ป่าภูหลง ในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วย พันธุ์ไม้ป่านานาชนิด พืชสมุนไพร อาหารป่า สัตว์ป่า แต่เกิดเกิดการบุกรุกป่า และปัญหาไฟป่าบ่อยครั้ง ส่งผลต่อภาคการเกษตร มลพิษและสุขภาพของประชาชน

**เยี่ยมภูหลง เดินลงป่า พาทำแนวกันไฟ

ปี2559 เกิดไฟป่ารุนแรงบนเทือกเขาป่าภูหลง พื้นที่ชุ่มน้ำ 3,000 ไร่ ภูมินิเวศของป่าเปลี่ยนแปลงไป สาเหตุหลักจากการลักลอบหาสัตว์ป่า รวมถึงจุดไฟเผาป่า ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ แหล่งน้ำไม่เพียงพอ รวมถึงป่าชุมชน สวนทุเรียน สวนยาง ในพื้นที่ผลผลิตลดลง เกิดมลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง ควันไฟ ไม่สามารถนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภค บริโภคได้นายไพบูลย์ บุญโยธา รองปลัด และรักษาราชการปลัดเทศบาลตำบลธาตุทอง จ.ชัยภูมิบอกเล่า และว่าเทศบาลตำบลธาตุทอง มีป่าภูหลงเป็นผืนป่าสำคัญ ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ประโยชน์เป็นแหล่งอาหาร เช่น เห็ด หน่อไม้ ไข่มดแดง และสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ในครัวเรือน รวมถึงเป็นแหล่งน้ำทำการเกษตร

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ได้สานพลังพลัง เทศบาลตำบลธาตุทอง จ.ชัยภูมิ และเครือข่ายเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ฟื้นฟูป่าภูหลง เพื่อพัฒนาพัฒนาศักยภาพชุมชน-ผู้นำ ดูแลทรัพยากรรักษาป่าชุมชน สร้างความมั่นคง-ยั่งยืน ให้คนอยู่กับป่าได้ โดยจัดกิจกรรมสัญจร “เยี่ยมภูหลง เดินลงป่า พาทำแนวกันไฟ รวมน้ำใจไทธาตุทอง” ที่หน่วยพัฒนาและป้องกันป่าไม้ (ชย.7) อ.ภูเขียว

**โลกขับเคลื่อนแนวคิดชุมชนเข้มแข็ง

นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กล่าวว่า เครือข่ายทั้ง 8 แห่งพร้อมทั้งแม่ข่ายอย่างเทศบาลตำบลธาตุทอง ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทำงานเป็นระบบมีการกำหนด เป้าหมายและทิศทางชัดเจน ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชม ขอให้ทุกคนเข้าใจการทำงานในลักษณะนี้ที่ใช้พื้นที่เป็นฐานในการพัฒนาด้วยการน้อมนำศาสตร์ของพระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” “ระเบิดจากข้างใน” “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นเครื่องมือการทำงาน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ เกิดการสร้างเครือข่ายปกป้องฐานทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากป่าร่วมกันอย่างยั่งยืน

อยากเห็นชุมชนท้องถิ่นใช้ต้นทุนทางสังคมในมิติต่างๆ มาร่วมกันพัฒนา ให้นำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนได้แบบยั่งยืน ให้สามารถต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงหรือสิ่งกระทบที่เข้ามาได้อย่างไม่หวั่นไหว ซึ่งแนวคิดชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืนนี้ มิได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและขับเคลื่อนกันระดับเวทีโลก” ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กล่าว

**ทุนทางสังคมเสริมศักยภาพผู้นำ

ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 และประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สสส. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นบริหารจัดการภูมินิเวศ มีเป้าหมายพัฒนาขีดความสามารถของเทศบาลตำบลธาตุทอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเครือข่าย ให้ใช้ทุนทางสังคม ด้วยการเสริมศักยภาพผู้นำ กลไก ให้เกิดเป็นวิธีการใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรมในการบริหารจัดการทรัพยากร ให้เกิดการทำงานร่วมกัน โดย สสส. ได้เข้าไปสนับสนุนองค์ความรู้ เชื่อมร้อยท้องถิ่นเครือข่ายภูมิภาคเดียวกัน ในการทำงานดูแลทรัพยากร “ป่าภูหลง” โดยจะเกิดผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ เกิดอาสาสมัครจัดการไฟป่า ที่เชื่อมการทำงานร่วมกับหน่วยพิทักษ์ป่า พัฒนาแกนนำเด็ก และเยาวชนพิทักษ์ป่า เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ยั่งยืน

**ท้องถิ่นมีบทบาทบริหารทรัพยากรป่า

ด้านนายยุทธศาสตร์ วัชรธนาคม นายกเทศมนตรีตำบลธาตุทอง กล่าวว่า ท้องถิ่นมีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด โดยกำหนดกรอบการปฏิบัติในการดำเนินงานเป็น 4 มาตราการ อันได้แก่1. มาตราการการป้องกันฯ เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งที่มักจะเกิดไฟป่า เพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ 2.มาตราการการดูแลรักษาป่าด้วยการพัฒนาศักยภาพทีมอาสาเฝ้าระวังไฟป่า  ฝึกอบรมเครือข่ายผู้นำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ร่วมถึงการสร้างเครือข่ายการทำงานกับอปท.ข้างเคียงปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน ประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของคนอยู่ร่วมกับป่า 3.มาตราส่งเสริมสนับสนุนการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ การปลูกป่าทดแทน 4.มาตราการการใช้ทรัพยากรจากป่ามาใช้อย่างเหมาะสม และมีการประกาศปิดป่าชั่วคราวเพื่อให้พื้นป่าได้สร้างระบบนิเวศตามธรรมชาติ

สสส. ได้เข้ามาเสริมการทำงานเครือข่ายระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ เช่น หน่วยพัฒนาและป้องกันป่าไม้ (ชย.7) หน่วยองค์กรชุมชน องค์กรศาสนา เช่น วัดป่ามหาวัน ซึ่งมีพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เป็นศูนย์รวมจิตใจในการขับเคลื่อน ในการจัดการจัดการและรักษาทรัพยากร โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้ามาหนุนเสริมให้สามารถมุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรที่ยั่งยืน” นายไพบูลย์ กล่าว