“เราสามารถที่จะรวยขึ้นได้ มีเงินมากขึ้นได้ แต่ถ้าไม่มีความรักจากครอบครัว จากเพื่อน จากมิตรภาพ เราก็จะเป็นแค่คนที่น่าสังเวชที่สุดคนหนึ่ง..เท่านั้นเอง”

เดี๋ยวนี้ภัยออนไลน์มันเข้าใกล้ตัวเราและคนในครอบครัวมากจริงๆ นับวันก็ยิ่งจะทวีคูณความรุนแรงขึ้น แม้แต่ลูกๆ หลานๆ ที่อยู่ในสายตาเรา ก็ยังไม่อาจวางใจได้ว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยออนไลน์จากพวกมิจฉาชีพได้

ยิ่งตอนนี้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์แทบทุกคนแล้ว บรรดามิจฉาชีพทั้งหลายก็ยิ่งเข้าถึงตัวโดยตรงได้ง่าย โดยเฉพาะหญิงสาวมักจะตกเป็นเหยื่อมากที่สุด บางคนโชคดีไม่เสียอะไร บางคนเคราะห์ร้ายเสียตัว บางคนถึงขั้นเสียทั้งตัวเสียทั้งเงินก็มี

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีอยู่คดีหนึ่งที่เป็นภัยจากโลกออนไลน์เหมือนกัน คนร้ายใช้วิธีปลอมโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นหญิงสาวที่ดูน่าเชื่อถือ แล้วเข้าไปโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กปล่อยเงินกู้ต่างๆ ที่มีมากมายในโซเชียล เพื่อหวังให้มีเหยื่อสักคนติดกับสนใจอยากมากู้เงิน

ชั้นเชิงคนร้ายก็ง่ายแสนง่ายแค่บอกว่าดอกเบี้ยต่ำมาก ต่ำกว่าเจ้าอื่น เพียงแค่นี้ลูกค้าหลายคนก็ตาลุกวาวแล้ว กระทั่งสุดท้าย น้องผู้หญิง ม.ปลาย คนนี้ก็ตกหลุมพรางติดต่อเข้าไปหาว่าอยากจะขอกู้เงิน จึงเข้าทางคนร้ายมันทันที จากนั้นมันก็โกหกว่าไม่สามารถให้กู้เงินได้เพราะผู้กู้อายุไม่ถึง 18 ปี

ว่าแล้วคนร้ายก็แสร้งแนะนำให้ไปติดต่อแชตกับเฟซบุ๊กอีกบัญชีหนึ่ง ก่อนที่จะออกอุบายล่อลวงชักจูงให้เหยื่อยอมแชตวิดีโอคอล ต่อเนื่องไปถึงให้ถอดเสื้อผ้าให้ดู ต่อเนื่องหนักไปถึงขั้นสำเร็จความใคร่ให้คนร้ายดูด้วย เพื่อแลกกับเงินที่จะให้กู้

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ คนร้ายก็รีบบันทึกคลิปของเหยื่อไว้ แล้วตามมาด้วยใข้ข่มขู่เรียกเงินจากเหยื่อ น้อง ม.ปลาย รู้ความจริงว่าถูกแบล็กเมล์ก็เมื่อสายเกินไปแล้ว จึงยอมโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายแลกกับการไม่ปล่อยคลิปให้อับอาย

และไม่ใม่แค่ครั้งเดียวมันข่มขู่เอาเงินมาเรื่อยๆ เหยื่อต้องโอนเงินให้มันครั้งละ 1,000-3,000 บาท เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน โอนไปรวมทั้งหมด 47 ครั้ง เป็นเงินรวม 97,000 บาท สุดท้ายเธอทนไม่ไหวยอมอายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี

พอเรื่องมาถึงตำรวจ สอท.ก็รีบสืบค้นหาเบาะแสไล่หาตัวคนร้ายทันที กระทั่งเวลาผ่านไปเดือนกว่าๆ ก็สืบรู้ว่า คนร้ายพักอยู่ในคอนโดมิเนียม ย่านพัทยากลาง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะสนธิกำลังกับตำรวจ สภ.พัทยา บุกเข้ารวบตัวไว้ได้ พร้อมหลักฐานจำนวนมาก

คนร้ายคือ “นายเนม” อายุแค่ 20 ปี เจ้าตัวจำนนด้วยหลักฐานและยอมสารภาพว่า วางแผนก่อเหตุทั้งหมดจริง โดยบัญชีที่ใช้รับเงินซื้อมาจากกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีการซื้อขายบัญชีการเงินกัน ในราคา 500 บาท เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้ตำรวจจับตัวได้ ส่วนเงินเกือบแสนเอาไปใช้หมดแล้ว

นี่เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างที่สาววัยรุ่นตกเป็นเหยื่อง่ายๆ ของภัยออนไลน์ แม้เธอจะไม่เคราะห์ร้ายหนักถึงขั้นเสียตัว แต่ก็เสียเงินไปมากมายอย่างน่าเจ็บใจ คงไม่มีใครจะอบรม สั่งสอน ตรวจสอบ สังเกต ลูกหลานของเราในการใช้โซเชียลได้ดีกว่าพ่อแม่ผู้ปกครองอีกแล้ว

ไม่เช่นนั้นอาจเสียท่าพวกมิจฉาชีพที่…“หลอกจะให้เงิน เชิญเป็นดารา ชวนให้แก้ผ้า ท้าให้เปิดกล้อง”…เข้าสักวัน.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

ทล.ห่วงใยทุกชีวิต
เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง ครบรอบ 61 ปี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ตำรวจทางหลวง นำข้าราชการตำรวจทางหลวงในสังกัดจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญดังกล่าว อาทิ มีพิธีมอบทุนการศึกษา พิธีมอบประกาศเกียรติคุณตำรวจดีเด่น ในส่วนของ ทล.4 กก.4 บก.ทล. พ.ต.ท.ธนทัต จันทร์อิ่ม สว.ส.ทล.4 กก.4 บก.ทล. มอบหมายภารกิจเพื่อสังคมให้ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ในช่วงการแพร่เชื้อโควิด-19 ขอให้ข้าราชการตำรวจทางหลวงทุกหน่วยบริการ ในความรับผิดชอบ ไม่เว้นทำภารกิจเพื่อสังคม ขณะที่ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหนองบัวลำภู ร.ต.ท.สุระไกร เกรียงไกรชล หน.หน่วยบริการหนองบัวลำภู ทำกิจกรรมเพื่อปกป้องประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 พร้อมข้าราชการตำรวจทางหลวงหนองบัวลำภู ได้ช่วยกันมอบพันธุ์ตันกล้า ฟ้าทะลายโจร ให้กับประชาชนที่มาติดต่อขอรับ ณ ป้อมบริการประชาชนตำรวจทางหลวง หนองบัวลำภู เพื่อนำไปปลูกขยายพันธุ์ใช้เป็นสมุนไพรทางเลือกในการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 พร้อมได้แนะนำให้ประชาชน สแกน QR CODE วิธีการปลูกและร่วมกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรางวัล 2 ต่อจากทางตำรวจทางหลวง อีกด้วย เข้าท่าภายใต้ภารกิจ “ทำทุกอย่างด้วยสำนึก เพราะเราคือตำรวจทางหลวง”

ศูนย์ชุมชนยั่งยืน
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการโครงการชุมชนยั่งยืน สภ.ย่อยชุมชนยั่งยืนบ้านบก ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็น สภ.ย่อยฯ แห่งที่ 2 ของ สภ.เมืองศรีสะเกษ โดย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ มุ่งเน้นดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของชาติ และนโยบายหลักของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีแผนปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซาก โดยมุ่งเน้นไปที่หลักการใช้ธรรมะบำบัด โดยนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาบรรพชา และปัจจุบันยังคงบรรพชาอยู่ที่วัดบ้านซำ ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้ง สภ.ย่อยชุมชนยั่งยืน แห่งแรกของ สภ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งผลการดำเนินการประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมี พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในพิธีด้วย.

ให้กำลังใจ
พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี มอบของขวัญและมอบขวัญกำลังใจให้แก่ ร.ต.อ.กดชา บรรเทิงจิต รอง สวป.สภ.เมืองเพชรบุรี, ด.ต.บุญโชติ ผิวผ่อง, ส.ต.อ.อรรถพล เทพนิมิตร สืบเนื่องจากกรณีให้การช่วยเหลือผู้หญิงพยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย สนามกีฬาดอนคานจังหวัดเพชรบุรี ในโครงการฝึกอบรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64

สืบสวนที่ดี
งานสืบสวนที่ดี ทีมเวิร์กคือสิ่งที่สำคัญ ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน ด้านการสืบสวน หาข่าว ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ไม่หมกเม็ด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฏหมายทั้งปวง หากตรวจพบมีบทลงโทษ นโยบายชัดเจนของทาง พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่อยมา มีตำรวจหลายนายหลงผิด ได้ถูกสลับปรับเปลี่ยนหน้าที่การงาน จนทำให้ชุดสืบสวน สภ.ชุมแพ ทุกวันนี้ อยู่ในยุคทำงานจริง ไม่แอบเลี้ยงปลาซิวปลาสร้อย โปร่งใส ตรวจสอบได้อย่างจริงจัง

********************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป