หลังจากหนังไทยแนวดราม่าโรแมนติกสยองขวัญอย่าง “แสงกระสือ” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 14 มี.ค. 2562 ก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับคอหนังไทยเป็นอย่างมาก ด้วยบทบาทของตัวละครที่มีครบทุกอารมณ์ หนังเรื่องนี้กำกับโดย “สิทธิศิริ มงคลศิริ” เขียนบทโดย “ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” ผลิตโดย ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม เอ็ม พิคเจอร์ส ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ นอร์ธ สตาร์ สตูดิโอ ทำรายได้ทั่วประเทศไป มากกว่า 100 ล้านบาท พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่อยากให้มีภาคต่อไป ล่าสุด “เนรมิตรหนัง ฟิล์ม” และ “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ได้จับมือร่วมกันทำหนัง แสงกระสือ 2 เพื่อสานต่อความบันเทิงจากภาคแรก ทั้งยังได้ผู้กำกับโฆษณาและหนังสั้นอย่าง “ปภังกร ปุณจันทรักษ์” มาคุมบังเหียนนี้ด้วย

ย้อนรอยแสงกระสือ (ภาค 1) “ทัด” (รับบทโดย เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย) หัวหน้ากลุ่มนักล่ากระสือ ได้เผยโฉมว่า แท้จริงแล้วเขาคือ “กระหัง” เหตุที่ต้องล่ากระสือ ก็เพราะต้องการกินหัวใจเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ภายหลังเขาพลาด ถูกชาวบ้านใช้ปืนลูกซองยาวยิงเสียชีวิต ขณะที่ “เจิด” (รับบทโดย เกรท-สพล อัศวมั่นคง) ที่รับเชื้อ “กระหัง” เข้าไปในร่างกาย แม้จะกลายร่าง เขาก็ยังพยายามปกป้อง “สาย” ผู้หญิงที่เป็นรักเดียวของเขาจนตัวตาย ขณะที่นางเอกของเรื่อง “สาย” (รับบทโดย มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร) เธอถูกนักล่ายิงสังหารเข้าหัว ทั้งที่เธอยังเป็นร่างกระสือลอยอยู่ริมน้ำ ฉากจบจึงเหลือเพียง พระเอก อย่าง “น้อย” (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) เด็กหนุ่มที่พยายามหอบร่างโชกเลือดไร้หัวของ “สาย” นั่งเรือหลบหนีไปเท่านั้น…

แสงกระสือ (Inhuman Kiss) (2019) เด็กสาวกับวัยเยาว์ที่สิ้นสูญ - เสฏฐวุฒิ  อุดาการ
แสงกระสือ' (Inhuman Kiss) ความโรแมนติกภายใต้ความสยองแบบไทย 14 มี.ค. นี้! |  TheHOUSE

เรื่องย่อ “แสงกระสือ 2” เวลาผ่านไปนานกว่า 20 ปี “น้อย” (รับบทโดย ​น้อย วงพรู หรือ กฤษดา สุโกศล แคลปป์) เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่งงานมีลูกกับภรรยาใหม่ แต่เพราะในร่างกายของเขายังมีเชื้อกระสือ จึงทำให้ภรรยากับลูกต้องรับเชื้อร้ายไปเต็ม ๆ ต่อมาภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลง จึงเหลือแต่เพียง “สาว” (รับบทโดย นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) ที่กำลังจะกลายเป็นกระสือในไม่ช้า ขณะเดียวกัน บาทหลวงออกัสติน (รับบทโดย โจ คัมมินส์) พร้อมกับลูกชายบุตรธรรม “ดร.อนันต์” (รับบทโดย เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ) และ “คล้าว” (รับบทโดย-เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) ก็ได้พยายามให้ความช่วยเหลือพ่อลูกคู่นี้ ก่อนที่ฝ่ายนักล่ากระสืออย่าง “พันธุ์” (รับบทโดย ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม) จะตามมาพบพวกเขา

Beartai Buzz รีวิวแสงกระสือ 2
แสงกระสือ 2 หนัง ภาคต่อ แสงกระสือ นิ้ง ชัญญา เจเจ กฤษณภูมิ แสดง

จุดแข็ง ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ ถือเป็นความพยายามในสายงานโปรดักชั่น ที่ทำงานภาพออกมาได้ละเอียดและสวยงามมาก เต็มไปด้วยความบรรยากาศความสงบของบ้านกลางป่า ในช่วงปี 1970 นอกจากนี้เสื้อผ้าหน้าผม บ้าน เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ ก็ยังทำได้แบบจัดเต็ม ชวนให้นึกถึงหนังเก่า ๆ สมัยรุ่นพ่อ-รุ่นแม่ได้จริง…

ในเรื่องของเนื้อหา การตีความว่า “กระสือ” เป็นโรคเกิดจาก “ปรสิต” เป็นแนวคิดที่ดูจะแปลกประหลาดจากจักรวาลภูติผี เป็นการเอาวิทยทศาสตร์ใส่เข้าไปในเนื้อหา ดังนั้นการทดลองยาเพื่อหาทางรักษาการกลายร่างเป็น “กระสือ” จึงเป็นจุดสำคัญของหนังเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม บทหนังยังได้ใส่ตัวละครอย่าง “คล้าว” เด็กผิวเผือก ซึ่งตัวคล้าวเองจะมีพลังในการรักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ (ลักษณะคล้ายพลังจิตเหนือมนุษย์) กลายเป็นว่าเรื่องนี้มีทั้งพาร์ท ผี-ปีศาจ วิทยาศาสตร์ รวมไปถึง “มิวแทนท์” หรือมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษ ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของวงการหนังไทย เพราะไม่เคยมีเรื่องไหนจับเอาตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ประหลาด มาใส่ให้เนื้อหาเกิดความลงตัวได้มาก่อน

สำหรับบทของตัวละคนที่น่าสนใจ “น้อย” (น้อย วงพรู) เขาต้องคุมโทนอารมณ์หวาดวิตกเสมอ และเป็นที่รู้กันดีว่า “พี่น้อย” เล่นแบบเต็ม 100 ทุกซีน จนทางผู้กำกับต้องตบให้ลดลงประจำ เราจะเห็นพี่น้อย หน้าตาเคร่งเครียด เส้นเลือดปูดหารอยยิ้มแทบไม่มี นั่นเพราะเขาใส่อารมณ์ของคนเป็นพ่อ ที่กำลังหวาดกลัวว่าลูกสาวกำลังจะโดนตามล่า

ขณะที่ บทของ “สาว” มีลักษณะคล้ายกับ “สาย” ตัวละครภาค 1 ซึ่ง “น้องนิ้ง” มีความเป็นธรมชาติ เข้าถึงบทบาทของสาวน้อยผู้มีความแปลกประหลาด หวาดผวา กลัวว่าอีกร่างของตัวเองจะคุมไม่ได้ ทำร้ายคนรอบข้าง เธอสามารถถ่ายทอดนิสัยของตัวละครตัวนี้ได้อย่างน่าขนลุก ส่วนใครที่คิดว่า กระสือสู้คนไม่ได้นั้น ขอให้เลิกคิดไปได้เลย เพราะ กระสือ “สาว” กำเหนิดมาจากแม่ที่เป็นกระสือเธอจึงรับเชื้อโดยสายเลือด มีพลังมากกว่า ดุร้ายกว่า แน่นอน

สำหรับ CG ในแสงกระสือ 2 มีความสมบูรณ์แบบสุด ๆ ต้องบอกเลยว่า เหนือชั้นกว่าภาค 1 แบบไม่ต้องคิดมาก ผู้ชมจะได้เห็นในพาร์ทที่กระสือถอดหัว และวิธีกลับเข้าร่างแบบจะจะ ไม่มีเซ็นเซอร์ให้รกสายตา ยิ่งฉากการต่อสู้กระสือกับกระหังแล้วสาแก่ใจยิ่งนัก!

แสงกระสือ 2

จุดอ่อน เนื่องจาก บทหนังถูกเขียนให้ดูซีเรียส ไม่มีมุกตลกเฮฮา หรือโชว์ความน่ารักหวานซึ่ง ดังนั้นผู้ชมที่คาดหวังว่า ตัวละครเหล่านี้จะนำพาความสนุก ความบันเทิงตามแบบฉบับหนังตลาด ก็ขอให้เลิกคิดได้เลย เพราะนี่คือหนังซีเรียสจริง ๆ ซึ่งบางคนก็อาจไม่ชอบหนังแนวนี้

แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าหนังจะไม่มีจุดอ่อน แม้หนังจะดำเนินเรื่องแบบเรียบง่ายไม่สลับซับซ้อน แต่กลับวนไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง บางช่วงบางตอนมีความเนือยมาก อาจทำให้ใครหลายคนต้องหลับ แล้วกว่าจะหาทางออกได้…ก็เกือบจบเรื่องเสียแล้วอารมณ์ของหนังไปไม่ถึงจุดหมาย มันมีความไม่สุด ซีนโหด…คือโหดได้ แต่ก็กลับไม่โหด หรือเลิฟซีนหวาน ๆ ก็กลับกลายเป็นนั่งขวยเขินจูบเป็นอะไรที่คาใจผู้ชมแน่นอน…

แสงกระสือ 2" เข้าฉายพร้อมกับประเทศลาวและยังฉายอีกหลายประเทศ
นิ้ง-เจเจ” พิสูจน์รักต่างสายพันธุ์ สัมผัสรสจูบแรก ใน “แสงกระสือ 2” สยามรัฐ

3/5 สำหรับความพยายามในการทำหนังให้ดูน่าสนใจ โดยไม่เอาใจตลาดหนังยุคปัจจุบัน เป็นการโชว์งานภาพและงานโปรดักชั่นที่ยอดเยี่ยมแบบไร้ข้อกังขา แต่สำหรับบทกับการดำเนินเรื่อง ยังเป็นสิ่งที่ต้องการคุณภาพมากกว่านี้.

เนรมิตรหนัง ฟิล์ม” จับมือ “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม” ปลุกชีพ “กระสือสาว 2023”  สู่ “แสงกระสือ 2” - MONO29 TV Official Site

——————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ เนรมิตรหนังฟิล์ม