เนื่องจากเด็กและวัยรุ่นชาวบราซิลเกือบ 1 ใน 3 มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำเมือง และบรรดาผู้นำชุมชน จึงพยายาามหาทางจัดการโรคนี้ด้วยวิธีใหม่ ๆ โดยขอความช่วยเหลือจากโรงอาหารของโรงเรียน และนำข้อความเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ไปเผยแพร่ในสังคม

โรงเรียนเบอร์เล มาร์กซ์ ในย่านคูริซิกา ทางฝั่งตะวันตกของเมืองรีโอเดจาเนโร ไม่มีเค้ก, ขนมขบเคี้ยว และคุกกี้ที่มีสารเติมแต่ง หลังเจ้าหน้าที่เทศบาลสั่งห้ามแจกจ่ายอาหารแปรรูปสูงในโรงเรียน ในปีนี้ แต่นักเรียน 650 คน จะพบกับผักผลไม้สุดคลาสสิกของบราซิล ที่มักถูกมองข้ามในปัจจุบัน เช่น มันเทศ, กระเจี๊ยบ และลูกพลับ ซึ่งเด็กหลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือ “มะเขือเทศ”

เมื่อพิจารณาจากการรับประทานอาหารกลางวันของนักเรียน โครงการนี้มีผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด โดยนักเรียนบางคนกล่าวว่า พวกเขาชอบอาหารเหล่านี้ และมันดีต่อสุขภาพ ต่างจากจังก์ฟู้ดที่พวกเขารับประทานที่บ้าน เช่น พิซซ่า และแฮมเบอร์เกอร์

“โรคอ้วนในวัยเด็กเป็นโรคระบาด ซึ่งไม่ได้มีอยู่แค่ในบราซิล แต่มันแพร่หลายไปทั่วโลก” นางมาร์ลูซ ฟอร์ทูนาโต นักโภชนาการของเทศบาลเมืองรีโอเดจาเนโร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวดำเนินในโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน พร้อมกับขอให้ครูให้ความรู้แก่นักเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทารอาหารเพื่อสุขภาพ

อนึ่ง งานศึกษาล่าสุดของสถาบันเดซิเดราตา พบว่า เยาวชนชาวบราซิลที่มีอายุระหว่า 5-19 ปี ในสัดส่วนมากกว่า 80% รับประทานอาหารแปรรูปสูงอย่างน้อยหนึ่งอย่างในวันก่อนหน้า เช่น ไส้กรอก, น้ำอัดลม และขนมอบ

ด้านนพ.แดเนียล เบ็กเกอร์ กุมารแพทย์ กล่าวว่า วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ข้างต้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และมีเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ร้อยละ 70 ทั่วโลก ซึ่งในกลุ่มเด็ก สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ปัญหาซ้อนปัญหา นั่นคือ โรคอ้วน กับภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อความสามารถในการเรียนรู้ และสมาธิของพวกเขาได้

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากอาหารแปรรูปสูง ผลิตจากส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อ “กระตุ้นต่อมรับรส” และมีความได้เปรียบทางการตลาด เหนือกว่าผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เพราะมันสามารถจัดจำหน่ายในปริมาณมาก และมีราคาถูกกว่า

“การให้ความรู้แก่เด็กเล็กเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่เมื่อคน ๆ หนึ่งกำหนดวิธีการคิดของตัวเองแล้ว การแนะนำแนวคิดใหม่ถือเป็นความท้าทาย” ฟอร์ทูนาโต กล่าวเสริมว่า โรงเรียนต้องการความช่วยเหลือจากผู้ปกครองด้วย

นอกเหนือจากโรงเรียนเบอร์เล มาร์กซ์ เมืองรีโอเดจาเนโร ยังมีโครงการชื่อ “ออร์แกนิก ฟาเวลา” ในย่านบาบิโลเนียที่ยากจน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้คน

สำหรับความพยายามในระดับประเทศ แคมเปญโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พยายามสร้างความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพของอาหารแปรรูปสูง โดยได้รับความช่วยเหลือจากดาราคนดัง และบรรดาผู้เชี่ยวชาญ.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP