สัปดาห์ที่แล้วนั่งอ่านข่าวสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ไปกล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาหลักสูตรราชวิทยาลัยการปกครองปี 2020-2021 และกล่าวเปิดหลักสูตรปี 2022 ว่ากัมพูชายังคงจริงจังในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจผ่านหลายนโยบาย เช่น การควบคุมเงินเฟ้อ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค และการรักษาค่าเงินในประเทศ

หลังจากทั่วโลกเริ่มคลี่คลายจากปัญหาโควิด-19 แต่ต้องมาเจอกับปัญหาสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ จึงเป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในกัมพูชาและเศรษฐกิจทั่วโลก

แม้นักเศรษฐศาสตร์จะแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร แต่สมเด็จฯ ฮุน เซน ย้ำว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาไม่เสี่ยงที่จะพังทลาย แม้จะเจอทั้งวิกฤติโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนตามมา เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกปีนี้ การส่งออกมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ผลผลิตข้าวมีส่วนเกิน รวมทั้งการปศุสัตว์และปลา มีส่วนเกินด้วย

Opposition in Kambodscha: Sam Rainsy im Kreisverkehr

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของกัมพูชาขยายตัวด้วยตัวเลขสวย ๆ มาโดยตลอด และธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 65 จะโต 4.5% ส่วนปี 66 เศรษฐกิจจะโต 5.8%

สมเด็จฯ ฮุน เซน เคยเป็นทหารมาก่อน และเป็นนายกฯ มาแล้ว 24 ปี แต่ยิ่งอยู่นานยิ่งเก่ง ยิ่งเก๋า โดยเฉพาะภาวะและบทบาทผู้นำทั้งในประเทศและเวลาไปต่างประเทศไม่ธรรมดาเลย การเจรจาต่อรองนี่ถือว่าเยี่ยมยุทธ์ ยิ่งมาพูดถึงการควบคุมเงินเฟ้อ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ “มหภาค” และการรักษาค่าเงินในประเทศ ย่อมแสดงว่ารู้จริงเรื่องเศรษฐกิจ

หันมาประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ไม่รู้จริงๆ ว่า “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” และผู้นำประเทศรู้เรื่องเงินเฟ้อบ้างหรือเปล่า? ที่ถามแบบนี้เพราะในชีวิตประจำวันของท่านใช้ของฟรี! เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลวงฟรี น้ำ-ไฟฟรี ค่ารถฟรี มีคนขับให้ด้วย ค่าน้ำมันฟรี แถมข้าวกลางวันในที่ทำงานก็คงฟรี! ด้วย

ท่านจึงอาจไม่ค่อยรู้ผลกระทบของประชาชนเวลาน้ำมันแพง แก๊สหุงต้มขึ้นราคา มันส่งผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัสไปทุกภาคส่วน ทั้งค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าโดยสาร ค่าขนส่ง ต้องปรับขึ้นราคากันหมด

เที่ยวก่อนผู้ประกอบการรถบรรทุกฮึ่ม ๆ นัดกันหยุดวิ่งเพื่อประท้วงราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นสูง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็สั่งให้ 3 เหล่าทัพ เตรียมรถยนต์ไว้ให้พร้อม เพื่อช่วยขนสินค้าหากรถบรรทุกของภาคเอกชนหยุดวิ่งขึ้นมาจริง ๆ

แต่เที่ยวนี้ดีขึ้นมาหน่อย น้ำมันแพงจนสมาคมกิจการรถโดยสารแบกภาระต่อไปไม่ไหว ต้องประกาศลดเที่ยววิ่ง 80% เริ่มวันที่ 1 ก.ค. 65 หัวหน้าทีมเศรษฐกิจจึงสั่งให้การรถไฟฯ (รฟท.) บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) เตรียมรถไว้ให้พร้อม

แต่ที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะขาดไม่ได้เลย คือการย้ำเตือนให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน ด้วยการเปิดแอร์ 27 องศาฯ พร้อมทั้งเปิดพัดลม รวมทั้งการเปิดปิดไฟ ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ และการประชุมออนไลน์

ผู้ว่าฯ กทม. บอกกับข้าราชการ กทม. ให้แต่งกายสบาย ๆ ตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องใส่สูท จะผูกเนกไทหรือไม่ผูกก็ได้ แต่ถ้าไปประชุมร่วมกับหน่วยงานอื่นควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย

นี่ผู้ว่าฯระดับดอกเตอร์ทางด้านวิศวะ ไม่ต้องพูดเรื่องประหยัดพลังงาน ไม่ได้สอนให้ใครปรับลดแอร์ แต่ถ้าไม่ใส่สูท ไม่ผูกเนกไท มันก็ไม่ค่อยร้อนอยู่แล้ว

แต่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “จุลภาค” แนะนำให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัวไว้กินไข่ ขยันพูดจัง! ให้ประชาชนล้างแอร์ ปรับลดแอร์ แต่คณะรัฐมนตรียังใส่สูท ผูกเนกไท บางวันใส่ชุดผ้าไหมทั้งคณะ ถามตรง ๆ เวลานั่งประชุมกันเปิดแอร์ 25-27 องศาฯ ได้หรือเปล่า!!

—————–
พยัคฆ์น้อย