รายงานข่าวจาก ฝ่ายวิจัยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน ภัทร (KKP Research) เปิดเผยคาดการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น อาจจุด “ชนวนระเบิดหนี้ครัวเรือน” ที่เป็นปัญหาใหญ่ของไทย โดยกลุ่มที่มีความน่ากังวลมากสุดคือ หนี้ภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันสูงขึ้นเกิน 90% ของจีดีพี และสูงเป็นลำดับ 11 ของโลก เกิดจากการที่คนมีรายได้ไม่พอรายจ่าย โดยเฉพาะครัวเรือนรายได้น้อยที่สุด 20% มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท ขณะที่มีรายจ่าย 12,000 บาท จึงจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อมาบริโภค และปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรงและหนักหน่วงกว่าประเทศอื่น เนื่องจากไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งสูงที่สุด ราคาสินค้าและกลุ่มพลังงานที่แพงขึ้น ทำให้เงินออมลดลงและหนี้เสียของไทยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระยะเวลาข้างหน้า

ที่จริง หนี้ครัวเรือนวิกฤติมาหลายปีแล้ว โควิด สงครามรัสเซีย ยูเครน วิกฤติพลังงานแค่ซ้ำเติมเป็น “มหาวิกฤติ” ตัวเลขสำนักงานสถิติก็ชัดเจน ปี 60 คนไทยมีรายได้ (รวมโอที ดอกเบี้ย กู้ยืมมา) เฉลี่ย 1.9 หมื่น ผ่านไป 5 ปีกลับมีรายได้ 1.8 หมื่น เป็นไปได้ไง ยิ่งนาน ยิ่งจน ยิ่งมีแต่หนี้?!?

บัญชีเงินฝาก 90% ของคนไทยมีเงินไม่ถึงหมื่น การขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติเพื่อสกัดเงินเฟ้อและเงินไหลออก จะยิ่งซ้ำเติมให้คนไทยหมดความสามารถจ่ายหนี้คืนมากขึ้นไปอีก

ทั้งบ้าน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ จะถูกยึดมากขึ้นครก ไห หม้อ เลื่อย จักรเย็บผ้า อุปกรณ์ทำเกษตร จะเข้าไปนอนในโรงรับจำนำ ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้การบริหารงานของ “ระบอบประยุทธ์” ที่มี 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นหัวขบวนขับเคลื่อนประเทศ โดยทุก “องคาพยพ” ของอำนาจอยู่ในมือ 3 ป. ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

ฝีมือ ประสิทธิภาพ กึ๋น ความเก่งกาจ นำพาประเทศ นำพาชีวิตคนไทย ดีขึ้น ดิ่งเหว ขึ้นสวรรค์ลงนรก ขนาดไหน คนไทยมีสมอง คิดได้ คิดออก ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกแม้แต่น้อย

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะแลนด์สไลด์ เกือบ 1.4 ล้านเสียง มากสุดในประวัติศาสตร์ คือคำตอบแจ่มชัดแล้ว ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ “นิด้าโพล” สำรวจความเห็น (20-23 มิ.ย. 65) อยากให้ใครเป็นนายกฯ ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะได้คะแนนนิยมสูงสุด 25.28% ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ 11.68% ทั้งที่ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้เป็น ส.ส.หรือแคนดิเดตนายกฯ ด้วยซ้ำ แต่ประชาชนอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ และชื่นชอบพรรคเพื่อไทย กับชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร เป็นต้น

แม้ปากจะบอกก็แค่โพล แต่เครือข่ายอำนาจก็เก็บอาการไม่อยู่ ออกมาดิ้นกัน ดร.เสรี วงศ์มณฑา หน.ทีมสร้างภาพลักษณ์นายกฯ เรียกร้องให้สลิ่มอย่านิ่งนอนใจหรือเฉยเมยกับโพล ให้ทุกคนช่วยกันโฆษณา (ชวนเชื่อ) ผลงาน 8 ปีของลุงตู่เทียบกับ 10 ปีของคนแดนไกล ช่วยกันพูดถึงความเจ็บช้ำน้ำใจที่ทำกับบ้านเมืองอย่าแค่เบื่อลุง “ต้องช่วยกันเปลี่ยนตัวเลขโพลนะคะ” ว่าเข้าไปโน่น

ดิ้นหนักกว่า ดร.เสรี ก็ ส.ว.ลากตั้ง วันชัย สอนศิริ คนที่สมรู้ร่วมคิดให้การทำประชามติเปิดทางให้ ส.ว.ลากตั้งเลือกนายกฯได้ในบทเฉพาะกาล 5 ปี โพสต์ไม่ให้ “อุ๊งอิ๊ง” ชิงสุกก่อนห่าม ไม่งั้นตัวเองและครอบครัวเพื่อไทยจะมีอันเป็นไปแบบแลนด์สไลด์ถล่มทลาย “ตำแหน่งนายกฯไม่ใช่ของเล่นที่ใครจะเอาไปเล่นกันได้ง่าย ๆ แบ่งให้คนในครอบครัวอื่น ๆ โดนปฏิวัติรัฐประหารบ้าง อย่าเหมาแต่ครอบครัวตัวเอง”……นี่เล่นหนุนอำนาจนอกระบอบแบบไม่อายฟ้าอายดินจริง ๆ

เจ้าตัวคงลืมไปว่า มาจากสภาที่นักข่าวตั้งให้ว่า “สภาปรสิต” ซึ่งหมายถึงคนที่มาเกาะกินภาษีและอำนาจของประชาชนโดยที่ประชาชนไม่ได้ยอมรับด้วย ลากตั้งกันมาเอง ผลงานสำคัญ นอกจาก (ลาก) ตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ เล่น ๆ ตั้ง 8 ปีแล้ว ก็คือลากตั้งผัวเมียลูกและญาติโกโหติกาตัวเองมากินเงินภาษีอีก….

ดังนั้น เงียบเถอะ ทั้งที่การเมืองมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ถ้าประชาชนเลือก แพทองธาร จริง ๆ แล้วไง จะ “ปฏิวัติ” อีกหรือ อยากท้าทายประชาชน ก็ทำได้อยู่แล้วนะ แต่ขออนุญาตนำคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ และปรมาจารย์ของนักข่าวมาใช้หน่อยเถอะว่า

ก็เอาสิ กูไม่กลัวมึงหรอก…ไหน ๆ หนี้ครัวเรือนก็จะระเบิด หาอนาคตแทบไม่เจออยู่แล้ว

———————-
ดาวประกายพรึก