ยกให้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์เกาหลี ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งในปีนี้ สำหรับ “BROKER (โบรกเกอร์) จัดหารัก” ที่ถือเป็นโปรเจ็กต์รวมดาว กับการระดมทีมงานมากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น ฮิโรคาสุ โคเระเอดะ ผู้กำกับชาวญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลปาล์มทองคำ บนเวที เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 จากผลงาน “Shoplifters ( ครอบครัวที่ลัก)” พร้อมทัพนักแสดงดังระดับตัวท็อปของวงการ อย่าง ซงคังโฮ , แบดูนา , คังดงวอน และ อีจีอึน หรือ ไอยู มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวที่สร้างมาจากข่าวที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลี และยังได้ได้ผู้กำกับภาพ ฮงคยองเปียว ตากล้องคนดังจาก “Parasite” และ “Burning” มากำกับภาพให้

โดย “BROKER จัดหารัก” ได้เข้าฉายในสายประกวดหลัก เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปีนี้ ก่อนได้รับเสียงปรบมือยาวนานถึง 12 นาทีเต็มหลังฉายจบ รวมทั้งผู้คนกว่าครึ่งโรงร้องไห้ และหลายคนยังบอกว่า ไอยู ได้มอบการแสดงที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอ! ขณะที่ ซงคังโฮ สามารถคว้า “รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” จาก เทศกาลหนังเมืองคานส์ ปีนี้ไปครองสำเร็จจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว รวมทั้ง “BROKER จัดหารัก” ยังคว้า “รางวัล Ecumenical” มาด้วยอีกรางวัล ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับหนังที่เชื่อมั่นในความดีของมนุษย์ ขณะที่นักวิจารณ์จาก BBC กล่าวว่า “BROKER จัดหารัก” เป็นหนังที่ชวนให้อิ่มเอมใจที่สุดใน “เทศกาลหนังเมืองคานส์” ปีนี้ ส่วนรายได้ก็ยังสุดปัง! เพราะสามารถทำเงินอันดับ 1 ในวันแรกที่เข้าฉายในเกาหลี เข้าฉายเพียง 1 สัปดาห์ ขายตั๋วไปได้กว่า 8 แสนใบ

ได้เห็นฟอร์มสุดร้อนแรงของ “BROKER จัดหารัก” แบบนี้ “ฮาอึน” จึงไม่พลาดพาแฟน ๆ ไปลงลึกถึงที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ พร้อมพูดคุยกับเหล่านักแสดงนำแบบจัดเต็ม!

สำหรับ “BROKER จัดหารัก” เล่าเรื่องราว “ซังฮยอน” (ซงคังโฮ) เป็นเจ้าของร้านซักรีดและเป็นอาสาสมัครทำงานให้โบสถ์ใกล้บ้าน ใครๆ ต่างก็มองว่าเขาเป็นคนใจบุญ แต่ลับหลังนั้น เขาและ “ดงซู” (คังดงวอน) ลูกน้องคนสนิท กลับขโมยเด็กจาก “กล่องทารก” ของโบสถ์ (กล่องที่โบสถ์ทำไว้สำหรับให้พ่อแม่นำทารกที่ตนไม่พร้อมเลี้ยงดูมาวางไว้) แล้วนำเด็กไปขายในตลาดมืด ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแทบทุกครั้ง จนกระทั่งมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว “โซยอง” (ไอยู) ดันเปลี่ยนใจ กลับมาเอาลูกน้อยของเธอคืน “ซังฮยอน” และ “ดงซู” จึงพยายามโน้มน้าวให้หญิงสาวเปลี่ยนใจ และการเดินทางของทั้งสามคนก็ได้เริ่มขึ้น เพื่อค้นหาคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ที่จะเลี้ยงดูลูกของ “โซยอง” ในขณะเดียวกัน ตำรวจหญิงสองคน อย่าง “ซูจิน” (แบดูนา) และ “นักสืบอี” (อีจูยอง) ก็กำลังสะกดรอยตามแก๊งค้าเด็ก และหมายจะเข้าจับกุม “ซังฮยอน” ให้ได้คาหนังคาเขา!

ในส่วนไอเดียตั้งต้นในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่ โคเรเอดะ ได้คุยกับ แบดูนา ว่าอยากร่วมงานกับเธออีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันใน “Air Doll” ในขณะเดียวกัน โคเรเอดะ ก็สนิทสนมกับ ซงคังโฮ เพราะเจอหน้ากันบ่อยในเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลก และเขายังสนิทกับ คังดงวอน อีกด้วย โดยทุกครั้งที่ คังดงวอน ไปญี่ปุ่น ก็จะนัดทานข้าวกับ โคเรเอดะ ผู้กำกับคนดังจึงฝันว่า สักวันหนึ่งถ้าโอกาสเหมาะๆ เขาอยากทำหนังที่พูดภาษาเกาหลี และได้นักแสดงทั้ง 3 คนมาร่วมงาน

ทั้งนี้ โคเรเอดะ ทราบข้อมูลเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์บุตรบุญธรรมของเกาหลีครั้งแรก ตอนหาข้อมูลทำหนังเรื่อง “Like Father, Like Son” (ปี 2013) เขานำไอเดียนั้นมาพัฒนาต่อ และคิดว่าอยากทำ “BROKER จัดหารัก” ให้มีธีมเดียวกับหนังเรื่อง “Shoplifters” คือพูดถึงคนชายขอบในสังคมที่พัฒนาแล้ว และการสร้างครอบครัวโดยไม่อิงความผูกพันทางสายเลือด แต่ยิ่งเขียนบทไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่า มันก็ยิ่งออกห่างจาก “Shoplifters” ขึ้นทุกที จนกลายเป็นหนังที่แตกต่างกัน โคเรเอดะ ยังเล่าอีกว่า ในขั้นตอนการเขียนบท ซงคังโฮ มีส่วนช่วยเขาอย่างมาก หลายต่อหลายฉากในบทนั้นมาจากการพูดคุยระหว่างเขาและ ซงคังโฮ รวมถึงตอนจบของหนังด้วย

ด้าน ซงคังโฮ นักแสดงมากฝีมือ ที่โด่งดังสุดขีดจากหนัง “Parasite” ได้เผยถึงบทบาทคนบาปในคราบนักบุญ ในภาพยนตร์ “BROKER จัดหารัก” ว่า “การทำงานใน ‘โบรกเกอร์’ ก็เหมือนกับงานชิ้นอื่นของผม ผมไม่พยายามตีความอะไรเกินเลยกว่าบท ผมไม่เคยสงสัยหรือตั้งคำถามถึงภูมิหลังของตัวละครนัก ผมอยากให้ตัวละครของผมมีความคลุมเครือบางอย่างอยู่ ผมแสดงอารมณ์ไปตามสถานการณ์ โดยไม่นึกถึงอดีตหรืออนาคตของตัวละครเลยครับ”

นอกจากนี้เขายังได้เผยความรู้สึก หลังที่สามารถคว้า “รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 75 จากบทบาทการแสดงในหนังเรื่องนี้ว่า “บอกตรงๆ เลยนะ ตอนทีมงานของเทศกาลเมืองคานส์ติดต่อให้เรามาร่วมงานพิธีปิด ผมก็เริ่มกังวลแล้ว ปกติพวกเขาจะเรียกทีมงานหนังราว 7 เรื่องจาก 21 เรื่องที่เข้าประกวดให้กลับมาร่วมงาน เพราะ 7 เรื่องนั้นจะต้องได้รางวัลใดรางวัลหนึ่งจากคณะกรรมการ จนกระทั่งชื่อของผมถูกประกาศบนเวที ใจผมหล่นวูบเลย บงจุนโฮ (ผู้กำกับ Parasite) และคิมจีอุน (ผู้กำกับ I Saw the Devil) ส่งข้อความมาแสดงความยินดีทันทีเลย เพราะพวกเขานั่งดูไลฟ์สดทางยูทูบ ซึ่งในฐานะนักแสดง ผมไม่เคยมองว่าการได้รางวัลคือเป้าหมายสูงสุดของอาชีพนี้ ผมแค่อยากเป็นนักแสดงที่ดี ที่ได้อยู่ในหนังที่ดี และผมก็ดีใจที่ผมได้อยู่ในหนังเรื่อง ‘โบรกเกอร์’ ได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่เก่งกาจอย่างโคเรเอดะ ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงทุกคนที่เก่งกันมากๆ ครับ”

ซงคังโฮ มาเทศกาลเมืองคานส์หลายรอบแล้ว และหนังที่เขาเล่นก็ได้รางวัลจากคานส์หลายเรื่อง เช่น “Secret Sunshine” (ปี 2007) ผลงานผู้กำกับ อีชางดง , “Thirst” (ปี 2009) ผลงานผู้กำกับ พักชานอุก และ “Parasite (ปี 2019) ผลงานผู้กำกับ บงจุนโฮ แต่อีกความปลาบปลื้มใจหนึ่งของ ซงคังโฮ คือนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาครอบครัวมาเที่ยวเมืองคานส์ด้วย เขาเผยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพาลูกชายมาเมืองคานส์ การได้รางวัลในปีนี้ มันจึงยิ่งมีความหมาย เพราะคนในครอบครัวของผมได้มาเป็นประจักษ์พยานความสำเร็จของงานที่ผม” ตอนทีมงาน “BROKER จัดหารัก” กลับมาถึงสนามบินอินชอน มีนักข่าวและประชาชนมาต้อนรับอย่างอบอุ่น สื่อในเกาหลีกล่าวยกย่อง ซงคังโฮ เป็นวีรบุรุษ เขาให้สัมภาษณ์ที่สนามบินว่า “ขอบคุณแฟนหนังชาวเกาหลีทุกคนที่สนับสนุนหนังเกาหลี ผมคิดว่าความสำเร็จของหนังเกาหลี ส่วนหนึ่งก็มาจากแรงสนับสนุนของแฟนหนังเกาหลีนี่แหละครับ”

ขณะที่ คังดงวอน หนึ่งในสี่พระเอกที่เป็นสมบัติของเกาหลี ซึ่งรับมาแล้วหลากหลายบทบาท ตั้งแต่นักต้มตุ๋น จอมกระล่อนใน “A Violent Prosecutor” ไปจนถึงฮีโร่ทหารกล้า ในหนังแนวหลังโลกล่มสลาย ระดับบล็อกบัสเตอร์ อย่าง “Peninsula” ล่าสุดเจ้าตัวได้มาสวมบทที่ท้าทายอีกครั้งใน อย่าง “ดงซู” นายหน้ารับซื้อขายเด็ก ผู้เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขาคือใคร ก่อนจับมือกับ “ซังฮยอน” เจ้าของร้านซักรีด ขโมยเด็กจาก “กล่องทารก” ในสถานที่ที่ผู้คนสามารถทิ้งทารกแรกเกิดได้ โดยต้องไม่เปิดเผยตัว พวกเขาใช้ “เหตุผลจากเจตนาที่ดี” กับการใช้ทางลัดให้เด็ก ๆ หาบ้านใหม่ได้ ในขณะเดียวกันมันก็สร้างเม็ดเงินให้กับพวกเขา

“สำหรับ ‘ดงซู’ เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ผมอยากถ่ายทอดเขาออกมาให้เป็นคนที่ค่อนข้างเติบโตมาอย่างดีและสดใส ผมไม่อยากถ่ายทอดเขาให้ดูโศกเศร้าหดหู่ครับ” พระเอกหนุ่ม เผยพร้อมบอกด้วยว่า เขาได้สัมภาษณ์ผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับ “ดงซู” เพื่อสร้างคาแรกเตอร์นี้ขึ้นมา “ผมพยายามจับเอาเรื่องราวของผู้คนที่เหมือนกับ ‘ดงซู’ ซึ่งเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผย แต่ผมก็พยายามที่จะเก็บเอาความรู้สึกข้างในเหล่านั้น ซึ่งมีคนอายุเยอะแล้วคนนึง ที่ผมได้ถามเขาไปว่าอยากเจอคุณแม่ของเขามั้ย และเขาตอบมาว่าความรู้สึกที่อยากเจอแม่ของเขาอย่างแรงกล้านั้นมันค่อย ๆ จางหายไปเมื่อเขาโตขึ้น แต่เขาก็ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า เขาก็อยากเห็นคุณแม่ของเขาสักครั้งก่อนตายนะ และความรู้สึกทั้งสองอย่างนี้แหละที่เป็นพื้นฐานในการถ่ายทอดคาแรกเตอร์นี้ของผมครับ”

นอกจากนี้ คังดงวอน ยังบอกอีกว่าเขาหวังว่ามันจะให้ความรู้สึกปลอบประโลมผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ “สิ่งหนึ่งเลยที่ผมได้เรียนรู้เมื่อผมได้พบกับผู้คนจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็คือ พวกเขาเจ็บปวดครับ… ผมได้ยินมาว่าเด็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยากได้รับการดูแลอุปถัมภ์มาก ๆ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเห็นรถขับเข้ามาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาก็จะวิ่งเข้าไปหาและวิ่งตาม ผมหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจได้ถึงความสิ้นหวังนั้น ๆ และความหวังที่เด็ก ๆ รู้สึก และผมก็หวังด้วยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมอบการปลอบโยนแก่พวกเขาครับ”

ทั้งนี้ คังดงวอน ได้เผยถึงความปลื้มใจ หลังเห็นฟีดแบ๊กที่ดีต่อ “BROKER จัดหารัก” ว่า “ผมเซอร์ไพร้ส์มาก ที่ได้เห็นผู้ชมในเทศกาลหนังเมืองคานส์ร้องไห้ระหว่างที่ชมภาพยนตร์ ผมรู้สึกโล่งใจจริง ๆ ที่ภาพยนตร์ได้รับการยอมรับ ซึ่งภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจนั้นเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันเรายังขนาดแคลนภาพยนตร์ที่ดึงดูดความเป็นมนุษย์ มันเป็นความจริงมาก ๆ ของเกาหลีใต้ที่ภาพยนตร์ใหม่ ๆ จะเบนไปในบางประเภท ซึ่งผมหวังว่าจะมีภาพยนตร์อีกหลาย ๆ เรื่อง ที่มีเรื่องราวซาบซึ้งจับใจเหมือนอย่าง ‘โบรกเกอร์’ ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ครับ”

คังดงวอน บอกเพิ่มเติมว่าเขาได้เข้ามาร่วมงานภาพยนตร์เรื่องนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาบท หลังจากที่ได้พบกับผู้กำกับประมาณ 7 ปีก่อน และพูดคุยเกี่ยวกับการทำโปรเจ็คต์นี้ด้วยกัน “ระหว่างที่เราพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันก่อนที่จะมีตัวบท ผมก็มีส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาบทแล้วครับ ผมอยากช่วยหาโลเคชั่นในการถ่ายทำด้วย แต่ว่าผมอยู่ที่ต่างประเทศในตอนนั้นเลยทำไม่ได้… ดังนั้นนี่ถือเป็นโปรเจ็กต์แรกที่ผมมีส่วนในขั้นตอนการผลิตด้วยครับ”

ส่วนการได้มาร่วมงานกับ ซงคังโฮ อีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยแสดงด้วยกันมาแล้วในภาพยนตร์แอคชั่น “The Secret Reunion” เมื่อปี 2010 คังดงวอน บอกว่า “มันสนุกมากครับ เคมีที่ดีนั้นคือตอนที่คุณรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่พาร์ทเนอร์ของคุณจะทำ เพียงแค่มองเขา คุณอาจเข้าใจสิ่งเหล่านี้นะหากว่าคุณรู้เกี่ยวกับการเต้น คือตอนที่คุณหายใจเข้า พาร์ทเนอร์ของคุณก็จะหายใจเข้าด้วย และเมื่อตอนที่คุณหายใจออก พาร์ทเนอร์ของคุณก็จะหายใจออกเช่นกัน”

สำหรับ “ดงซู” ไม่เคยมีพ่อแม่ และได้เก็บความขุ่นเคืองใจต่อคนที่ถอดทิ้งลูกเอาไว้ในกล่อง แต่เมื่อเขาได้เดินทางไปกับ “โซยอง” เพื่อค้นหาพ่อแม่ใหม่ ผู้ที่สามารถเลี้ยงดูลูกชายของเธอได้อย่างดี เขาก็ได้เรียนรู้มันมีอะไรที่มากกว่าการยอมละทิ้งลูกของตัวเองไป

ไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ คังดงวอน จึงยกให้โมเม้นต์ที่ “โซยอง” พูดว่า “ขอบคุณนะที่เข้ามาในโลกนี้” ต่อทุก ๆ คนในห้อง รวมถึงตัว “ดงซู” เองที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน “ผมคิดว่าคำพูดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ ‘ดงซู’ อยากได้ยินจากโลกใบนี้ครับ เขามีคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบในใจเขา ทำไมแม่ของเขาถึงได้ทิ้งเขาไป หลังจากที่ได้รู้จักกับ ‘โซยอง’ ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าใจแม่ของเขา รวมทั้งสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เธออาจเคยต้องเจอ เขาเติบโตขึ้นหลังจากที่ได้พบกับโซยองครับ” คังดงวอน เปิดใจ

ส่วน ไอยู ศิลปินสาวขวัญใจแฟน ๆ ถูกคัดเลือกให้มารับบทสำคัญในหนัง หลังจากที่ โคเรเอดะ ได้ดูการแสดงของเธอในซีรีส์ “My Mister” แล้วรู้สึกชอบมาก ๆ ซึ่งศิลปินสาวเอง ก็ได้เปิดใจถึงการแสดงครั้งนี้ว่า มันทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ไอยู เท้าความให้ฟังว่า เมื่อหลายปีก่อน สมัยยังเป็นวัยรุ่นเธอเคยเข้าไปถ่ายละครในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า “ฉันไปอยู่ในนั้น และได้เพื่อนสนิทหลายคนที่เป็นเด็กกำพร้าที่นั่น ฉันรักพวกเขามาก นั่นเลยทำให้ตอนมาเล่น ‘โบรกเกอร์’ ฉันต้องระวังอยู่เสมอว่า เอ๊ะ! บทบาทที่ฉันได้รับ จะทำให้พวกเขาเสียใจหรือเปล่านะ ฉันกังวลมากเลยล่ะ” และด้วยความกังวลนั้นเอง ทันทีที่ “BROKER จัดหารัก” เข้าฉายโรงในเกาหลีวันแรก เธอจึงรีบชวนเพื่อนๆ กลุ่มนั้นมาดูหนังด้วยกัน “ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังเรื่องนี้จะทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นขึ้น” ศิลปินสาว เผย

เมื่อให้พูดถึงบทบาทที่เธอได้รับในเรื่อง ไอยู เล่าว่า “ก่อนหน้ามารับบท ‘โซยอง’ ฉันจินตนาการไม่ออกหรอกว่าคนที่ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีความรู้สึกอย่างไร ต้องเจ็บปวด ต้องพบเจอกับความยากลำบากแค่ไหน เพราะมันเป็นสิ่งที่ห่างไกลตัวฉันมากเหลือเกิน”

เรื่องนี้ ไอยู ต้องเล่นเป็นคุณแม่ยังสาว ที่ตัดสินใจนำลูกไปทิ้งไว้ ก่อนจะลังเลกลับไปเอาคืน แล้วพบว่าลูกของเธอถูกพวกนายหน้ากำลังจะเอาไปขาย “การแสดงได้กระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในส่วนลึกของฉัน ความรู้สึกสะเทือนใจที่ว่านั้นมันจะไม่มีทางถูกปลุกขึ้นมาเลย ถ้าฉันใช้ชีวิตตามปกติ และไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ แน่ล่ะ มันก็เหมือนทุกงานที่ฉันทำ ฉันพยายามทำมันให้ดีที่สุด และฉันกังวลมากว่าผลงานจะออกมาดีหรือเปล่า ทุกคนเป็นนักแสดงมืออาชีพ แต่ฉันยังอ่อนประสบการณ์ ยิ่งพอรู้ว่าหนังได้เลือกฉายในเทศกาลเมืองคานส์ ฉันยิ่งวิตกกังวล กลัวว่าตัวเองจะทำพลาด แต่หลังจากหนังฉายรอบปฐมทัศน์และคนดูปรบมือ โอ้โห! เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยค่ะ” ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถทิ้งท้าย

มาพิสูจน์ถึงความอิ่มเอมจากเรื่องราว “กล่องใบนี้นำพวกเขามาพบกัน” ที่จะเป็นพลังเยียวยาทุกหัวใจใน “BROKER (โบรกเกอร์) จัดหารัก” ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์