เรียกว่าเป็นอีกเดือน ที่เหล่าคอหนังไทยและเทศ ต้องไม่พลาดชมภาพยนตร์ชื่อดังระดับบล็อกบัสเตอร์ ที่จัดทยอนเข้าฉายต่อเนื่องกันแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่ พี่นาค 4, ดรูน ภาค 2, ดาบพิฆาตอสูร เสียงกู่ร้องแห่งชัยชนะ, กังฟูแพนด้า 4 ไปจนถึง ตุ๊กตาซาตาน และเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีหนังที่เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ (Oscars 2024) สาขาต่าง ๆ เข้ามาร่วมจัดฉายด้วยกัน อย่างเช่น พัวร์ ธิงส์ (Poor Things) นำแสดงโดย “เอมมา สโตน” ได้รับเสียงจากเหล่านักวิจารณ์ว่า เป็นเรื่องที่เธอเล่นได้เปลืองตัวที่สุด (18+) โดยหนังเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล มากถึง 11 สาขา ขณะเดียวกัน ยังมีหนังอีกเรื่องที่น่าจับตาดู นั่นก็คือ “รัก ร่าน ร้าย” ( May December) ที่พล็อตเรื่องจะออกมาในแนวดราม่า ชีวิต และตลกร้าย

สำหรับ “รัก ร่าน ร้าย” ( May December) ได้รับเสียงชื่นชมและได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกมากมาย อาทิ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์, เทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ก, เทศกาลภาพยนตร์ลอนดอน, เทศกาลภาพยนตร์ซานเซบาสเตียน ฯลฯ และล่าสุดยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขา “บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม” อีกด้วย โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อ “เอลิซาเบธ เบอร์รี่” (รับบทโดย นาตาลี พอร์ตแมน) นักแสดงสาวชื่อดัง ต้องการจะศึกษาชีวิตคู่ของคู่รักอื้อฉาว “เกรซ อาเธอร์ดัน-ยู” (รับบทโดย จูลีแอนน์ มัวร์) และ “โจ-ยู” (รับบทโดย ชาร์ลล์ เมลตัน) โดยทั้งสองตกเป็นข่าวครึกโครม หลังจากครูสาววัย 36 ปี แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์หนุ่มอายุเพียง 13 ปี ซึ่งแน่นอนว่า เธอโดนจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังพ้นโทษเธอก็กลับมาแต่งงานและใช้ชีวิตคู่รัก มีลูกด้วยกัน 2 คน ท่ามกลางกระแสสังคมที่มีทั้งเข้าใจชีวิตพวกเขา และต่อต้านชีวิตของพวกเขา

จุดแข็ง หนังดูเหมือนจะเป็นการเกาะติดชีวิตคู่รัก โดยให้ “เอลิซาเบธ” ดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ประมาณศึกษาดูงาน แต่ความจริงแล้วจุดประสงค์ก็คือการถอดเอาคาแรกเตอร์ของ “เกรซ” เพื่อมาใช้ในการแสดงหนังที่เกี่ยวกับชีวิตคู่รักอื้อฉาว ดังนั้น นอกเหนือจากที่ผู้ชมจะได้เห็นการเลียนแบบอิริยาบถต่าง ๆ ของ “เอลิซาเบธ” แล้ว ยังจะได้เห็นความขัดแย้งด้านความคิดของตัวละครแต่ละตัว ทั้งในด้านมืดและสว่าง

สิ่งที่น่าชมมาก ๆ ก็คือ บทของ “โจ-ยู” ที่ ดาราหนุ่มและนายแบบชื่อดัง “ชาร์ลส์ เมลตัน” ต้องทุ่มสุดตัวเพื่องานแสดง เขาไป เพิ่มน้ำหนักตัวเองขึ้นมาอีก 40 ปอนด์ หรือประมาณ 18 กิโลกรัม ให้ดูเป็นหนุ่มท้วม ที่มีนิสัยอ่อนโยน และอ่อนไหว คอยดูแลลูก ๆ เติบโตในช่วงวัยรุ่นที่เขาไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวตมาก่อน ขณะที่บทของ “เกรซ อาเธอร์ดัน-ยู” ที่แสดงโดย “จูลีแอนน์ มัวร์” มีหลายช่วงที่แสดงให้เห็นถึงภาวะการเป็นผู้นำครอบครัว แต่ก็ยังมีปัญหาความแตกต่างของชีวิตคู่รักที่มีอายุห่างกันเกินไป มักจะตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายไม่ได้ ท้ายที่สุดไม่มีอะไรที่จะพยุงชีวิตคู่ให้รอด นอกจากความรักและความเข้าใจเท่านั้น

จุดอ่อน หนังพยายามเล่าเรื่องชีวิตคู่ แต่ก็เต็มไปด้วยความแตกต่างทางความคิด ถ่ายทอดบทสนทาของเหล่านักแสดง ทำให้ เกิดความเนือยสูงสุด ๆ ผู้ชมต้องใช้สมาธิในการรับชมมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นอาจตามไม่ทัน หรือหลับคาเบาะได้ง่าย ๆ ช่วงแรกการพูดคุยจะค่อนข้างช้า แต่พอเข้าสู่กลางเรื่องและท้ายเรื่อง จะมีความเร็วขึ้นจนฟังไม่ค่อยทัน สำหรับซีนอีโรติก ดูเหมือนเป็นความฉาบฉวยไม่มีภาพให้จดจำ นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านงานโปรดักต์ อนุมานได้ว่า ทุนน้อยแต่เน้นคุณภาพ เสียงดนตรีประกอบเลยออกมาเป็นแนว “ละครหลังข่าว” ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในหนังสมัยใหม่ (พอเข้าใจได้ว่าเป็นแนวถนัดของ “ท็อดด์ เฮย์เนส” ผู้กำกับชื่อดัง) แต่ ที่น่าปวดหัวที่สุดคงไม่พ้นงานภาพ ที่ดูแล้วเหมือนหนังเก่า ๆ ไร้สีสัน ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น

3/5 กะโหลก สำหรับหนังชีวิตดราม่าเชือดเฉือนบทบาทการแสดงของ 2 ดาราดัง ที่อาจทำให้ใครหลายคนหลับสบายในโรงภาพยนตร์

———————————————

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Mongkol Major Mongkol Cinema