ที่เห็นเด่นชัดคือการทดลองยิงขีปนาวุธสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ จากรถไฟซึ่งกำลังแล่นอยู่ นั่นแสดงว่า ยิงจากที่ไหนก็ได้ที่รถไฟแล่นไป ก็ดูเหมือนกับขีปนาวุธโทมาฮอว์กของสหรัฐอเมริกา ที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้เช่นกัน ตรงนี้คือการบ่งบอกว่า การโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ทำไมจะเกิดขึ้นไม่ได้

จึงเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือพยายามที่จะฉุดรั้งการอ่อนข้อให้กับวอชิงตัน ถ้ามีการรื้อฟื้นการเจรจาทางการทูตซึ่งชะงักงันไปนาน ว่าด้วยโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลเปียงยาง แม้ส่วนหนึ่งจะมุ่งไปที่ในประเทศเท่านั้น แต่ก็สะท้อนถึงความเป็นเอกภาพภายในชาติของเกาหลีเหนือ ที่ต้องรับมือกับเศรษฐกิจทรุดหนัก โดยเฉพาะส่วนหนึ่งมาจากการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

เกาหลีเหนือทดลองครั้งแรก แล้วประสบผลสำเร็จกับการยิงขีปนาวุธจากฐานยิงบนขบวนรถไฟ เพราะขีปนาวุธ 2 ลูกพุ่งตรงสู่เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปในทะเล 800 กม. ซึ่งเป็นระยะที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐและเกาหลีใต้

Wall Street Journal

การยิงจากรถไฟจึงเป็นอีกฐานยิงหนึ่ง นอกเหนือจากรถบรรทุกเคลื่อนที่ และเรือดำน้ำซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ และยังได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายรถไฟของเกาหลีเหนืออีกด้วย ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นความลับและยิงขีปนาวุธ แม้ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า เครือข่ายเส้นทางรถไฟ คือหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกโจมตีได้ง่าย

ลี ชุน-กึน ผู้เชี่ยวชาญด้านขีปนาวุธ แห่งสถาบันวิทยาการและนโยบายเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ กล่าวว่า สำหรับเกาหลีใต้แล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัว และจะต้องปกป้องประเทศจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านั้น เกาหลีเหนือก็เพิ่งจะทดลองขีปนาวุธแบบใหม่ บินได้ไกล 1,500 กม. เป็นขีปนาวุธพิสัยไกล สามารถเข้าสู่เป้าหมายทุกแห่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีฐานทัพสหรัฐตั้งอยู่พร้อมกำลังพล 50,000 นาย เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาศักยภาพหัวรบนิวเคลียร์ บินได้ในระยะต่ำ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ การพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือจึงแสดงว่า เกาหลีเหนือสามารถตีแตกแนวป้องกันของศัตรูในทุกเส้นทาง และยังมีความหลากหลายของอาวุธหนัก ในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม ภาพถ่ายจากดาวเทียมยังแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือได้รีสตาร์ทโรงงานผลิตพลูโตเนียมเพื่อผลิตอาวุธ

ลีฟ-อีริค เอสลีย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยเอวาห์ ในกรุงโซล บอกว่า ผู้นำคิมรื้อฟื้นการทดลองหลายครั้ง เพื่อแสดงว่ากำลังพัฒนาด้านแสนยานุภาพทางทหาร และยังได้หล่อหลอมความเป็นเอกภาพในชาติอีกด้วย คือเปียงยางสามารถเปิดฉากการการยั่วยุ แม้เศรษฐกิจของประเทศยังหนักหนาสาหัส เพราะต้องการปกปิดความอ่อนแอ และลดขั้นตอนบางอย่าง

ผู้นำคิมยังอาจกลับใช้เทคนิคพยายามแล้วจริง เพื่อกดดันโลกว่ามีขีปนาวุธ และข่มขู่ว่าของจริง ก่อนที่จะเสนอมีการเจรจาในนาทีสุดท้าย เพื่อให้ขยายความช่วยเหลือ

แต่การทดลองของเกาหลีเหนืออาจได้รับผลตอบรับน้อยมาก จากการซ้อมรบร่วมกันของสหรัฐกับเกาหลีใต้ ทั้งที่เป้าหมายสูงสุดของผู้นำคิมก็คือ ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของนานาชาติ และยังหวังให้สหรัฐรับรองว่า เกาหลีเหนือก็เป็นรัฐนิวเคลียร์เช่นกัน เพื่อแสดงว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นหลักประกันสำคัญ เพื่อความอยู่รอดของชนชั้นปกครองในกรุงเปียงยาง

เกาหลีเหนืออาจสร้างความกดดันเช่นนี้ต่อไป จนกว่าจีนจะออกมาสกัดหรือกระตุกแขนไว้ก่อน ให้เบามือลงหน่อย เพราะจีนกำลังจะมีงานใหญ่นั่นคือกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ในเดือนก.พ.ปีหน้า แต่อาจจะเป็นราวเดือนพ.ย.นี้ ที่เกาหลีเหนือจะทดลองยิงขีปนาวุธอีก เพื่อฉลองโอกาสครบรอบสำคัญของประเทศ เช่น วันก่อตั้งพรรคคนงานพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ในวันที่ 10 ต.ค.นี้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS