เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ปัจจุบันผมอายุ 70 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศที่กำลังเป็นอยู่ ทั้งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่เมื่อครั้งวัยรุ่นจนมาถึงทุกวันนี้ ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ แต่มาในช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ ร้อนวูบวาบตามใบหน้าและลำตัว ใจสั่นอยู่บ่อย ๆ อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย ในส่วนสมรรถภาพทางเพศมีผลอย่างมากก็คืออวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัวเต็มที่ มีความสุขกับภรรยา (วัย 50 ปี) ไม่ได้เลย ในยามที่มีความต้องการ ส่งผลให้ไม่สามารถมีความสุขกับภรรยามาได้ 3 เดือนแล้ว สงสารภรรยามากเพราะเธอยังมีความต้องการทางเพศอยู่เสมอ ๆ แต่ผมกลับให้ความสุขกับเธอไม่ได้เลย ไม่ทราบว่าควรจะต้องทำอย่างไรดีที่จะให้อวัยวะเพศกลับมาแข็งตัวได้อีก สามารถมีความสุขกับภรรยาได้ดังเดิม

ด้วยความเคารพ

โชคชัย70

ตอบ โชคชัย70

อาการชายวัย 70 ปี กำลังเป็นอยู่นี้น่าจะเข้าเกณฑ์อาการวัยทองของผู้ชาย เนื่องจากเมื่อผู้ชายอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนจะลดน้อยลง ทำให้มีอาการที่แสดงออกให้เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ เครียด หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เหงื่อออกมาก สมาธิลดลง นอนไม่ค่อยหลับ กำลังวังชาลดลง โครงสร้างของร่างกาย เช่น กระดูกต่าง ๆ เริ่มเสื่อมถอย มีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ กระดูกพรุน ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะลำบาก สมรรถภาพทางเพศลดลง เรื่องนี้แหละที่ผู้ชายส่วนใหญ่วิตกกังวลกันมากเป็นพิเศษ

การรักษาอาการวัยทองให้มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้น อารมณ์แจ่มใส และร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้ด้วยการเสริมฮอร์โมนเพศชายทดแทน ไม่ว่าจะด้วยวิธีรับประทาน วิธีฉีด วิธีกินและวิธีทา เป็นต้น แต่ก่อนใช้ฮอร์โมนเพศชายเสริมจะต้องตรวจหาระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนว่าต่ำกว่าปกติ จริงหรือไม่เพื่อจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย พร้อมกับตรวจดูความผิดปกติของต่อมลูกหมากร่วมด้วย หากมีภาวะของต่อมลูกหมากผิดปกติไม่ว่าจะเป็นต่อมลูกหมากโต หากเป็นชนิดมะเร็งต่อมลูกหมากก็ห้ามเติมเพิ่มฮอร์โมนชายอย่างเด็ดขาด การรักษาอาการของผู้ชายวัยทองขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล ผู้ป่วยไม่ควรไปซื้อยามาใช้เอง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง

ฉะนั้นเมื่อใดที่สังเกตว่าตัวเองเริ่มมีอาการผิดปกติ หรือสงสัยว่าจะเป็นอาการของผู้ชายวัยทองหรือไม่ หรือมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศควรจะไปพบแพทย์ให้ตรวจร่างกายทั่วไปก่อนว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บอะไรซ่อนแฝงอยู่หรือไม่ ที่ทำให้มีผล
กระทบต่อสมรรถภาพทางเพศ เช่น โรคเบาหวาน ไทรอยด์ โรคหัวใจ โรคตับ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น เพื่อแพทย์จะได้ให้การรักษาที่ถูกต้องตรงกับสาเหตุ จึงต้องตรวจเลือดหาค่าฮอร์โมนเพศชายคู่กับค่าพีเอสเอและค่าน้ำตาลสะสมโดยวิธีฟื้นฟูมาตรฐานให้พบผู้ชำนาญฝึกการแข็งตัวให้นาน 30 นาทีทุกวันและพร้อมจะร่วมเพศได้โดยไม่ต้องใช้ยาก่อนร่วม ส่วนโรคอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน โรคไต ต่าง ๆ ก็รักษาไป เอาเรื่องแข็งตัวร่วมเพศได้ก่อนจะเสียภรรยาไปเป็นเรื่องด่วน.

ดร.โอ สุขุมวิท 51