กลายเป็นว่าช่วงนี้วิกฤติอุณหภูมิการเมืองไทย กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ยิ่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาพรรคใหญ่ ๆ ทั้งซีกรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างลงพื้นที่ต่างจังหวัด บรรยากาศชักจะดูเหมือน โหมโรงเลือกตั้งใหญ่ เพราะมีทั้ง หัวหน้าพรรค บรรดา บิ๊กเนม ของแต่ละพรรค รวมถึง ส.ส.ในจังหวัด ต่างตบเท้าลงพื้นที่กันคึกคักผิดปกติ
คอการเมืองหลายคนเริ่มเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ จะเกี่ยวข้องกับบทสรุป “วาระ 8 ปี” เก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยหรือไม่? น่าจะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์อีกเรื่องของการเมืองไทย
หากไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ทางการเมืองไทย เชิงผา ต้องขออนุญาตย้อนเวลาถอยหลังไป 8 ปีที่แล้ว ช่วยย้ำเตือนความทรงจำกันอีกรอบ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากอดีต ผบ.ทบ. ตัดสินใจสวมหมวก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำกองทัพ ลากรถถัง-อาวุธยุทโธปกรณ์ ออกมายึดอำนาจทำ รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557
สัปดาห์แรกภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจใหม่ ๆ หลายพื้นที่ นอกจากจะมีทหารดูแลพื้นที่สำคัญหลายจุดในกรุงเทพมหานครแล้ว บางพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมการสัญจรไปมาของประชาชนอย่างเช่น ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็ยังมีทหารไปแจกจ่าย “ใบปลิว” ระบุเหตุผลที่ คสช. ยึดอำนาจ ดังนี้
- มีความขัดแย้งทางความคิดการเมืองอย่างรุนแรงจนถึงระดับครอบครัวคนไทย
- การใช้อำนาจการปกครองแบบเดิมไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการกระทำผิด
- แนวทางการเลือกตั้งในรูปแบบเดิมมีการต่อต้านอย่างกว้างขวาง ถ้าปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาวุ่นวายไม่รู้จบ
- การชุมนุมทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำให้ประชาชนแตกความสามัคคี
- ปัญหาทุจริต
- การบังคับใช้กฎหมายต่อปัญหาข้างต้น บังคับใช้ไม่ได้ทุกกลุ่ม ทำให้เกิดความหวาดระแวง เกลียดชังกันในหมู่ประชาชนเป็นวงกว้าง มีการยุยงปลุกปั่นให้ใช้ความรุนแรง
- การบริหารราชการแผ่นดินไม่สามารถกระทำได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ และความทุกข์ของประชาชน
- ความผิดต่อสถาบัน
- การปลุกระดมมวลชนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
- มีการจัดตั้งและใช้กองกำลังติดอาวุธ
คณะรัฐประหาร ให้คำมั่นว่า จะกวาดล้างการฉ้อราษฎร์บังหลวง ลดความตึงเครียดทางการเมือง เปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจไทย แก้ไขปัญหาระบบการศึกษา โครงสร้างพื้นฐานของไทย และการจัดสรรงบประมาณของรัฐอย่างเสมอภาคตามภูมิภาคต่าง ๆ
พล.อ.ประยุทธ์ เป็น หัวหน้า คสช. ได้เพียง 2 เดือนเศษ ๆ ในการ ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันที่ 21 ส.ค. 2557 ลงมติ เห็นชอบแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถัดมา วันที่ 24 ส.ค. 2557 ได้มีโปรดเกล้าฯ ลงมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จากนั้น วันที่ 25 ส.ค. 2557 จึงมี ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ออกมา
ชีวิต พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งกว่าขึ้นหลังเสือ จาก ผบ.ทบ. มาเป็น หัวหน้าคณะรัฐประหาร ก่อนก้าวขึ้นสู่ นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 พร้อมกับความหวังของประชาชนในขณะนั้นว่า จะเป็น อัศวินขี่ม้าขาว เข้ามาปฏิรูปประเทศชาติ แก้ปัญหาต่าง ๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย
แต่เมื่อได้บริหารประเทศอย่างเต็มที่แล้ว ก็เริ่มมีคำถามมาตลอด “คำมั่น” อะไรที่เคยให้ไว้ทำสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด ที่สำคัญวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ก็กำลังกลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ ให้สารพัดม็อบดีเดย์ลงถนนร่วมกันขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อีกระลอก
ใครจะไปเชื่อ 8 ปีผ่านไป จากผู้นำจะเข้ามาแก้ปัญหา ตอนนี้กลายเป็นตัวปัญหา ถูกประชาชนขับไล่เสียเอง!!
——————–
เชิงผา