จากการศึกษาพบว่า เมื่อผู้ชายอายุมากเกินกว่า 60 ปี อาจมีกลุ่มที่ฮอร์โมนเพศชายลดลง ร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 ยังคงมีฮอร์โมนอยู่ในระดับปกติ อาการที่มักเกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนเพศในผู้ชาย ได้แก่ ความต้องการทางเพศลดลง สมรรถภาพทางเพศบกพร่อง อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง อารมณ์แปรปรวน หลงลืมง่าย และนอนไม่สนิท เป็น

ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรเข้ารับการตรวจหาระดับฮอร์โมนเพศชาย ด้วยการเจาะเลือดหาระดับค่าเทสโทสเตอโรน หากมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ก็ต้องได้รับการเติมก่อนโดยได้รับการปรึกษาแพทย์พิจารณาพบว่าการให้ฮอร์โมนเพศชายจะทำให้มีอารมณ์ดีขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวา มองโลกในแง่ดีกระฉับกระเฉง มีพลังในการทำงาน อารมณ์หงุดหงิด โกรธง่ายลดลง นอนหลับดีขึ้น กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรง มีความรู้สึกทางเพศเพิ่มขึ้น และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งยาเฉพาะกิจ 

สำหรับผู้ชายที่สูงอายุยังมีฮอร์โมนเหลืออยู่บ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างฮอร์โมนได้จนอายุ 70 ปี พบว่าร้อยละ 50% ที่มีฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ จะเห็นว่าฮอร์โมนเพศชายมีความสำคัญต่อสุขภาพทางร่างกายและสุขภาพทางเพศของชายเป็นอย่างมาก การที่ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจถึงเรื่องฮอร์โมนเพศชาย ปล่อยให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงตามอายุโดยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมาในชายที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนชายต่ำ

มีอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการเพิ่มฮอร์โมนชาย ซึ่งมีหลายวิธี ได้แก่ แบบชนิดเจลไว้สำหรับทา แบบชนิดฉีด 1 เดือน หรือ 3 เดือน และแบบกิน  ช่วยชายสูงอายุหรือชายที่ขาดฮอร์โมนชายแล้วอ่อนแอ หงอย ให้เป็นชายมีความสดชื่นโดยเพิ่มฮอร์โมนได้ การตรวจเลือดหาค่าฮอร์โมนชายจะตรวจคู่กับค่าพีเอสเอ เพื่อแยกโรค ต่อมลูกหมากโตจากเนื้อผิดปกติของต่อมลูกหมาก  แพทย์จะช่วยพิจารณา ให้คำปรึกษาตรวจและรักษาได้ปลอดภัยที่สุดชายภาวะพร่องฮอร์โมนยังสามารถแข็งแรงได้ ถ้ารักษาถูกทาง ตามแนวทางของผู้เชี่ยวชาญ หากให้ฮอร์โมนแล้วยังแข็งแรงสู้วัยหนุ่มไม่ได้ก็ให้ใช้ยาและฝึกกระตุ้นการแข็งตัวเฉพาะจุดให้แข็งตัวให้นาน 30 นาทีก่อนใช้งานช่วยก็จะแข็งแรงจนร่วมเพศได้.

…………………………….
ดร.อุ๋มอิ๋ม

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่…