เจ้าหน้าที่ของสำนักอนุรักษ์ฯ ระบุว่าหลังจากผู้คนในชุมชนท้องถิ่นช่วยให้ฝูงวาฬและโลมาลอยบนผิวน้ำในช่วงน้ำขึ้นได้อีกครั้ง ฝูงวาฬและโลมาทั้งหมดได้กลับมาเกยตื้นบนชายฝั่งอีกครั้งที่จุดแนวปะการังหินที่ห่างไกลและไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงทำให้บางตัวตาย และต้องการุณยฆาตตัวที่เหลือในที่สุด

แมตต์ ทอง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของสำนักอนุรักษ์ฯ ในกิสบอร์น ระบุว่าการการุณยฆาตสัตว์เหล่านี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา แต่หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าวาฬและโลมาดังกล่าวมีโอกาสรอดน้อยมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องทำเพื่อไม่ให้พวกมันต้องทนทรมานตลอดทั้งคืน ทีมของเขาพบฝูงวาฬและโลมาเหล่านี้ในสภาพที่เจ็บปวดและได้รับบาดเจ็บบนแนวปะการังหิน ขณะที่บางตัวได้ตายไปแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมันทรมานและการการุณยฆาตถือเป็นแนวทางที่มีมนุษยธรรมที่สุด ผลลัพธ์ครั้งนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับวาฬเหล่านี้และผู้คนในชุมชน โดยเฉพาะหลังจากที่สามารถช่วยให้วาฬกลับไปลอยน้ำได้ในช่วงก่อนหน้านี้

อนึ่ง ทีมงานของสำนักอนุรักษ์ฯ ยังคงทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และดำเนินการตรวจวัดและเก็บตัวอย่างเพื่อช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประชากรวาฬและโลมาในน่านน้ำของนิวซีแลนด์

สำนักอนุรักษ์ฯ ระบุว่าการเกยตื้นของวาฬและโลมาเป็นเรื่องปกติในนิวซีแลนด์ทว่ายังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งอาจประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ความเจ็บป่วย ข้อผิดพลาดในการเดินเรือ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ การลดลงอย่างรวดเร็วของน้ำ การถูกไล่ล่า หรือสภาพอากาศสุดขั้ว

(ภาพจากสำนักอนุรักษ์ของนิวซีแลนด์  : ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำเกยตื้นบนชายฝั่งตะวันออกของเกาะเหนือในนิวซีแลนด์ วันที่ 22 ม.ค. 2024).