม่ ควบคู่กับการทำงานเชิงรุกทั้งการช่วยเหลือฉุกเฉินในพื้นที่สาธารณะและการค้นหากลุ่มเปราะบางต่อภาวะไร้บ้านในชุมชน

ทั้งนี้การทำงานเชิงรุกลงพื้นที่เยี่ยมคนไร้บ้านเพื่อสร้างความมั่นคงต่อจิตใจของคนไร้บ้าน  และป้องการการเข้าสู่ภาวะไร้บ้านในระยะยาว