เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

กระผมอายุ 79 ปี ป่วยเป็นโรคตับแข็งมาประมาณ 2 ปี และก็กินยารักษาโรคดังกล่าวมาตลอด ปกติจะร่วมเพศกับภรรยาอาทิตย์หนึ่งประมาณ 3-4 ครั้ง ผมกับภรรยามีอารมณ์ทางเพศปกติ แต่เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ผมเริ่มมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศไม่เต็มที่ คือแข็งแบบนิ่ม ๆ สอดใส่ไม่ได้ ร่วมเพศกับภรรยาไม่ได้เลย ก็พยายามช่วยตัวเองเป็นบางครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้ง ทำให้หงุดหงิดมาก ได้แต่ทำใจไปวัน ๆ อารมณ์ทางเพศของผมก็ลดลงด้วย รู้สึกอ่อนเพลีย หงุดหงิดง่ายและตอนกลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ อาการแบบนี้เกิดจากการที่กินยารักษาโรคตับมากเกินไปหรือเปล่า คุณหมอช่วยอธิบายให้ด้วย

ด้วยความเคารพ

ป.โป้ง

ตอบ ป.โป้ง

โรคตับแข็งเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของตับ โดยปกติเนื้อตับจะนุ่ม แต่ถ้ามีอาการอักเสบหรืออันตรายต่อตับ เนื้อตับจะถูกทำลายกลายเป็นพังผืดลักษณะคล้ายแผล ซึ่งจะทำให้ไปเบียดเนื้อตับที่ดี และทำให้เลือดไปเลี้ยงตับน้อยลง ถ้ามีการทำลายเซลล์ตับอย่างเรื้อรังจนมีพังผืดเกิดขึ้นมาก เนื้อตับที่เคยนุ่มจะค่อย ๆ แข็งขึ้น จนกลายเป็นตับแข็งในที่สุด ส่งผลให้สมรรถภาพการทำงานของตับลดลง ซึ่งนำมาสู่สุขภาพร่างกายแย่ลงด้วย

สาเหตุที่เซลล์ตับถูกทำลายมีอยู่หลายประการ ที่พบบ่อยมากมักจะเกิดจากการดื่มเหล้าจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งแอลกอฮอล์ในเหล้าหรือสุราเมื่อดื่มไปมาก ๆ จะทำให้เกิดความผิดปกติของการใช้โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในตับ จึงเกิดภาวะตับอักเสบและเรื้อรังจนกลายเป็นโรคตับแข็ง

นอกจากนี้ ภาวะตับแข็งยังอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี หรือการใช้ยาบางชนิดติดต่อกันนานๆ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้พาราเซตามอล ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน ยารักษาวัณโรคบางชนิด เมื่อตับเกิดพยาธิสภาพก็จะทำให้การทำงานของตับลดลงในภาวะปกติตับจะสามารถสันดาปฮอร์โมนเพศหญิงที่สร้างขึ้นตามปกติได้ (โดยปกติทุกเพศจะมีทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งผู้หญิงจะมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายน้อยกว่า และผู้ชายก็จะมีปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงน้อยกว่าเช่นกัน) แต่เมื่อตับทำงานได้ไม่เต็มที่จึงไม่สามารถสันดาปฮอร์โมนเพศหญิงได้ จึงทำให้ผู้ชายมีเต้านมใหญ่ขึ้นคล้ายผู้หญิง ลูกอัณฑะฝ่อเล็กลง และความรู้สึกทางเพศลดลง ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนเพศหญิงที่สะสมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนลดลง

ซึ่งอาการที่แสดงออกให้รู้ว่ามีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงนั้น ได้แก่ กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย ไม่กระฉับกระเฉง เฉื่อยชา มองโลกในแง่ร้าย กล้ามเนื้อ ลีบลง สะสมไขมันมากขึ้น นอนไม่หลับ สมองไม่เฉียบคม อารมณ์แปรปรวน ความต้องการทางเพศลดลง อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายและอาการอีดีของคุณที่กำลังเป็นอยู่สามารถแก้ไขได้ หากคุณผู้ชายที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อจะได้กลับมาเป็นหนุ่มทั้งทางใจและทางกายอีกครั้ง  ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศก็จะคืนสภาพเช่นหนุ่มวัย 30 ปีได้โดยการฝึกการแข็งตัวให้นาน 30 นาที จะได้ร่วมเพศได้ทุกวัน ฝึก 2-3 ครั้งก็จะชำนาญ แบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนการรักษาทางตับก็ให้รักษากับแพทย์เฉพาะทางควบคู่กันไปด้วย.

ดร.โอ สุขุมวิท 51

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่