สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด อดีตประธานกก.มูลนิธิกระจกเงา เป็นนักเคลื่อนไหวสันติวิธีที่สร้างความแปลกใหม่เรื่อยมา หลังเหตุการณ์ปราบปรามคนเสื้อแดงอย่างหนักจนเสียชีวิตนับร้อยศพ รวมทั้ง 6 ศพที่วัดปทุมคงคาที่ถูกคนในเครื่องแบบยิงทิ้งจากสถานีรถไฟฟ้า ทั้งที่เป็นเขตอภัยทาน เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ แต่จนป่านนี้ยังจับตัวฆาตกรไม่ได้ หลังวันเวลาผ่านไป บก.ลายจุดนี่ล่ะที่เป็นคนไปยืนผูกโบแดงที่ป้ายแยกราชประสงค์เพื่อบอกที่นี่มีคนตาย จนตำรวจบ้าจี้ยกป้ายหนี เป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก

ล่าสุด บก.ลายจุด ก็เป็นตัวตั้งตัวตีจัด “คาร์ม็อบ” ครั้งใหญ่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาร่วมกับ เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.เป็นครั้งที่ 3โดยมีจุดรวมตัวที่อุโมงค์แยกเกษตร-ไปถนนวิภาวดีฯ-เข้านนทบุรี-เข้าปทุมธานี ระยะทาง 50 กม. ชูธงขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลปรากฏมีคนนำรถเข้าร่วมสุดลูกหูลูกตา ตลอดเส้นทางที่ขบวนคาร์ม็อบเคลื่อนผ่านมีประชาชนร่วมชู 3 นิ้วมากชนิดคาดไม่ถึง ทั้งที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับอยู่ ประชาชนก็ไม่สน?!?

นับเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองใหญ่สุดอีกครั้งในรอบ 7 ปีนับแต่ คสช.เข้ามายึดอำนาจล้มล้าง รบ.เลือกตั้ง ร่างรธน.อัปยศฉบับแก้ไขยากสุดในโลก มี ส.ว. ลากตั้ง 250 คนมาเลือกนายกฯ ด้วย

คาร์ม็อบครั้งนี้จึงมีนัยสำคัญทางการเมือง เพราะเป็นการรวมตัวของทุกกลุ่ม ทั้ง เสื้อแดง เสื้อเหลือง สลิ่มกลับใจ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่รับรู้ถึงการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพล้มเหลวผิดพลาดร้ายแรงในการแก้ปัญหาโควิดของ รบ. จนมีคนติดเชื้อนับล้าน ตายนับหมื่น ทั้งคาบ้านและข้างถนน

มีคำให้สัมภาษณ์ของ สมบัติ บุญงามอนงค์ หลังประมวลผลคาร์ม็อบที่แหลมคมและน่าสนใจมาก เสียดายเนื้อที่น้อยแต่โดยย่อ ๆ คือ 1.นี่จะเป็นการจัดคาร์ม็อบครั้งสุดท้าย แล้วจะเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ 2. คนที่ออกมาไม่ใช่แค่เข้าร่วมแต่แอ๊คทีฟด้วย ในแง่ปริมาณถือว่ามีนัยสำคัญ 3. มีการหลอมรวมทุกกลุ่มอย่างที่บอก 4. ตลอดเส้นทางมีคนชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์ร่วมด้วยถือเป็นพลังสำคัญ 5.เป็นห้วงเวลาที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รมต.ในสภา นอกสภาก็จะมีการเคลื่อนไหวสร้างแรงกดดันไล่ รบ. เหมือนกัน

การชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ 2 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป และจะไล่จนกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกไป เป็น “เทศกาลไล่ปิศาจ” ที่บอกน่าสน ก็เพราะบก.ลายจุดบอกว่า จะเอาการต่อสู้ของ “กลุ่มทะลุแก๊ส” ที่สามเหลี่ยมดินแดงเป็นโมเดล “เราจะใช้แยกอโศก ซึ่งชื่อดี คือจะไม่เสียใจ มาเป็นป้อมค่าย เหมือนที่สามเหลี่ยมดินแดง พวกเค้ามีสปิริต ไม่เลิก ไม่ต้องนัดหมาย ถึงเวลากลับบ้าน แล้วก็มาใหม่ จะถูกปราบยังไงก็มา ไม่มีแกนนำ การลงมาอยู่บนถนนคือการส่งสัญญาณการต่อสู้อย่างหนึ่งแล้ว เราจะมาที่แยกอโศกทุกเย็น มาจัดเป็นตลาดนัด จะชวนไฮโซลูกนัท เอากลุ่มรถหรูมาโชว์ ใครอยากปราศรัยก็ทำ อยากตีปิงปอง กินหมูกระทะ นัดประชุม เล่นดนตรี เอาโซฟามานั่งเล่น ก็แล้วแต่ เป็นการตั้งป้อมค่ายในเมือง รบ. จะจับผมหรือณัฐวุฒิ ม็อบก็ไม่เลิกเหมือนที่สามเหลี่ยมดินแดงไง”

บก.ลายจุดยังพูดถึงการโหวตว่า รบ.จะผ่านญัตติไม่ไว้วางใจ (ผู้นำโง่ โอหัง คลั่งอำนาจ) ไปได้ แต่พรรคร่วม รบ. ที่ทำสิ่งที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชนไปเป็นนั่งร้านให้คนเหล่านี้ ก็มีต้นทุนที่ต้องแบกรับอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ บก.ลายจุด ฝากเตือนพรรคร่วม รบ.ที่พร้อมพังไปกับระบบ  3 ป.

อย่างไรก็ดี สุดท้าย บก.ลายจุด ยอมรับว่า นับแต่วันที่ 2 ก.ย.เป็นต้นไป ไพ่จะออกได้ 2 หน้าคือ ไม่ประยุทธ์ออกไป ม็อบก็ต้องออกจากถนน โดยมีกระแสประชาชนใน 2 สัปดาห์นี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญ

จะออกหน้าไหน ก็ล้วนมีผลสะเทือนใหญ่หลวง.

———————
ดาวประกายพรึก