ใครที่ได้ชม “KYRIE คิริเอะ เพลงรักคือเธอ” เวอร์ชั่นปกติ เสียงร้องของ “ไอนะ ดิเอนด์” (Aina the End) ที่รับบทเป็น “คิริเอะ” น่าจะยังคงตราตรึงใจอยู่จนถึงตอนนี้ไม่จางหายไป รวมทั้งความละมุนหมอง ๆ เศร้า ๆ จากฝีมือของผู้กำกับ “ชุนจิ อิวาอิ” ก็น่าจะยังตกตะกอนอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน แม้หนังจะยาว 119 นาที แต่เชื่อว่ามีคนที่รู้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่ม รู้สึกว่าความรู้สึกบางอย่างยังขาด ๆ หาย ๆ และเมื่อได้รู้ว่าหนังมีเวอร์ชั่นไดเรกเตอร์คัต แบบชมกันจุใจกว่าเดิมกับความยาว 2 ชั่วโมง 58 นาที หลายคนน่าจะอยากชมมาก ๆ เหมือนกับ “หมีเช”

Kyrie no uta ฉบับไดเรกเตอร์คัต เป็นหนังที่ “ชุนจิ อิวาอิ” ตัดต่อเล่าเรื่องตามความชอบส่วนตัวแบบที่เขาอยากจะเล่าเลย ไม่ต้องฟังใคร ไม่ต้องสนใจปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เอาใจตัวเองได้เต็มที่ และหนังก็มีความสมบูรณ์กว่าเดิมขึ้นเยอะมาก แต่ก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ขาดหายไปจากเวอร์ชั่นปกติเช่นกัน

สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู “KYRIE คิริเอะ เพลงรักคือเธอ” มาก่อน หนังเล่าเรื่องราวความรัก ชีวิต และ ความฝัน ของ 4 ตัวละคร “คิริเอะ” ที่รับบทโดย Aina the End, “มัตสึมุระ โฮคุโตะ” รับบท “นัตสึฮิโตะ” ชายหนุ่มผู้พยายามหาคู่หมั้นที่หายไปในอดีต, “ฮารุ คุโรกิ” รับบท “ฟุมิ” คุณครูชั้นอนุบาล ผู้ปกปิดอดีตและความลับบางอย่างไว้ในใจ และ “ฮิโรเสะ ซึสึ” รับบท “อิ๊กโกะ” หญิงสาวลึกลับ ผู้ละทิ้งอดีตของตน ละทิ้งชื่อของตัวเอง และมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการให้กับ คิริเอะ โดยหนังถ่ายทำใน 4 เมือง อิชิมากิ , โอซาก้า, โอบิฮิโระ, และ โตเกียว การเดินทางของทั้งสี่คนผู้ที่เข้ามาและจากไป ในช่วงเวลาแสนเหงา เสียงเพลงที่ร้องออกมาจากหัวใจผ่านเรื่องราว 13 ปีของพวกเขาในการตามหาความรัก ตัวตน เพลงที่จะบอกคุณว่า ยังมีใครบางคนรอคุณอยู่ที่ตรงนั้นไหม ตัวหนังยังถ่ายทอดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น เมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นภัยพิบัติรุนแรงโจมตีญี่ปุ่น ที่หนักหนาสาหัส และได้เปลี่ยนมุมมอง-ทัศนคติของคนญี่ปุ่นไปอย่างมากมาย

จุดเด่นของ Kyrie no uta ไดเรกเตอร์คัต

หนังมีการเล่าเรื่องที่สมบูรณ์กว่าเวอร์ชั่นปกติค่อนข้างมาก ทำให้เราทราบที่มาที่ไป ความเป็นมาเป็นไปของ 3 ตัวละครสำคัญอย่าง คิริเอะ, อิ๊กโกะ และ นัตสึฮิโตะ มากขึ้น สามารถตอบคำถามที่เราเคยสงสัยหลังดูเวอร์ชั่นปกติได้เป็นอย่างดี

เราได้ดูอีกหลายฉากของ Aina the End ที่ไม่มีในเวอร์ชั่นปกติ ซึ่งทำให้เราได้เห็นถึงความสามารถด้านการแสดงของเธอว่า ไม่ธรรมดา ถือเป็นนักร้องอาชีพที่มีฝีมือด้านการแสดงไม่แพ้นักแสดงมืออาชีพเลย และมีสไตล์การแสดงเป็นของตัวเองด้วย

จุดอ่อนของ Kyrie no uta ไดเรกเตอร์คัต

แม้การเล่าเรื่องจะสมบูรณ์ขึ้นเยอะมาก แต่เสน่ห์ในความฟุ้ง ๆ เพ้อ ๆ ฝัน ๆ ก็ลดลงไปพอควร และที่ถูกลดทอนลงไป ก็คือเส้นเรื่องเกี่ยวกับเพลงของคิริเอะ ซึ่งมีอิมแพ็คมหาศาลในเวอร์ชั่นปกติ แต่ในเวอร์ชั่นไดเรกเตอร์คัต ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ออกมาแค่เป็นน้ำจิ้ม ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทำให้ความ “อีเธอร์” (อีเธอร์คือ สสารที่มองไม่เห็น สิ่งที่พาเราหนีจากโลกความจริงที่โหดร้ายในบางที) มันหายไป แต่ก็ได้ความสมบูรณ์ในเรื่องสตอรี่และดราม่ามาทดแทน

4/5
Kyrie no uta ฉบับไดเรกเตอร์คัต ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นปกติ คุณสามารถดูทั้งสองเวอร์ชั่นได้แบบไม่เสียดายตังค์และเวลา แนะนำให้ดูทั้งสองเวอร์ชั่น สำหรับฉบับไดเรกเตอร์คัต มีความสมบูรณ์ในการเล่าเรื่องที่เจ็บปวดแสนงดงาม ได้ซึมซับกับความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเต็มที่ แต่ใครที่ยังไม่ได้ดูเวอร์ชั่นปกติก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะมันมีความ “อีเธอร์” ที่เสียงเพลงของคิริเอะ จะช่วยเยียวยาคุณให้รู้สึกดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

หมีเช