พ่อแม่เลี้ยงลูกหลานก็หวังได้พึ่งพายามแก่ชราลำบาก แต่ไม่มีใครรู้เลยวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร บางครอบครัวอาจสูญเสียลูกไปก่อนเวลาอันควร บางคนเลี้ยงลูกจนโตแล้วกลับทอดทิ้งพ่อแม่ไม่เหลียวแล แถมยังเอาหลาน-เหลนมาให้เลี้ยงทิ้งภาระก็มีถมไป ปล่อยให้ไม้ใกล้ฝั่งอยู่ลำพังอย่างลำบาก

พ่อแม่เลี้ยงลูกกี่คนก็เลี้ยงได้ แต่จะมีลูกซักกี่คนที่จะเลี้ยงพ่อแม่!!    

ณ บ้านเลขที่ 301 ซอยเดชอุดม 22 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางมิตร์ หรือ ยายมิตร์ เกรียมมะเริง อายุ 84  ปี ซึ่งเป็นย่าทวดนั่งเลี้ยงดูเด็กหญิงวัย 3 ขวบ มีศักดิ์เป็นเหลนอาศัยอยู่กันลำพังสองทวดหลาน อยู่ได้เพราะอาศัยเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและการช่วยเหลือของเพื่อนบ้านที่เมตตาสงสาร

วันหนึ่งยายมิตร์แทบช็อก!! มารู้ข่าวว่าบ้านและที่ดินของตัวเองถูกหลานสาวแอบเอาโฉนดไปจำนองกับนายทุนและขาดส่ง ทำให้บ้านและที่ดินที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงอาศัยอยู่มาหลายสิบปีกำลังจะถูกยึดจนไร้ที่ซุกหัวนอน

ซึ่งสภาพบ้านหลังนี้เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้อยู่ท้ายซอยเล็กๆ เก่าทรุดโทรม ชั้นบนชำรุดเสียหาย ทุกวันสองทวดเหลนจะอยู่กันที่ชั้นล่าง ซึ่งหลังคาบ้านรั่วซึม เวลาฝนตกต้องย้ายที่นอนหาที่หลบให้วุ่น

ยายมิตร์จะดูแลเอาใจเหลน 3 ขวบ เป็นอย่างดี คอยหาอาหารให้กิน กวาดเช็ดถูบ้าน ซักผ้า และโชคดีที่มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ   

ยายมิตร์ เล่าความหลังว่า หลังจากที่สามีเสียชีวิตไป ไม่นานลูกชาย 2 คน ก็มาเสียชีวิตจากไปอีก ตนทำงานเลี้ยงหลาน 2 คน ที่เกิดจากลูกชายคนเล็ก ซึ่งคนโตเป็นหลานชายและคนเล็กเป็นหลานสาว ตนจะรับจ้างทำงานทั่วไปมีรายได้ประมาณเดือนละ 4,000 บาท จนหลานทั้งสองเรียนจบมีครอบครัว

ต่อมาหลานชายได้มีภรรยาและได้ให้กำเนิดเหลนเป็นหญิง 1 คน ก่อนที่จะเลิกราแยกย้ายกันไปแล้วทิ้งเหลนไว้ให้ย่าทวดดูแลตั้งแต่แบเบาะ ไม่ได้มาส่งเสียเลี้ยงดูเลย ตนต้องใช้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท ซื้อนมและเครื่องใช้เลี้ยงเหลนโดยมีเพื่อนบ้านผู้ใจบุญช่วยเลี้ยงและดูแล

“ส่วนหลานสาวอีกคนก็ไปทำงานแต่ก็ไม่ได้ส่งเงินมาให้ตนเลยเช่นกัน หนำซ้ำยังเอาโฉนดที่ดินกับบ้านไปจำนองอีก ขาดการชำระปล่อยให้ที่ถูกยึด ตอนนี้มีคนจะมาซื้อที่และบ้านต่อ ตนกับเหลนจึงกำลังจะถูกไล่ที่ โดยเขาให้โอกาสอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือน ตอนนี้ทุกข์ใจมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร”

ด้าน น.ส.กอมาศ สกุลธรรมโชติ อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือยายมิตร์ กล่าวว่า ตนเห็นความลำบากของครอบครัวนี้มาหลายปีจึงเกิดความสงสาร ตนจะนำข้าวปลาอาหารมาให้เกือบทุกวันและช่วยยายมิตร์ดูแลเหลนมาตั้งแต่แบเบาะ ช่วยรับส่งไปโรงเรียน บางครั้งในวันที่ฝนตกบ้านของยายมิตร์ จะมีน้ำรั่วซึมแทบนอนไม่ได้ ตนก็จะเรียกช่างมาช่วยซ่อมแซมให้

“ก่อนหน้านี้ยายมิตร์มีสุขภาพแข็งแรง หลังจากทราบว่าบ้านและที่ดินของตัวเองกำลังจะถูกยึดเพราะหลานสาวนำไปจำนองร่างกายก็ทรุดลง ที่ผ่านมาตนเห็นทวดและเหลนใช้ชีวิตเพียงลำพังโดยไม่มีลูกหลานเข้ามาเหลียวแล หนำซ้ำยังมาเบียดเบียนขอเงินยายมิตร์ด้วย ตนเองยังไม่มีครอบครัวจึงรักและเอ็นดูยายมิตร์กับเหลนประดุจญาติ และพร้อมที่จะดูแลทั้งสอง นอกจากนี้ตนยังให้เด็กน้อยเรียกตนว่าย่าด้วยอีกคน”

ต่อมา นางสาคร ลาภวิบูลย์สุข อายุ 54 ปี กู้ภัยฮุก 31 หัวหน้าจุดย่อยข้าง สภ.โพธิ์กลาง ทราบเรื่องของยายมิตร์ จึงได้เข้ามายื่นมือช่วยเหลือ นางสาคร เปิดเผยว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับพ่อของเด็ก เนื่องจากเคยทำงานเป็นกู้ภัยร่วมกันเมื่อหลายปีก่อน จึงทราบข้อมูลของครอบครัวนี้เป็นอย่างดีและได้เข้ามาช่วยเหลือเป็นประจำ ซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ และนมมาให้อยู่เสมอ

ตนและทีมงานได้ปรึกษากันก่อนจะโพสต์เรื่องราวของยายมิตร์ลงในโซเชียลเพื่อหาทางช่วยเหลือ ก่อนจะพายายมิตร์ไปเปิดบัญชีและขอผู้ใจบุญช่วยบริจาคเพื่อจะได้นำเงินไปไถ่ถอนบ้าน โดยตนได้ไปพูดคุยกับนายทุนไว้แล้วซึ่งเขาก็ยินดีหากมีเงิน 3.5 แสนบาท ไปไถ่ถอน เขาก็จะไม่ขายบ้านให้ใคร

“ขอยืนยันว่าการเปิดบัญชีบริจาคครั้งนี้บริสุทธิ์และโปร่งใส เพราะตนตั้งใจที่จะช่วยให้ยายมิตร์กับเหลนมีที่อาศัยอยู่ต่อไป เงินทั้งหมดที่ผู้ใจบุญได้บริจาคมาทุกบาททุกสตางค์ จะยกให้คุณยายทั้งหมด โดยจะมีการจัดการอย่างโปร่งใส ไถ่ถอนบ้านแล้วก็จะนำมาซ่อมแซมบ้านให้คุณยาย จากนั้นจะเก็บไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเหลน”

ขณะที่ นางอารยา เพลินบุญ หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ดร.ปาณิสรา จันทรัตน์ นักพัฒนาชุมชน กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครนครราชสีมา ได้ลงพื้นเยี่ยมบ้านยายมิตร์เพื่อให้ความช่วยเหลือ เพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่ายายทวดได้รับเงินช่วยเหลือสวัสดิการต่างๆ จากทางภาครัฐ ที่ควรจะได้รับแล้ว ส่วนเรื่องซื้อที่ดินคืนมาเป็นของยายที่มีการเปิดรับบริจาคอยู่ระหว่างช่วยกันประสานดำเนินการ

ภายหลังนางสาคร โพสต์เรื่องราวของยายมิตร์ถูกหลานแอบเอาโฉนดไปจำนองจนจะถูกยึดที่และบ้านไร้ที่ซุกหัวนอน สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวชีวิตรันทดของยายมิตร์และเหลน จนมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเป็นเงินถึง 937,765.40 บาท และนางสาครและทีมงานได้พายายมิตร์ไปปิดบัญชีรับบริจาคเมื่อวันที่ 24 ก.ย. แล้ว และจากนี้จะมีการเปิดบัญชียายมิตร์อีกบัญชีและรอตั้งกรรมการในการดูแลเบิกถอนต่อไป

ยายมิตร์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือและผู้ใจบุญทุกคนที่มีใจเมตตาโอนเงินมาให้ความช่วยเหลือจนจะได้ที่และบ้านคืน ซึ่งเงินส่วนหนึ่งก็จะเก็บเป็นทุนการศึกษาของเหลน ตนไม่รู้จะตอบแทนยังไง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและคุณพระคุ้มครองทุกท่านให้รอดพ้นจากโรคภัยต่างๆ และโรคโควิด คิดสิ่งใดให้สมปรารถนา ขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ

“ตนเองก็แก่ชราลงทุกวันไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่ แต่อยากให้เหลนมีอนาคตที่ดีได้เรียนหนังสือสูงๆ เป็นกำลังของชาติบ้านเมืองต่อไป แม้ที่ผ่านตนจะทำงานส่งเสียทั้งลูกและหลานให้ได้เรียนหนังสือ แต่ก็ไม่มีใครเรียนจบ จึงหวังเพียงว่าเหลนคนนี้จะได้เรียนจนสำเร็จการศึกษา มีงานทำเลี้ยงตนเองได้ก็เพียงพอแล้ว” ยายมิตร์ กล่าวทิ้งท้าย

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย

เรื่องและภาพโดย : ปรีดา สาระลัย จ.นครราชสีมา

แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]

[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..