หลังจากเรื่องนี้ทำเอาคนไทยกว่า 50 ล้านคน ทำใจ ช่างมัน” ไปแล้ว แบบชนิดที่เรียกว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ด้วยเข้าใจเหตุผลว่ารัฐบาล ไม่มีเงิน”

ส่วนบรรดา เอฟซี” กว่า 10 ล้านเสียง ที่ให้การสนับสนุน คงต้องตรึกตรอง!! ว่า…ยังจะคงการเป็นเอฟซีอย่างต่อเนื่องต่อไป หรือจะใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลในการทบทวนหรือไม่?

อย่างไรก็ตามกว่า 6 เดือนของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ดูเหมือนทำงานหนักแทบทุกวัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่โดนใจเท่าใดนัก เพราะดูเหมือนทุกอย่างยัง “นิ่ง”

เพราะ…ผลงานที่จับต้องได้อย่างแท้จริง อาจยังไม่ถึงมือแบบชัด ๆ หรืออาจได้เพียงบางกลุ่มบางก้อน หรืออาจยังไม่เกิดผลในทันทีทันใด

เอาเป็นว่า ในเรื่องของนโยบาย เรือธง”  คงต้องอดใจรอกันอีกนิด ว่าจะอย่างไร? กันแน่  ถามว่ารัฐบาลจะกู้ จะใช้เงินงบประมาณ หรือใช้ทั้งเงินกู้และเงินงบประมาณ เชื่อว่า กว่า 50 ล้านคน ไม่ได้สนใจ เพียงแค่ทำจริงแจกจริง ก็พอใจแล้ว!!

เช่นเดียวกับ เรื่องของการลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนอง ให้กับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโดมิเนียม ที่รัฐบาลของนายกฯ เศรษฐา ได้แจกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยเมื่อต้นปี 67 ที่ผ่านมา ที่ยังคงให้ลดค่าโอนเหลือเพียง 1% รวมถึงค่าจดทะเบียนจำนองลดเหลือ 0.01% ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 67 นี้

นโยบายนี้ถือเป็น “ของจริง” ที่จับต้องได้ เพื่อต้องการให้ประชาชนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แม้ว่า การจะมีบ้านสักหลัง ก็ต้องมีเงิน มีรายได้

แต่ก็อย่าลืมว่า มีประชาชนคนไทยจำนวนมาก ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ก็ต้องเผชิญกับกฎระเบียบ เงื่อนไข ที่ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

การลดค่าโอน-ค่าจดจำนอง ก็ช่วยบรรเทาภาระของคนอยากมีบ้านได้ไม่น้อยเช่นกัน โดยค่าโอน 2% ลดเหลือ 1% ก็ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายภาษีโอนจากล้านละ 20,000 บาท ลดเหลือล้านละ 10,000 บาท

ขณะที่ค่าจดจำนอง ที่ขอสินเชื่อจากแบงก์  1% ลดเหลือ 0.01% เท่ากับว่า ภาระค่าใช้จ่ายจดจำนอง จากล้านละ 10,000 บาท ลดเหลือล้านละ 100 บาทเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านี้!! รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็เตรียมยกระดับมาตรการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากขึ้น

เพราะอย่างน้อย หากภาคอสังหาฯ กระเตื้องเพิ่มมากขึ้น ก็จะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ เพราะภาคอสังหาฯ คิดเป็น 10% ของจีดีพีไทย

โดยเฉพาะ….การขยายเพดานราคาที่อยู่อาศัย จากไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท ที่จะได้รับสิทธิการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง

หรือแม้กระทั่งการขยายเพดานให้สินเชื่อใน “โครงการบ้านล้านหลัง” ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธอส. ที่ปัจจุบันได้กำหนดให้สินเชื่อไม่เกิน 1.5 ล้านบาท อาจขยับเป็น 2 ล้านบาท

เหตุปัจจัย… ก็เนื่องมาจากทุกวันนี้บ้านราคาหลังละ 1.5 ล้านบาท นั้นหายากเต็มทน!!

รวมไปถึงการขยายระยะเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 3 ปี ก็อาจต้องปรับปรุงใหม่ เพราะบางโครงการมีการพัฒนาก่อสร้างเกิน 3 ปี

ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ เชื่อว่า ครม.ของนายกฯ เศรษฐา คงไม่ขัดข้อง  และน่าจะตัดสินใจได้ในเร็ววันนี้ เพราะอย่างน้อย มาตรการเหล่านี้ ก็เกิดขึ้นได้ทันที ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณมาโปะมากนัก

ไม่เหมือนกับการแจกเงินดิจิทัล เพราะไม่ต้องไปกู้เงิน เพิ่มหนี้ให้ประชาชนคนไทยเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่!! อาจทำให้รายได้รัฐบาลหดหายไปบ้าง

ในเมื่อความชัดเจนของการแจกเงินดิจิทัล ยังอาจมี “พลิก” เพราะไทม์ไลน์ที่ออกมายังเป็นเพียงแค่ “คาดว่า” แต่เรื่องของบ้าน คอนโดฯ ที่ดิน เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรพลิกผัน!!

เพราะ…เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอจาก 7 องค์กรภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ตบเท้าเข้าพบนายกฯ เศรษฐา เมื่อเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา….

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”

อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่