“ความสุขไม่ใช่การมีครบทุกอย่าง แต่คือการปล่อยผ่านสิ่งที่ไม่จำเป็น…มองภาพให้กว้างขึ้น แล้วจะเห็นอะไรชัดกว่าเดิม”
อดีตอันน่าสะเทือนขวัญมันโผล่พรวดเข้ามาในจิตใจพ่อแม่ผู้ปกครองอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อน มีเหตุชายคลั่งกราดยิงและใช้มีดฟันเด็กๆที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมถึง 38 คน เพราะดันมีคนโพสต์ข้อความว่าจะกระทำการเหี้ยมโหดแบบนั้นอีกที่ จ.มหาสารคาม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมมา เมื่อในโลกโซเชียลมีการแชร์ข้อความที่สร้างความแตกตื่นให้กับชาวจังหวัดมหาสารคามอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาผู้ปกครองที่ต้องส่งบุตรหลานไปโรงเรียน โดยโพสต์นี้อยู่ในเฟซบุ๊กกลุ่ม “แจ้งข่าวชาวโกสุมพิสัย”
มีผู้โพสต์ปริศนารายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “ไม่เกินเมษายนนะครับ จะมีข่าวการยิงเด็กอนุบาลที่จังหวัดมหาสารคาม คอยดูนะ เตรียมตัวรับมือนะครับ” ซึ่งในคอมเมนต์โพสต์ดังกล่าว มีการโพสต์อ้างเลขบัตรประชาชนของผู้โพสต์ และระบุว่าอยู่บ้านเลขที่หลังหนึ่งใน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม จนกลายเป็นที่หวั่นวิตกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก
หลังข่าวแพร่สะพัด พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม ได้เรียกระดมทีมชุดสืบสวนไปสืบสวนตรวจสอบจนรู้ว่า ตัวผู้โพสต์ชื่อ นายอภิสิทธิ์ อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม อีกทั้งทราบว่าเจ้าตัว ในอดีตเคยเป็นทหารพรานอยู่ จ.ปัตตานี และมีข้อมูลว่ามีอาการป่วยทางจิต ล่าสุดมาทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่กรุงเทพฯ
แต่เพื่อความไม่ประมาท มีการสั่งให้ตำรวจทุก สภ. จัดชุดสายตรวจ เฝ้าระวังที่หน้าโรงเรียนอนุบาล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจ สร้างความอุ่นใจ ป้องกันไม่ให้ตื่นตระหนก
จากการโพสต์ดังกล่าว ทำให้ผู้ปกครองในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย ต่างรีบเดินทางไปรับบุตรหลานที่โรงเรียนกลับบ้านทันที เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลโกสุมพิสัย คุณครูได้ใช้ไลน์กลุ่มแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ ให้มารับบุตรหลานกลับบ้าน เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปกติ และยังไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงของผู้โพสต์ ว่าต้องการอะไรกันแน่
ผุ้ปกครองบางคนเล่าว่า หลังจากที่อ่านไลน์กลุ่มก็รีบมารับลูกสาวทันที รู้สึกตกใจมาก ขวัญเสียหมด กลัวมาก กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพราะถ้าเกิดกับลูกจริงๆ มันไม่ไหว ทำใจไม่ได้เลย ตัวสั่นไปหมด เลยรีบมารับลูกทันที
ส่วนทาง นางรัตนา เลิศวิชากุล นายกเทศมนตรีตำบลโกสุมพิสัย ก็ร้อนนใจ ประสานแจ้งแผนการรักษาความปลอดภัยให้เฝ้าระวังเหตุร้าย รวมถึงประสานกับตำรวจตลอดเวลา เพื่อป้องกันภัยที่ไม่คาดคิด อีกทั้งบอกให้ผู้ปกครองห้ามปล่อยให้เด็กเดินเข้ามาลำพัง ต้องส่งถึงมือครูพี่เลี้ยง และไม่ปล่อยเด็กอยู่ลำพังระหว่างรอกลับบ้าน ต้องมีครูหรือเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ด้วยจนกว่าผู้ปกครองจะมารับ
กระทั่ง ศาลจังหวัดมหาสารคามอนุมัติหมายจับ นายอภิสิทธิ์ โพธิจักร์ อายุ 35 ปี อดีตทหารพราน ข้อหาแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จากนั้นก็บุกไปจับกุมตัวไว้ได้ที่ห้องเช่า ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง เนื่องจากมีปัญหาครอบครัวและเกิดความเครียดที่ได้เลิกรากับภรรยาไป ตอนนี้อยู่ระหว่างรอทำเรื่องหย่า จากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พูดจาโต้ตอบรู้เรื่อง และที่โพสต์ไปอ้างว่าเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น
แม้สุดท้ายแล้วเหตุการณ์โพสต์ข่มขู่นี้จะไม่เกิดขึ้นจริงและไม่มีใครได้รับอันตราย แต่เชื่อว่ามันสร้างความหวาดกลัว หวั่นวิตก หายใจไม่ทั่วท้องให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองในพื้นที่อย่างมากแน่ๆ อยากให้ศาลพิจารณาตัดสินโทษสูงสุดเท่าที่กฎหมายจะแตะไปถึงได้ อย่างน้อยก็เพื่อให้เป็นตัวอย่างให้ใครก็ตามที่กำลังคิดจะทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะมาอ้าง “แค่เรียกร้องความสนใจ”.
ข่าวสารตำรวจ
คุมเข้มน้ำกระท่อม
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น ไม่นิ่งดูดาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณหน้าโรงหนังชุมแพ ด้วยตนเอง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม เปิดขายอย่างโจ่งครึ่ม ตลอดทั้งคืน มีเยาวชนเข้าใช้บริการจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าร้านปิด พร้อมได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบเห็นให้กวดขันจับกุมทุกราย
ดาบตำรวจใจกุศล
ด.ต.สำเร็จ นาคศรี ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม หัวหน้าสายตรวจตำบลหนองซ้ำซาก สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้รับการประสานมาจาก ผอ.รพ.สต.หนองซ้ำซาก ว่ามีผู้ป่วยสูงอายุ ป่วยติดเตียงครบกำหนดไปพบหมอ ที่โรงพยาบาลบ้านบึง แต่ไม่มีรถไปส่ง จึงขอความอนุเคราะห์ให้นำส่งไปพบแพทย์ตามนัด เนื่องจากทางสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยรายนี้ก็มีอาการป่วยอยู่แล้ว 3 ราย จากทั้งหมด 4 คน ด.ต.สำเร็จ จึงใช้เวลาว่างจากการที่ไม่ได้เข้าเวรมารับ-ส่งหาหมอในคราวเดียวกัน ที่ผ่านมาก็ให้การช่วยเหลือในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว ทำหน้าที่ช่วยเหลือ นำรถพยาบาลที่มีเตียงรถเข็นซึ่งง่ายต่อการเคลื่อนย้ายโดยผู้ป่วยและญาติได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด
**********************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป