ตั้งแต่ “โควิด-19” เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยเมื่อเดือน มี.ค.63 ทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องขอกู้เงินฉุกเฉินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาแล้ว 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.5 ล้านล้านบาท

กู้เยอะแยะขนาดนี้ ถ้ารัฐบาลมีวินัยการเงินการคลัง และมองปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ แค่เจียดเงินเพียง 1.5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 10%-ของจำนวนที่กู้ฉุกเฉินทั้งหมด จะสามารถจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์โมเดอร์นา มาให้คนไทยได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านโด๊ส

ข้อมูล 28 ก.พ.-18 ต.ค. 64 คนไทย 77 จังหวัด ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 66.59 ล้านโด๊ส เป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 รวมกว่า 38.13 ล้านคน เข็มที่ 2 กว่า 26.47 ล้านคน เข็มที่ 3 กว่า 1.98 ล้านคน และอีกบางส่วนฉีดเข็มที่ 4 กันไปแล้ว

วัคซีนกว่า 66.59 ล้านโด๊ส ที่ว่านี้ รัฐบาล พล..ประยุทธ์ไม่ได้ควักเงินซื้อทั้งหมด แต่เป็นวัคซีนที่ได้รับการบริจาคกับวัคซีนขอหยิบยืมจากต่างประเทศ ทั้งแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ จำนวนหลายล้านโด๊ส และอีกกว่า 1 ล้านโด๊ส (ซิโนฟาร์ม) ซึ่งประชาชนนิติบุคคลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องจ่ายเงินหาซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มมาฉีดกันเอง

สรุปรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กู้ฉุกเฉิน 1.5 ล้านล้านบาท แต่น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่คนไทยซื้อวัคซีนฉีดเอง ไหนจะกรณีวัคซีนโมเดอร์นาที่ประชาชนจองซื้อกับโรงพยาบาลเอกชนอีก 4 ล้านโด๊ส หลายเดือนแล้ว แต่วัคซีนยังไม่มา

ไหนจะบรรยากาศคนไทยต้องถ่อสังขารไปเข้าคิวซื้อชุดตรวจ ATK ราคา 40 บาท กันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ขายหมดเกลี้ยงจำนวน 7,000 ชุด ภายใน 1 ชั่วโมง ถ้ารัฐบาลเจียดเงินแค่ 2.6 พันล้านบาท เท่านั้น จะซื้อชุดตรวจ ATK แจกคนไทยได้ 65 ล้านคน ถ้าแจกคนละ 2 ชุด ก็แค่ 5.2 พันล้านบาท

การรีบซื้อวัคซีนดีๆ และการแจกฟรี! ชุดตรวจ ATK ให้ประชาชน มันยากกว่าการแจกเงินผ่านโครงการโน่นนี่ ล่าสุดแจกผ่านโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 อีก 5.45 หมื่นล้านบาท คือกู้แล้วเอามาแจกแบบนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ถนัดมาก!

พยัคฆ์น้อย” อดสงสัยไม่ได้ว่า กู้มาแจกแหลกแบบนี้หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือแจกเพื่อปูทางไว้เลือกตั้งกันแน่? แล้วต้องขอกู้เพิ่มอีกแน่นอน เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ยังไม่จบ! ปัญหาน้ำท่วมหลายจังหวัดที่ต้องฟื้นฟูเยียวยา รวมทั้งปัญหาราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลก็ต้องเข้าไปช่วยเหลืออยู่ดี

แต่ก็อย่ากู้นักสิ! เพราะตอนนี้คนไทยอีกไม่น้อยรู้สึกเซ็ง! รัฐบาลจ้องแต่จะกู้ แล้วก็เอามาแจกแบบเบี้ยหัวแตก แต่ “จีดีพี” ไม่ได้ขยายตัวขึ้น มีแต่ภาระหนี้สาธารณะ และหนี้ภาคครัวเรือนโตขึ้นมาก

วันก่อนฟังอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดถึงน้ำท่วมปี 54 ปลายปีงบประมาณมีเงินเหลือแค่ 2-3 หมื่นล้านบาท จึงใช้วิธีเร็วที่สุดคือตัดงบฯ ปี 55 จำนวน 10% แต่ละกระทรวง ได้มา 1.3 แสนล้านบาท สำหรับฟื้นฟูช่วยเหลือประชาชน

แล้ว “สุดยอดผู้นำระดับโลก” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ อุตส่าห์ยัดเนื้อหา “อวย” กันไว้ในตำราเรียนของนักเรียน กล้าหาญตัดงบทุกกระทรวงเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือเปล่า? หรือถนัดแต่การกู้มาแจก ทิ้งหนี้ไว้เป็นภาระคนรุ่นหลัง

ฝาก! น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาฯ ไปพิจารณาแก้ไขเนื้อหาใน “ตำราเรียน” ที่อวยกันไส้แตก แบบไม่เข้าท่า!

น.ส.ตรีนุช เรียนจบจากเมืองนอกเมืองนา ดังนั้นน่าจะเข้าใจบริบทของสังคมโลก ว่าคนทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่งตั้ง “น้องชาย-คู่เขย” เป็น ส.ว.ไว้เลือกตัวเองเป็นนายกฯ บริหารประเทศจนมีหนี้รุงรังกันไปหมด มีคนจนค่อนประเทศ สถิติการฆ่าตัวตายก็สูง แล้ว พล.อ.ประยุทธ์เป็นสุดยอดผู้นำระดับโลกตรงไหน?.

————————
พยัคฆ์น้อย