โครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่แปลว่ากระบะทราย โครงการนำร่องเฉพาะพื้นที่ หรือจะสร้าง “ปราสาททราย” ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปประกาศเอาไว้ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีนั่นแหละ

แต่เรื่องของเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็น “นายกเทศมนตรี” กันแน่? เพราะงานดังกล่าวให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ กับ ผวจ.ภูเก็ต  ไปทำพิธีเปิดงานและต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งยังมีไม่กี่คนก็พอแล้ว

ไม่มีความจำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องยกโขยงพารัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ประธานหอการค้า จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต กันมากมายขนาดนั้น

ต่อมามีภาพนายกรัฐมนตรีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กับคณะอีกหลายคน ไปนั่งดื่มกินกันชายทะเลอย่างสรวลเสเฮฮา โดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยแม้แต่คนเดียว จึงมีภาพข่าวถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก

อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีหลายคนเดินทางไปจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ “สีแดง” กำลังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก มีผู้ป่วยติดเชื้อวันละกว่า 1 พันคน ต่อเนื่องมาพักใหญ่แล้ว แต่ลงไปภูเก็ตซึ่งไม่ใช่พื้นที่ระบาดหนัก และกำลังเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ

แต่คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อกลับจากภูเก็ตก็มีคนที่เข้าไปใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีติดเชื้อโควิด จน พล.อ.ประยุทธ์ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านพักในค่าย ร.1 รอ. เป็นเวลา 7 วัน

“พยัคฆ์น้อย” ขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ไว้ว่า อย่าเอาช่วงเวลากักตัว 7 วัน มาสมทบเป็นการ “ทดเวลาเจ็บ” ทำให้ต้องเลื่อนโครงการ 120 วันเปิดประเทศ ออกไปไม่ได้นะ!

วันเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีนักข่าวคนหนึ่งไม่รู้ว่าอยู่สำนักไหน ถามพล.อ.ประยุทธ์ได้อย่างประทับใจคนไทย ประมาณว่ามีผู้ติดเชื้อวันละ 5-6 พันคน ตายวันละ 50 ศพ ผู้ป่วยหาเตียงไอซียูไม่ได้ แต่ติดต่อผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เลย เพราะตามนายกรัฐมนตรีลงมาภูเก็ตกันหมด

รียกว่าถามแบบ “แทงใจดำ” จนพล.อ.ประยุทธ์เดินหนี! เพราะมันเป็นเรื่องจริง! เป็นเรื่องจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์สวมหมวกหลายใบ มีตำแหน่งมากมายไปหมด เป็น ผอ.ศบค.(ศูนย์ปราบโควิด) ซึ่งดูแลปัญหาทั้งประเทศ ไหนจะลงมาเป็น ผอ.ศบค.ในส่วนของกรุงเทพฯ อีกด้วย

แทนที่จะให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกรุงเทพฯเป็นหัวหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ขอลงมาคุมเอง เหมือนไม่ไว้ใจ แต่เมื่อทั้งประเทศมีผู้ติดเชื้อโควิด 5-6 พันคน เฉพาะกรุงเทพฯ ปาเข้าไปกว่าพันคน แต่นายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ในฐานะหัวหน้า ต้องคอยเป็นผู้กำกับนโยบาย กลับยกโขยงไปเปิดงานที่ภูเก็ตเหมือนเป็นนายกเทศมนตรี และถ้านักท่องเที่ยวนำโควิดสายพันธุ์เดลตาเข้ามาด้วย พล.อ.ประยุทธ์จะรับผิดชอบอย่างไร?

แทนที่จะนั่งประชุมอยู่กรุงเทพฯ เพื่อแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาเตียงคนไข้เต็ม ไหนจะปัญหาวัคซีนขาดแคลน ประเทศไทยมีวัคซีนไม่เพียงพอ จึงฉีดได้ล่าช้า แถมเป็นวัคซีนคุณภาพต่ำ ตามไม่ทันเชื้อโรคกลายพันธุ์

ปัจจุบันไม่เฉพาะคนภูเก็ตที่อยากเปิด แต่ชาวเกาะสมุย-พัทยา-เชียงใหม่ และคนทั้งประเทศต้องการเปิดประเทศ “ไทยแลนด์ แซนด์บ็อกซ์” เร็ว ๆ กันทั้งนั้น แต่ถ้าบริหารจัดการวัคซีนแบบนี้ “120 วันเปิดประเทศ” คงเป็นได้แค่การโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล เพราะสถานการณ์จากนี้มีแต่หนักขึ้น อาจถึงขั้นล็อกดาวน์ทั้งประเทศ!!.

……………………….
พยัคฆ์น้อย