เรียกว่าเป็นหนังแนวสงครามอีกเรื่องที่น่าจับตาดูในปี 2024 นี้ หลังจากค่ายคุณภาพ A24 โชว์ตัวเลขทุ่มทุนสร้างไปมากกว่า 50 ล้านเหรียญ โดยค่าย M-Picture นำมาจัดฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงสัปดาห์ก่อนวันสงกรานต์ เอาใจคอหนังแอ๊คชั่นที่ไม่ได้ไปเล่นสาดน้ำ “Civil War วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด” ถูกคุมบังเหียนโดย “อเล็กซ์ การ์แลนด์” ผู้กำกับและนักเขียนบทชาวอังกฤษชื่อดังที่มีผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ex Machina, Annihilation และ Men
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ สงครามกลางเมืองลุกลามไปทั่วสหรัฐอเมริกา หลังจากรัฐต่าง ๆ เริ่มไม่พอใจการทำงานของประธานาธิบดี ที่พยายามเล่นการเมืองเพื่อให้ตัวเองครองอำนาจไปตลอด สุดท้ายจึงเกิดการปะทะกันระหว่าง กองกำลังสหรัฐฯ และกลุ่มกองกำลังตะวันตกหัวรุนแรง ที่พยายามเรียกร้องการแบ่งแยกดินแดน เพราะเห็นว่ารัฐบาลเดิมได้เปลี่ยนเป็นรัฐบาลเผด็ตการทางทหารเรียบร้อยแล้ว ทางเดียวที่จะยุติทุกอย่างได้คือกองกำลังต่อต้าน ต้องบุกไปยึดทำเนียบขาวเพื่อสังหารประธานาธิบดียุติศึกทั้งหมดใสคราวเดียว
ถึงแม้สงครามจะเกิดขึ้นในลักษณะที่คาดเดาไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งในสนามรบที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล่าบรรดานักข่าวและช่างภาพสงคราม ที่เสี่ยงตายไปเอาภาพและข่าวมาลงหน้าหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ข่าวที่เป็นสื่อหลักต่าง ๆ เรื่องราวของสงครามกลางเมืองดินแดนมะกันจะจบลงอย่างไร สามารถติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
จุดแข็งของ Civil War วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด ใครที่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นการโชว์การรบกันแบบปะฉะเดือด ยิงกันกระจุย เลือดนองกองพื้น ขอให้คิดใหม่ได้เลย เพราะนี่คือหนังแนวสงครามที่ถูกนำเสนอผ่านมุมมองของกลุ่มนักข่าวสงคราม ที่พยายามผ่านเข้าไปในแนวหน้าของสมรภูมิการรบ โดยมีนักแสดงชั้นนำมาประชันบทบาทและดำเนินเรื่องร่วมกันได้แก่ เคียสเตน ดันท์, วากเนอร์ มูรา, คาลี สแปนีย์ และ สตีเฟ่น เฮนเดอร์สัน แต่ละช่วงตอน แต่ละเหตุการณ์ผู้ชมจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฝ่ายไหนไม่ชอบนักข่าว ก็พร้อมจะเป่าสมองคนที่ไม่ชอบทิ้งได้ตลอด
สิ่งที่ต้องชื่นชมสุด ๆ กับงานโปรดักส์ชั้่นสมจริง โดยเฉพาะฉากท้ายเรื่อง โชว์การยิงปืนและกระสุนจริง ใช้ระเบิดจริง เป็นอะไรที่กล้าและบ้าบิ่นมาก ขนาดนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง เคียสเตน ดันท์ ที่รับบทช่างภาพสงคราม ยังต้องสตั้นในบางจังหวะ ไม่ต่างอะไรกับอยู่ในสงครามจริง!!! เป็นอีกเรื่องที่ A24 ทำได้ถึงลูกถึงโคน แม้จะไม่ใช่ฟอร์มยักษ์โชว์การยิงถล่มกันตูมตาม แต่กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับบาทบาทของนักข่าวสงคราม ฉากยิงปะทะสมจริงมาก นั่งกันไม่ติดเบาะ
จุดอ่อน การดำเนินเรื่องในช่วงแรกมีความเนือยสูงมาก ก่อนที่จู่ ๆ จะพลิกเรื่องราวให้ดูรวดเร็ว เริ่มเข้าสู้แนวหน้าของสงครามตามเมืองต่าง ๆ ก่อนจะขั้นเบรกด้วยการพูดคุยกันของเหล่านักข่าว จากนั้นก็ออกไปลุยกันต่อ ผู้ชมอาจเสพความบันเทิงได้ไม่ต่อเนื่องนัก ยิ่งฉากสไนเปอร์ยิงสู้กัน ก็ยังเห็นแต่เพียงมุมมองที่นักข่าวเท่านั้น ขณะทีศัตรูไม่รู้อยู่ไหน บทดูขาด ๆ เกิน ๆ หลายช่วงตอน
4/5 เป็นการถ่ายทอดงานหนังที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ มีฉากให้ผู้ชมได้ลุ้นเรื่อย ๆ บทขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้างโดยเฉพาะฉากท้าย ๆ แต่ยังไงภาพรวมถือว่า คุ้มค่าตัวแน่นอน.
———————————————
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก M-Picture