ศึกยูโร 2020 เดินทางมาถึงรอบตัดเชือก และเหลือม้าอีกแค่ 4 ตัวสุดท้ายแล้ว…

ถ้าจะตั้งข้อสังเกตถึงม้า 4 ตัวสุดท้ายในรอบตัดเชือกนั้น ว่ากันจริง ๆ แล้ว มีแค่ “สิงโตคำราม” อังกฤษ เท่านั้นที่ถูยกเป็นตัวเต็งอันดับต้น ๆ ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม 

อิตาลี กับ สเปน นั้น ก่อนทัวร์นาเมนต์ถูกมองเป็นแต่ระดับราว ๆ เต็ง 6 เต็ง 7 เท่านั้น ส่วน เดนมาร์ก เป็นเต็ง 9 ร่วมโน่นเลย 

แต่ถ้าจะให้หยิบสักหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทีมเหล่านี้มาได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ผมคงต้องชี้ไปที่เรื่องของ สปิริตและความเป็นหนึ่งเดียวกัน…

ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลอื่นนะครับ แต่เรื่องของสปิริตดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ๆ สำหรับทั้ง 4 ทีม หรือแม้กระทั่งทีมที่ตกรอบไปก่อนหน้านี้แบบทำผลงานดีเกินคาดอย่าง สาธารณรัฐเช็ก รวมถึง สวิตเซอร์แลนด์ 

ส่วนพวกทีมเต็งที่ด่วนจอดป้ายไปก่อนเวลาอันควรนั้น ไม่ใช่ว่าจะมีปัญหาเรื่องสปิริตในทีมไปเสียทั้งหมด ทีมอย่างเยอรมนี, เบลเยียม หรือโปรตุเกสนั้น อาจเป็นเรื่องของความไม่พร้อมและไม่ลงตัวในบางประการ

แต่กับเต็ง ๆ 1 อย่าง “ตราไก่” ฝรั่งเศส ทุกอย่างชัดเจน ความสามัคคีในทีมคือปัญญาหามาตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์และมาจนถึงวันนี้ สื่อในแดนน้ำหอมยังสาวไส้พลพรรค “เลส์ เบลอส์” ชุดนี้อย่างไม่จบไม่สิ้น 

แต่กับทีมที่ทะลุเข้ามาถึงรอบตัดเชือกนั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าทุกทีมมีความเหนียวแน่นกลมเกลียว

ชัดเจนที่สุดคือทัพนักเตะ “โคนม” เดนมาร์ก ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ คริสเตียน อีริคเซน ตั้งแต่เกมแรก มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ร้อยรัดหัวใจให้ทุกคนในทีมสู้เพื่อกันและกัน อย่างที่ ซิมง เคียร์ กัปตันทีมบอกว่า ทุกคนสามารถวิ่งเข้าใส่คู่แข่งได้อย่างเต็มที่ เพราะมั่นใจว่าจะมีคนคอยระวังหลังให้แน่ 

กับ สเปน พวกเขาใช้ความเชื่อมั่นที่มีต่อกันและกัน ค่อย ๆ ช่วยกันกอบกู้ความมั่นใจหลังออกสตาร์ตไม่ดีใน 2 เกมแรก และมั่นก็เป็นสิ่งที่พาให้ลูกทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก เอาตัวรอดมาถึงรอบนี้ได้

อิตาลี ของ โรแบร์โต มันชินี ก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้ถูกมองเป็นตัวเต็งแต่แรก แถมในทีมยังไม่มีดาวเตะระดับ “ซูเปอร์สตาร์” แต่มันกลายเป็นดีที่ทำให้พวกเขาสามารถบินหลบอยู่ใต้เรดาร์แบบไม่กดดัน และทำให้ในทีมไร้ “อีโก้” ช่วยกันเล่นช่วยกันวิ่งอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับพวกเขาบ่อย ๆ 

ส่วน อังกฤษ แม้จะถูกมองเป็นตัวเต็ง แต่ถ้าสังเกตให้ดี แกเรธ เซาธ์เกต คือกุนซือที่เน้นเรื่องสปิริตมาตลอด และพยายามทำให้ทุกคนทำตัว “โลว์ โปรไฟล์” มีสมาธิแต่กับเรื่องของทีมเสมอเวลาอยู่ในแแคมป์ทีมชาติ 

ยิ่งในทีมชุดนี้ การเลือกนักเตะบางคนเข้ามา ยิ่งทำให้สปิริตในทีมแน่นแฟ้นขึ้น อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่หลายคนสงสัยว่าไม่ฟิตแล้วจะเรียกมาทำไม แต่ “เฮนโด้” คือคนที่มีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ และสามารถรวมใจทุกคนในทีมได้ ในขณะเดียวกันก็มีนักเตะอย่าง บูกาโย ซากา ที่ ลุค ชอว์ บอกว่าเป็น “ตัวฮา” ประจำทีม ค่อยแหย่คนโน้นคนนี้ เรียกรอยยิ้มได้เสมอ 

นี่แหละครับหลักการของการแข่งขันที่เล่นเป็นทีม หากคุณสามารถรวมใจทุกคนในทีมเป็นหนึ่งได้ อุปสรรคเท่าภูเขาก็จับมือกัน ช่วยกันฉุดมือให้เดินข้ามได้ 

แต่ถ้าต่างคนต่างไปไร้สปิริตนำทาง ยิ่งเดินเท่าไหร่ เส้นชัยก็ยิ่งไกลออกไปเท่านั้น…

ผยองเดช