เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีหิมะแรกตกในฤดูหนาว ผู้ที่อยู่ในโลกตะวันตก โดยเฉพาะในอังกฤษจะคุ้นเคยกันดีกับการนำนิทานสุดซึ้งกินใจเรื่อง “The Snowman” มาเล่าใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ
นิทานคลาสสิกเรื่องนี้เล่าถึงเด็กชายคนหนึ่งที่ได้พบตุ๊กตาที่ปั้นจากหิมะหรือ “สโนว์แมน” ที่มีชีวิตและพาเขาออกไปผจญภัยยังดินแดนขั้วโลกเหนือ ก่อนที่จะละลายหายไปต่อหน้าต่อตาของเด็กชายในตอนท้ายสุด เหลือเพียงหมวกและผ้าพันคอเอาไว้
ตอนจบของงานเขียนชิ้นนี้ว่าเศร้าแล้ว แต่แรงบันดาลใจของนักเขียนยิ่งเศร้ามากกว่าสิ่งที่เขาเขียนออกมาหลายเท่า
เรย์มอนด์ บริกส์ นักเขียนและนักวาดภาพประกอบคือผู้ที่แต่งเรื่อง The Snowman ฉบับดั้งเดิม ซึ่งถูกนำไปดัดแปลงในหลายสื่อ ตั้งแต่แอนิเมชั่นไปจนถึงละครเวที เขาเขียนเรื่องนี้โดยได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์สุดเศร้าในชีวิตของเขาเอง
ก่อนหน้าที่ บริกส์ จะแต่งนิทานคลาสสิกเรื่องนี้ เขาสูญเสียทั้งพ่อแม่และภรรยาภายในเวลาเพียง 3 ปี เพราะโรคภัยไข้เจ็บ
จีน บริกส์ ภรรยาของเขาเสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมีย และเนื่องจากเธอเป็นผู้ป่วยโรคจิตเภทด้วย พวกเขาจึงตัดสินใจหลังจากแต่งงานว่าจะไม่มีลูกด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ เมื่อ จีน จากเขาไป บริกส์ จึงไม่มีใครที่เขาสามารถเรียกว่าเป็นครอบครัวได้อีกต่อไป เขากลายเป็นชายผู้โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
บริกส์ เคยสารภาพกับหนังสือพิมพ์ เดอะ เทเลกราฟ ว่าเขาเคยคิดถึงการฆ่าตัวตาย เพราะชีวิตไม่เหลือใครแล้ว และไม่รู้จะอยู่ไปทำไม แต่สุดท้ายก็ได้แค่คิด
ด้วยความเศร้าโศกและคิดถึงผู้ที่จากไปทั้งสาม ทำให้เขาไม่ยอมเขียนเรื่อง The Snowman ให้จบอย่างมีความสุข และตัดสินใจให้หนึ่งในตัวเอกของเรื่องละลายหายไปจากโลก และทิ้งเด็กชายคู่หูไว้เพียงลำพัง
“ผมไม่เชื่อเรื่องแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่ช้าก็เร็ว เด็ก ๆ จะต้องผชิญหน้ากับความตาย ปู่ย่าตายายตาย หมาตาย แมวตาย หนูเจอร์บิล(สัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่ง)ตาย และตัวอะไรที่น่ากลัว ๆ นะ…อ้อ หนูแฮมสเตอร์ พวกมันตายง่ายอย่างกับแมลงวัน จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลีกเลี่ยงความตาย” บริกส์ให้สัมภาษณ์ไว้
แม้ว่าต่อมา บริกส์ จะพบ “ลิซ” คู่ชีวิตคนที่ 2 แต่เธอก็จากเขาไปด้วยโรคพาร์กินสันในปี 2558 หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงานมายาวนานถึง 42 ปี
ส่วนตัวเรย์มอนด์ บริกส์เอง เพิ่งลาโลกนี้ไปด้วยโรคปอดอักเสบ เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ในวัย 88 ปี.
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES