ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กลายเป็นทีมกีฬาขวัญใจยอดนิยมอันดับ 1 ของแฟนกีฬาชาวไทย ซึ่งอาจจะรวมถึงแฟนคลับลูกยางบางส่วนจากทั่วโลกไปแล้วในชั่วโมงนี้ ด้วยผลงานในสนามจากศึกวอลเลย์บอลหญิง “เนชั่นส์ ลีก 2022” รอบคัดเลือก ตลอดทั้ง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าสาวไทยทำได้ดีเกินความคาดหมายจริง ๆ

ผลการแข่งขันอาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าจะมองกันจริง ๆ แล้ว ความเป็นขวัญใจมหาชนของทีมนักตบลูกยางสาวไทยชุดนี้ มาจากการที่พวกเธอเป็นมากกว่านักกีฬาทีมชาติไทย ทุกคนทำหน้าที่เพื่อตัวเอง เพื่อประเทศชาติ และเพื่อคนไทย ได้อย่างน่าภาคภูมิใจที่สุด

ถ้าจะบอกว่าพวกเธอคือ “ทูตวัฒธรรม” ตัวจริงเสียงจริงก็คงจะไม่ผิดแต่อย่างใด

ทีมนักตบลูกยางสาวไทย ชุดนี้จะไปต่อยอดสร้างประวัติศาสตร์หน้าต่อไป ใน “ศึกเนชั่นส์ ลีก 2022” ที่กรุงอังการา ประเทศตุรี ระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.นี้ โดยมีคิวลงแข่งขันรอบไฟนอลส์ หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในระบบน็อกเอาต์ พบกับเจ้าภาพ สาวตุรกี ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ เวลา 22.30 น.

แต่ก่อนที่จะจับเครื่องบินเดินทางไปในวันที่ 10 ก.ค.นี้ เราได้รับเกียรติจาก “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ กัปตันทีมสาวจอมแกร่ง ผู้สืบทอดทายาทมาจาก “กัปตันกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ มาถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ให้เราได้สื่อผ่านไปยังแฟนกีฬาชาวไทย จะเป็นแง่มุมใดบ้างนั้นเธอจะมาเล่าให้ฟังครับ

กับบทบาท “กัปตันทีม”

“หนูเป็นกัปตันทีมครั้งแรกเลยค่ะ ทำหน้าที่มาตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม จนถึงเนชั่นส์ ลีก 2022 รู้สึกภูมิใจและดีใจมาก ถือว่าเราได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่สูงสุด แรก ๆ ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เป็นกัปตันทีม หนูรู้สึกว่าน้อง ๆ ทุกคนในทีมทำหน้าที่ได้ทุกคน เป็นกัปตันทีมได้หมด แต่เมื่อเป็นแล้วก็ส่วนตัวไม่ได้กดดันอะไร ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำตัวยังไงเพราะทีมชุดนี้เราอยู่ร่วมกันมานาน เก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันมาเป็น 10 ปี แล้วค่ะ”

ช่วยประเมินผลงานในเนชั่นส์ ลีก

“หนูมองว่ามันเป็นอะไรที่เกินเป้าหมาย ช่วงแรก ๆ เรามองแค่ว่าขอชนะให้ได้สักนัด คิดกันเกมต่อเกม เพราะเราต้องเจอกับทีมระดับโลก และไม่ได้ออกไปแข่งที่ไหนเลยเป็นเวลาถึง 2 ปีแล้ว เรารู้ว่าศักยภาพเรามีเท่าไหร่ แต่เราก็สู้เต็มที่ พอผลแข่งขันมันออกมาดี เราก็มีกำลังใจดี พอสู้ต่อไปเรื่อย ๆ เราก็ทำได้ ทุกคนในทีมมีความเชื่อมั่นต่อกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดีเกินคาดค่ะ”

“ส่วนตัวหนูเองมองว่าผ่านจุดที่เรียกว่ากำไรมามากเลย เพราะเราเป็นรอง เรียกได้ว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันไม่ใช่แค่กำไรเท่านั้น แต่มันบ่งบอกว่าทีมเรามีศักยภาพเพียงใด ทั้งนักกีฬาและทีมสตาฟฟ์โค้ชทุกคน แล้วเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราสู้กับทีมระดับโลกได้”

“มาถึงตรงนี้ทุกคนในทีมพอใจมากค่ะ อันดับโลกเราก็ขึ้นมา จริงอยู่เราแพ้ ญี่ปุ่น 0-3 แพ้ อิตาลี 0-3 แต่ถ้ามองลึกลงรายละเอียดถึงการเล่น หนูว่าทุกอย่างมันลงตัวค่ะ ต้องให้เครดิตสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ที่ร่วมกันวางแผน ทำการบ้านที่หนักมาก อีกอย่างที่ดีใจคือทุกทีมที่จะเจอกับเรา เฮดโค้ชของเขาจะมาดูฟอร์ม มาเก็บข้อมูลเราทุกนัด ขนาดเขาเป็นทีมยักษ์ใหญ่แต่ก็ไม่ประมาทเรา ส่งตัวจริงลงเล่นตลอด เรียกว่าจัดเต็มกับเราทุกทีม ซึ่งแม้เราจะแพ้แต่หนูมองว่าเป็นผลดีกับเรา ที่จะได้เจอคนเก่ง ๆ อีกอย่างแสดงว่าเขาให้เกียรติกับทีมไทยมาก”

ในนัดที่แพ้บรรยากาศในทีมเป็นอย่างไร

“จะบอกว่าพวกเราไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะ และก็ไม่ต้องมาปลอบใจอะไรกันด้วย ทุกคนไม่ได้รู้สึกว่าเราแพ้ ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่จะคิดว่ามันเป็นบทเรียนที่ดี ที่ฉันจะต้องนำมาเป็นประสบการณ์เพื่อทำให้ดี เราจะคิดว่าถ้าแพ้แสดงว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ ยังไม่เต็มที่ เราต้องทำได้ดีกว่านี้สิ เราไม่ท้อและไม่ได้เสียกำลังใจเลยค่ะ เพราะเราถือว่าเราทำสุดความสามารถแล้ว หนูเข้าใจว่ากองเชียร์คาดหวังแบบนั้นแบบนี้ แต่เราก็เต็มที่แล้ว เมื่อแพ้ก็แสดงว่าเขาดีกว่า เรายังไม่ดีพอ แต่เราจะทำต่อเพื่อให้ดีกว่านี้ค่ะ”

ที่มาของท่าเปิดตัว

“พูดจริง ๆ จากใจเลยนะคะ ไม่มีใครคิดท่าอะไรมาก่อนเลยค่ะ สถานการณ์และอารมณ์ร่วมมันพาไปมากกว่าค่ะ แต่พอแสดงออกไปแล้วกลับกลายเป็นเรื่องที่ดี เป็นวัฒนธรรม กลายเป็นซิกเนเจอร์ของทีมเราไปเลย คือเราเป็นคนไทย มีวัฒธรรมไทยที่ดีงามอยู่แล้ว เราเป็นนักกีฬาลงสนามไปแข่งขัน เราก็จะต้องสนุกกับเกม ยิ้มแย้มแจ่มใส เราเอาตรงนี้ใส่ไปกับความเป็นเอ็นเตอร์เทน มันก็เลยทำให้เราลงไปเล่นอย่างมีความสุข สนุกสนาน กองเชียร์ก็สนุกและมีความสุขตามไปด้วยค่ะ ทุกอย่างมันออกมาจากใจ เราไม่ได้เตี๊ยมหรือเสแสร้งทำขึ้นมาแน่นอนค่ะ”

สาวไทยเป็นขวัญใจมหาชนไปแล้ว

“หนูต้องขอขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ นับว่าเป็นเกียรติอย่างมากกับทีมวอลเลย์บอลของเรา รู้สึกดีใจที่พวกเราถูกยกให้เป็นขวัญใจของทุกคน หนูเองก็ปลาบปลื้มมากที่ได้อยู่ในทีมทีมนี้ ไม่คิดว่าจะมาได้ขนาดนี้ พวกเรามีความสุขและยินดีที่จะมอบความสุขไปให้กับกองเชียร์ทุกคนด้วยค่ะ”

รับมือกับเรื่องดราม่ายังไง

“หนูคิดว่าไม่มีอะไรมากเลยค่ะ เพราะเรื่องพวกนี้มันต้องมาอยู่แล้ว และมีมาตั้งแต่ยุคพี่ ๆ 7 เซียน มีคนรักคนชอบก็ย่อมมีคนที่ไม่รักไม่ชอบ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน สิ่งเดียวที่เราทำคือการลงมือทำๆๆๆ เพื่อตอบแทนคนที่รักเราค่ะ อยากบอกว่านักกีฬาทุกคนทุกชนิดกีฬา ไม่เฉพาะวอลเลย์บอล เวลาที่ลงสนาม ไม่ว่าจะในนามทีมชาติหรือสโมสร สิ่งที่อยากได้คือกำลังใจ อยากให้ส่งกันมาเยอะ ๆ มันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้นักกีฬาฮึดสู้ ส่วนคอมเมนต์ด้านลบ เราก็ไม่ต้องเอามาคิดมาก แต่จะนำมาเป็นพลังบวก ส่วนคอมเมนต์ที่ชื่นชมสร้างสรรค์ ก็จะเป็นขวัญกำลังใจชั้นดี เราเป็นนักกีฬาคิดแค่ว่าต้องซ้อมๆๆๆ และแข่งๆๆๆ ค่ะ”

กับตำแหน่งมือเซตอันดับ 1

“ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งก็คงมาจากผลงานส่วนตัวที่เรียกว่าดีเกินคาด และหนูก็จะทำให้ดีที่สุดต่อไป กับตำแหน่งมือเซตอันดับ 1 ณ ตอนนี้ ก็ต้องขอบคุณน้อง ๆ ในทีม ที่ร่วมกันทำผลงานให้ทีมไทย ทุกคนมีส่วนทั้งหมดค่ะ”

ในทีมสนิทกับใครมากที่สุด

“หนูสนิทกับทุกคนค่ะ อย่างที่บอก เราอยู่ด้วยกันมา 10-12 ปี อาจจะไม่ได้อยู่กันตลอดทุกวัน แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเก็บตัวทีมชาติ ในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ เราเจอกันทุกครั้ง หนูจึงสนิทกับทุกคน มีอะไรก็คุยกันปรึกษากันทุกเรื่องค่ะ”

ช่วงพักซ้อมหรือไม่ได้แข่งขันทำอะไรกันบ้าง

“ถ้ามีเวลาว่างก็จะมาชอปปิงค่ะ มันเป็นการรีแล็กซ์ที่ดีอย่างหนึ่งค่ะ นอกนั้นก็อาจจะมีเล่นออนไลน์บ้าง แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนค่ะ”

มองยังไงกับเกมที่เจอกับตุรกี

“ยังไม่ได้คิดหรือวางแผนเลยค่ะ ตอนนี้พวกหนูขอฝึกซ้อมให้ได้เต็มที่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดก่อนค่ะ”

มีคติในการใช้ชีวิตยังไง

“ตัวหนูเอง ต้องบอกว่ามีหลาย ๆ คติค่ะ แล้วแต่โอกาสและสถานการณ์ในตอนนั้น อย่างการใช้ชีวิตกับการแข่งขันกีฬาก็จะไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วหนูคิดว่าเมื่อเรามีโอกาสแล้วจงทำให้อย่างเต็มที่ค่ะ”

ไอดอลในดวงใจ

“ไอดอลหนูไม่ค่อยจะตรงสายนะคะ มีทั้งไอดอลไทยและต่างประเทศ แต่ถ้าเรื่องของวอลเลย์บอลก็ต้องเป็นพี่ ๆ 7 เซียน เพราะพี่ ๆ ทั้ง 7 คน คือ ไอดอลของหนูค่ะ รักชื่นชอบ และเคารพทุกคนค่ะ ซึ่งน้อง ๆ หลายคนก็อาจจะเป็นแบบหนูค่ะ”

เป้าหมายในการเล่นวอลเลย์บอล

“ต้องบอกว่าหนูจะเล่นจนถึงที่สุด จนร่างกายบอกว่าไม่ไหวก็จะหยุด ต้องเป็นร่างกายนะคะ ไม่ใช่ความรู้สึกเป็นตัวบอก เพราะหนูสนใจร่างกายมากกว่าความรู้สึกค่ะ”

โอกาสในการไปแข่งโอลิมปิกเกมส์

“ใคร ๆ ก็บอกว่าโอลิมปิกเกมส์คือความฝันอันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน แต่หนูอยากจะพูดว่าโอลิมปิกเกมส์คือจุดเช็กพอยต์จุดสุดท้ายของนักกีฬา ที่ทุกคนอยากจะไปให้ได้มากกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ แต่คุณก็ยังเป็นนักกีฬาอาชีพที่ดีได้ค่ะ”.

วอน อ่อนวงค์

ภาพ : FC ชมพู่ พรพรรณ เกิดปราชญ์ และ เว็บไซต์ volleyballworld.com