ปาเกียวในวัย 42 ปี ได้ประกาศไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงความพร้อมที่จะท้าชิงตำแหน่งผู้นำ และต่อสู้กับความยากจนรวมถึงการทุจริตคอร์รัปชั่น

เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกมวย 8 รุ่น คือสมบัติของชาติ แต่นักวิเคราะห์บอกว่า สิ่งที่ปาเกียวต้องเผชิญ ก็คือการท้าทายครั้งสำคัญว่าจะต้องทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งมั่นใจได้ว่า เขาสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ซึ่งขณะนี้กำลังถูกรุมเร้าด้วยปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม การทุจริต ภัยธรรมชาติไปจนถึงกลุ่มหัวรุนแรง ระบบสาธารณูปโภคที่ล้าสมัย และระบบราชการ โดยเอิร์ล ปาร์เรโญ นักวิเคราะห์การเมืองบอกว่า เขาจะปกครองประเทศได้หรือไม่ แม้ว่าตัวเขาจะล้อมรอบไปด้วยคนที่มีความรู้ แต่ในที่สุดก็จะต้องเป็นประธานาธิบดี ที่เป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจ

เพื่อที่จะชนะการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.2565 ปาเกียวจะต้องแสดงให้เห็นว่า เขาสามารถนำพาประเทศชาติไปได้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปได้ เพื่อให้หลุดออกมาจากหนึ่งในประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชีย ปัญหาก็คือ เขาจะบริหารประเทศอย่างไร ถ้าชนะเลือกตั้ง

ปาเกียวกล่าวได้ว่า แทบจะเป็นมือใหม่ในวงการเมือง ตั้งแต่ตำแหน่งส.ส.มาจนถึงวุฒิสมาชิก แต่ที่ชนะเลือกตั้งมาได้ เพราะความชื่นชอบในความเป็นนักกีฬามวยของเขา ในสายตาของชาวฟิลิปปินส์ซึ่งมองว่า เขาคือหนึ่งในตำนานนักชกยอดเยี่ยมตลอดกาล และชีวิตการต่อสู้ของเขาจากนักชกยากจน สู่นักค้ากำปั้นระดับค่าตัวพันล้าน

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งประธานาธิบดีของปาเกียว อาจจะยังเร็วเกินไปสำหรับเขา ในสายตาของคนฟิลิปปินส์ทั่วไป เช่น คนขับรถสามล้อ เอ็ดวิน โลซา วัย 65 ปีบอกว่า ปาเกียวยังไม่พร้อม เพราะยังมีอีกหลายคนที่สมควรจะได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานกว่า เพราะมีประสบการณ์มากกว่า แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งขึ้นมา เขาจะต้องเผชิญปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้า

พันธกรณีของเขาที่ประกาศว่า จะทำงานรับใช้ประชาชนอาจมีปัญหา เพราะแทบจะไม่ได้ดำเนินบทบาทในฐานะนักการเมืองเลย เข้าประชุมสภาก็ไม่ได้บ่อย และมักจะขาดหายจากการประชุมไป สาเหตุก็เพราะต้องไปซ้อมมวย เพื่อขึ้นชกมวยอาชีพเงินรางวัลมหาศาลอยู่ในต่างประเทศนั่นเอง

วิคเตอร์ อันเดรส แมนฮิต ผอ.หน่วยงานที่ปรึกษา Starbase ADRi บอกว่า เราทุกคนรู้จักปาเกียว แม้ว่าเขาจะเป็นคนดีมากและใจของเขาก็มาถูกทางแล้ว แต่ยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีในตำแหน่งวุฒิสมาชิก เพราะแทบจะไม่ได้เข้าประชุมเลย ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่อธิบายได้ว่า ทำไมคะแนนนิยมของปาเกียว ยอดนักชกขวัญใจคนตากาล็อก ถึงได้ตามหลังผู้สมัครคนอื่นในการสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยเขาอยู่ในลำดับที่ 5 จากการสำรวจระหว่างวันที่ 7-16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพลัสเอเชียนั้น ปาเกียวได้ไปเพียง 8% เท่านั้น จากกลุ่มตัวอย่าง 2,400 คน

เมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว ปาเกียวจึงไม่ต้องสู้กับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน แต่เขาอาจจะต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว อย่างลูกสาวของประธานาธิบดีดูเตร์เต เธอคือ ซารา ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ วัย 43 ปี ซึ่งแทบจะถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อ แม้ว่าเธอจะบอกว่าจะไม่ลงสมัคร แต่เธอได้รับคะแนนนิยมสูงสุดจากโพลทุกสำนักในปีนี้

ในฐานะวุฒิสมาชิก ปาเกียวบอกว่า เห็นด้วยกับประธานาธิบดีดูเตร์เตในเรื่องสงครามยาเสพติด และผลักดันให้นำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีก แต่เรื่องทุจริตในรัฐบาล และความสัมพันธ์กับจีนในรัฐบาลฟิลิปปินส์ชุดนี้ เขาไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะเรื่องทะเลจีนใต้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS