เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ปัจจุบันผมอายุ 70 ปีแล้ว ผมดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ออกกำลังกายด้วยการวิ่งและเดินทุกวัน น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่แตะต้อง ไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่กินเนื้อ หมู อาหารส่วนใหญ่จะเป็นประเภทปลา ผัก น้ำพริก ผมปฏิบัติตัวเช่นนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าผมป่วยเป็นโรคหัวใจ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่บอลลูน สภาพร่างกายโดยทั่วไปหายใจคล่อง ความดันโลหิตปกติ ระดับไขมันในเลือดปกติ ไม่ว่าจะเป็นไขมันตัวดีหรือไขมันตัวร้าย ผมเข้ารับการตรวจสุขภาพทุก ๆ 6 เดือนไม่เคยขาด ผลการตรวจก็เป็นปกติ ผลการตรวจทุกอย่างปกติ แต่มีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงไปเยอะ แพทย์แนะนำให้รับการเสริมฮอร์โมนเพศชายเพื่อทดแทน ผมจึงอยากเรียนถามว่า หากผู้ชายที่ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงไปแล้ว ถ้าไม่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเพศชายเพิ่มทดแทน จะมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง และหากเสริมฮอร์โมนแล้วจะมีผลกระทบต่อโรคที่ผมกำลังเป็นอยู่หรือไม่อย่างไรครับ

ตอบ วิจักร 70

ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศที่สำคัญที่สุดของผู้ชาย มีหน้าที่สำคัญคือกระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย และรักษาให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์และแข็งแรง ซึ่งรวมไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ การสร้างเชื้ออสุจิ ปริมาณของขนเพชรและขนตามร่างกาย กล้ามเนื้อและกระดูก สมองจะควบคุมการสร้างเทสโทสเตอโรนซึ่งผลิตจากลูกอัณฑะ ภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำ หรือภาวะฮอร์โมนเพศต่ำเป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ ดังนี้ ความต้องการทางเพศลดลง การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายลดลง ปริมาณของตัวอสุจิมีจำนวนน้อย และหน้าอกโตขึ้น เป็นต้น หากรู้ว่ามีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำแล้วไม่ได้รับการแก้ไข ทิ้งไว้เป็นเวลานาน ภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำนี้อาจส่งผลทำให้คุณสูญเสียความสมบูรณ์ของสุขภาพร่างกายบางอย่าง เช่น ปริมาณและการกระจายของขนตามร่างกาย ขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เกิดการสะสมไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

นอกจากนี้ยังทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลง เรี่ยวแรงลดลง และมีลูกอัณฑะเล็กลงด้วย การแก้ไขในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำก็คือการได้รับฮอร์โมนเพศเสริม ซึ่งมีหลายวิธี แต่สิ่งสำคัญก่อนการได้รับฮอร์โมนเพศชายเสริม คือ การตรวจต่อมลูกหมากโดยใช้นิ้วผ่านทางทวารหนัก การตรวจระดับค่า PSA (Prostate specific Antigen) ในเลือด ถ้าผลการตรวจเป็นปกติ การใช้ฮอร์โมนเพศชายเสริมถือได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และควรมีการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเป็นประจำในระหว่างที่กินฮอร์โมนโดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

หากคนไข้เคยมีประวัติเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโดยมีค่าพีเอสเอสูงกว่าปกติระดับ 4 แล้วจัดว่าอยู่ในระดับเสี่ยง แม้ว่าจะมีระดับฮอร์โมนต่ำแค่ไหนก็ควรงดการเสริมฮอร์โมนก่อน เพราะฮอร์โมนที่ได้รับไปอาจไปกระตุ้นให้เซลล์ในต่อมลูกหมากเกิดความผิดปกติขึ้นมาใหม่ได้ ทางเลือกชนิดฮอร์โมนมีหลายแบบ แบบกินมี 2 ชนิด แบบเยลทาทุกวันและเยลทาเฉพาะวัน แบบฉีดทุกเดือนและฉีดทุก 3 เดือน ส่วนสำคัญที่สุดชายต้องปฏิบัติด้านเพศให้ได้ทุกอาทิตย์ โดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจ โดยฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพศจะได้ผลใน 2-3 อาทิตย์….

————————–
ดร.โอ สุขุมวิท 51