ลูกทีมของอูไน เอเมรี รู้ดีว่าหากสามารถคว้า 3 แต้ม จากเกมกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ พวกเขาจะผงาดปาดหน้าอาร์เซนอล รวมถึงลิเวอร์พูลขึ้นที่ 1 ของตารางได้ ซึ่งการผงาดง้ำค้ำหัวตารางได้ขนาดนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาได้เพราะเหตุผลเหล่านี้

กับดักล้ำหน้า

สิ่งที่โดดเด่นที่สุด และน่าพูดถึงมากที่สุด คือ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทีมของอูไน เช็กล้ำหน้าคู่แข่งสำเร็จถึง 82 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 1 จาก 20 ทีม ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างสเปอร์ส ที่ใช้งานกับดักล้ำหน้าสำเร็จเพียง 26 ครั้ง เท่านั้น โดยสไตล์การตั้งรับที่แน่นการใช้งานกับดักล้ำหน้าเป็นเอกลักษณ์ของอูไน อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งการที่ “โลกิ” สามารถติดตั้งสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองให้กับแอสตัน วิลล่า ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้เราไม่เคย “สิงห์ผงาด” เล่นงานเกมรุกฝ่ายตรงข้ามแแบนี้มาก่อน

อูไน เอเมรี กล่าวว่า “ผมชอบให้กองหลังทำอะไรแบบนี้ ตั้งแต่เล่นเส้นทางการคุมทีมเมื่อ 20 ปีก่อน ผมก็ทำแบบนี้กับบียาร์รีล แต่ผมรู้สึกได้เลยว่ากับที่แอสตัน วิลลา นั้นแตกต่างออกไป พวกเขารู้ดีเมื่อต้องดันสูง และพวกเราใช้งานมันเยอะถึงขนาดที่พวกเขาสามารถตัดสินใจที่ใช้กับดักล้ำหน้าได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมันดีมาก ๆ”

เอมี มาร์ติเนซ

ผู้รักษาประตูระดับโลก

ไม่ใช่แค่กองหลังที่ต้องทำหน้าที่ป้องกัน แต่การมีผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้ในการทำหน้าที่ปัดป้องการพบเจอกันของลูกฟุตบอลกับตาข่ายได้เป็นอย่างดีก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ คือผู้รักษาประตูที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้ไม่เป็น 2 รองใคร จากสถิติต่าง ๆ ก็พาให้ผู้รักษาแชมป์โลก 2022 ผงาดคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม หรือ เลฟ ยาชิน อวอร์ด ได้

อีกสิ่งที่มาร์ติเนซ ทำได้ดี คือ เมื่อลูกบอลอยู่ในการครอบครอง เขามักจะใช้เวลาอย่างคุมค่า ไม่ว่าจะเป็นการดึงเวลา หรือยียวนกวนประสาทคู่ต่อสู้อยู่เสมอ

อูไน เอเมรี กล่าวว่า “เรามีสไตล์ที่ชอบให้คู่แข่งขึ้นมาไล่บอลในพื้นที่ของเรา “เอมี” ชอบเก็บบอลไว้กับตัว และเขาก็อยากที่จะให้คู่แข่งเขามากดดัน และถ้าเป็นแบบนั้นฝ่ายตรงข้ามจะเสียผู้เล่นที่สามารถเล่นเกมรับได้ไปอย่างน้อย 1 คน”

เปา ตอร์เรส

กองหลังไม่ได้ทำแค่ป้องกัน

เมื่อผู้รักษาประตูต้องการจะออกบอล เขาต้องมองหาผู้เล่นที่เขามั่นใจว่าไว้ใจได้ และสามารถพาบอลออกจากพื้นที่หน้าบ้านของตัวเองได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเปา ตอร์เรส คือ ผู้เล่นที่คุณกำลังมองหา ซึ่งกองหลังทีมชาติสเปนคนนี้มีตัวเลขการพาบอลขึ้นหน้าเป็นระยะทางร่วม 3016 เมตร มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่กำลังดำเนินอยู่มีเพียงเปา ตอร์เรส และรูเบน ดิอาส ปราการหลังของ “เรือใบสีฟ้า” ที่มีระยะการพาบอลขึ้นหน้ามากกว่า 3000 เมตร

อูไน เอเมรี กล่าวว่า “ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้รักษาประตูบางคนใช้เท้าดีกว่ากองหน้าบางคนเสียอีก ฉะนั้นแล้วกองหลังก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นเดียวกัน เหมือนครั้งเมื่อผมคุมอาร์เซนอล ดวลกับไบรท์ตัน ตอนนั้นลูอิส ดังค์ ยังคงเป็นกองหลังโบราณที่แน่นการป้องกัน เคลียบอล เพียงอย่างเดียว แต่คุณดูตอนนี้สิ เขามั่นใจมากขึ้น กล้าครองบอล กล้าเลี้ยงบอลมากกว่าเดิมเสียอีก”

ดักกลาส ลุยซ์

วิวัฒนาการของแดนกลาง

ต้องยอมรับว่า ดักลาส ลุยซ์ และบูบาการ์ กามารา ขึ้นมาเป็นแกนกลางที่สำคัญของทีม ร่วมถึงจอห์น แม็คกินน์ ที่ต้องโยกย้ายตัวเองมาเล่นฝั่งซ้ายแทนที่ของจาค็อบ แรมซี่ย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งฟอร์มกำลังแรง ที่ถูกเบรกไว้ด้วยอาการบาดเจ็บ ซึ่งกองกลางชาวสกอตติชกำลังไปได้สวยกับบทบาทใหม่ที่ตัวเองได้รับ ด้วยตัวเลขการเอาชนะเมื่อต้องดวลคู่แข่งบนพื้นสูงถึง 95 ครั้ง ครองอันดับ 7 ของลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษ ร่วมถึงสถิติการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งถึง 35 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก

อูไน เอเมรี่ กล่าวว่า “ผมบอกให้แม็คกินน์ เข้ากรอบเขตโทษเพื่อทำประตูเองแหละ ผมไม่ได้หวังประตูจากแค่กองหน้าหรอกนะ ผมรู้ว่าแม็คกินน์ ทำได้ เขาสามารถวิ่งเข้ากรอบเขตโทษเพื่อทำประตูประตูได้”

โอลลี วัตกินส์

กองหน้าระดับโลก

หากตัดชื่อของปีศาจจอมถล่มประตูอย่างเออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ ออกไป โอลลี วัตกินส์ จะมนุษย์ที่ทำประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 2023 หากไม่นับประตูจากลูกจุดโทษ มันแสดงให้เห็นว่าสไตล์การเล่นของหัวหอกทีมชาติอังกฤษเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมองย้อนกลับไปในสมัยที่ดีน สมิธ และสตีเว่น เจอร์ราร์ด คุมทัพ “สิงห์ผงาด” ที่แน่นให้ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษเพียงเท่านั้น แต่ในยุคของอูไน ได้ติดตั้งโปรแกรมให้วัตกิ้นส์ สอดแทรกเข้าไปในกรอบเขตโทษมากขึ้น

อูไน เอเมรี่ กล่าวว่า “ผมเคยร่วมงานกับกองหน้ามากมาย ทั้งอัลบาโร เนเกรโด, เอดินสัน คาวานี และดาบิด บียา กับโอลลี วัตกินส์ ผมต้องให้เขาเข้ากรอบเขตโทษเพื่อหวังการทำประตูจากลูกกลางอากาศ และถึงแม้วัตกิ้นส์ จะทำประตูไม่ได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นในชัยชนะ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประตู”