ปัญหา การฉ้อโกงซื้อขายสินค้าหลอกลวง กันในโลกโซเชียล หากมองแบบผิวเผิน ตอนแรกเหมือนจะเป็นเพียงคดีเล็ก ๆ เรื่องธรรมดา ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ข้อเท็จจริงในยุคนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะถูกมองข้ามผ่านไปได้ง่ายเสียแล้ว!!

จากการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำนำสมัย การเชื่อมโยงติดต่อสื่อสารกันได้ชนิดไร้พรมแดน เพียงแค่ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเดียวก็ทำได้สารพัดประโยชน์ ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร สารพัดเรื่องราวไหลบ่าลงไปสู่ใน สังคมโซเชียล ที่มีให้เลือกหลากหลายแพลตฟอร์มตามที่ต้องการ ไล่ตั้งแต่ เฟซบุ๊ก, ไลน์, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์, และ ยูทูบ ฯลฯ

เป็นธรรมดาเมื่อมีผู้คนเข้าไปเล่นโซเชียลกันมหาศาลเช่นนี้ แถมยังสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลกอีก วงจรธุรกิจการค้าขายจากสังคมปกติ ต่างก็ต้องปรับตัว กระโจนเข้าไปค้าขายใน “ตลาดออนไลน์” เช่นเดียวกัน

ปัจจุบันตลาดออนไลน์ มีทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายมากขึ้นเรื่อย ๆ คนรุ่นใหม่หันมานิยมซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ ยิ่งมาเจอภาวะวิกฤติโควิด-19 ยิ่งเติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะซื้อหาอะไร อาหารการกินหรือข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง ประกอบกับมีการแข่งขันของ บริษัทขนส่งสินค้า ทำให้สินค้าสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ กลายเป็นเรื่องสะดวกของทั้งสองฝ่ายไปอีก

ตลาดออนไลน์ถึงจะซื้อง่ายขายคล่อง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ปัญหา ภัยร้ายมิจฉาชีพ 18 มงกุฎ” แฝงตัวเข้าไปอาศัยช่องโหว่เปิดเพจตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ หลอกลวงขายสินค้าหลากหลายรูปแบบ มีทั้งอ่อยเหยื่อล่อ นำรูปภาพสินค้าของจริงมาโชว์ ขายราคาไม่แพง แถมมี “หน้าม้า” เข้าไปตามกดไลค์ เขียนคอมเมนต์บรรยายซื้อสินค้าไปได้รับเรียบร้อยคุณภาพดี

พอสร้างความน่าเชื่อถือ จนเหยื่อหลงเชื่อติดกับดักโอนเงินซื้อ แต่สุดท้ายได้รับ สินค้าไม่ตรงปก, สินค้าไม่มีคุณภาพ บ้างก็ เจอแจ๊กพอต จ่ายเงินไปแล้ว สินค้าก็ไม่ได้รับ แถมปิดเพจร้านออนไลน์หนีติดต่อใครก็ไม่ได้

เหมือนเช่น แก๊ง 18 มงกุฎสุดแสบ หลอกขายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ขนาด 32 กิกะไบต์ ราคา 5,000 บาท ผ่านทางอินสตาแกรม นักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ใน จ.เชียงใหม่ ด้วยความไร้เดียงสาจึงหลงเชื่อเพราะกำลังต้องการนำโทรศัพท์มือถือไปใช้เรียนออนไลน์ แต่เมื่อไม่ได้ของทำให้เด็กเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ

ยังดี พล...กรไชย คล้ายคลึง ผบช.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ไม่นิ่งนอนใจส่งทีม ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ ตร.ภาค 5 สืบสวนไล่แกะรอยจากเส้นทางบัญชีที่เหยื่อโอนไปให้ จนสาวถึงต้นทางเจ้าของบัญชีได้แล้ว 2 คน ยอมรับทำหน้าที่ หน้าม้า รับจ้างมาเปิดบัญชีธนาคาร ซัดทอดหัวโจกเป็นสาววัยรุ่น ชื่อ “พิยดา”

เมื่อตามไปค้นบ้านพบใช้ชีวิตร่ำรวยอู้ฟู่ สินค้าแบรนด์เนม รถยนต์หรู มีทรัพย์สินเงินทองกว่า 40 ล้านบาท ประวัติเคยก่อคดีลักษณะดังกล่าวมาอื้อซ่า ยังมีหมายจับคาอยู่ด้วย ล่าสุด ปปง. ออกโรงมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน “พิยดา” เอาไว้แล้ว นอกจากนี้ พลังนักสืบโซเชียล ยังร่วมแจ้งเบาะแสแฉพฤติกรรมโกงขายของออนไลน์ มีเหยื่อไม่ต่ำกว่า 500 ราย

ไม่น่าเชื่อ “พิยดา” ก่อเหตุมานับไม่ถ้วนแต่ก็ยังลอยนวลใช้ชีวิตติดหรูอยู่สุขสบาย

มิจฉาชีพ 18 มงกุฎ ในโลกออนไลน์ ลักษณะนี้ยังมีอีกหลายแก๊ง ต้องฝาก ตำรวจไซเบอร์ รีบพลิกวิกฤติเป็นโอกาส จับเข่าคุยหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงดิจิทัลฯ, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

จะขุดรากถอนโคนหรือล้อมคอกปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ต้องรีบลงมือตีเหล็กที่กำลังร้อน ๆ สังคมเฝ้าจับตาดูอยู่ อย่าปล่อยให้มิจฉาชีพเหล่านี้อาละวาดอยู่ในโลกออนไลน์ ก่อกรรมทำเข็ญกับสุจริตชน แบบไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง!!.

—————-
เชิงผา