เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ผมอายุ 63 ปี ชอบเล่นกีฬาโดยเฉพาะว่ายน้ำ ทุกวันนี้กล้ามเนื้อก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ป่วยเป็นเบาหวานมาเกือบ 13 ปีแล้ว พยายามควบคุมอาหารกลุ่มแป้ง และของที่มีรสหวานมาตลอดตั้งแต่ตรวจเจอว่ามีน้ำตาลในเลือดสูง เจาะเลือดล่าสุดดูระดับน้ำตาลได้ค่า 110 หน่วย หมอบอกว่าคุมน้ำตาลได้ดี สำหรับความดันเลือดนั้นหมอบอกว่าปกติ ตรวจความแข็งแรงของหัวใจก็ปกติ แต่เริ่มมีอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว อาการก็ไม่หนักมากคือบางครั้งก็แข็งตัวได้เอง บางครั้งก็แข็งตัวแต่ก็อ่อนตัวลงเร็วพอ
กระตุ้นก็กลับมาแข็งตัวเต็มที่ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา

แต่ก็ต้องอาศัยยาเฉพาะกิจร่วมด้วยเป็นบางครั้ง เริ่มใช้ยาเฉพาะกิจมาประมาณปีกว่าแล้ว ช่วงแรก 1 เม็ดแบ่งเป็น 4 ส่วน กินทีละส่วนต่อการร่วมเพศหนึ่งครั้งได้ผลดีเยี่ยม แต่ปัจจุบันกินทั้งเม็ดบางครั้งก็ไม่แข็งตัวเลยแม้จะกระตุ้นด้วยวิธีใดก็ตาม ลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ก็ไม่ได้ผลเหมือนเดิม จึงอยากเรียนปรึกษาคุณหมอว่าเกิดจากอะไรและจะแก้ไขได้บ้างไหม สงสารภรรยาวัย 48 ปี เพราะเธอยังต้องการความสุขทางเพศอยู่

ด้วยความนับถืออย่างสูง

โน้ต

ตอบ โน้ต

ชายวัย 63 ปี ป่วยเป็นเบาหวาน แล้วเกิดอาการอีดี อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่แก้ปัญหาด้วยการกินยาเฉพาะกิจช่วงแรกได้ผลดีอวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่หลังจากนั้นแม้จะกินยาทั้งเม็ดหรือเปลี่ยนชนิดของยาอวัยวะเพศก็ไม่ยอมแข็งตัวอาการแบบนี้เรียกว่าดื้อต่อยาเฉพาะกิจ หรือการไม่ตอบสนองต่อยากลุ่มพีดีอี5ไอ ซึ่งประสิทธิภาพของยากลุ่มพีดีอี5ไอ หรือที่เรียกกันว่ายาเฉพาะกิจ มักจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของอาการอีดี

จากการศึกษาประสิทธิภาพของยากลุ่มพีดีอี5ไอในคนไข้อีดี แบ่งเป็นกลุ่มฮอร์โมนเพศชายเทสโตสเตอโรนต่ำ ความดันเลือดสูง ภาวะโปรแลคตินสูงผิดปกติ เบาหวาน โรคซึมเศร้า ผ่าตัดต่อมลูกหมาก ฉายรังสีรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก รักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีลดฮอร์โมนแอนโดรเจน ผ่าตัดมะเร็งทวารหนัก หรือกระเพาะปัสสาวะ บาดเจ็บที่ไขสันหลัง และหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท พบว่าประสิทธิภาพของยากลุ่มพีดีอี5ไอ คิดเป็น 86.2% ของคนไข้ที่เป็นความดันเลือดสูง, 68.7% ในคนไข้เบาหวาน, 85.7%ในคนไข้ซึมเศร้า, 16.6% ในคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดต่อมลูกหมาก  และ 87.5% ในคนไข้ที่ได้รับการฉายรังสีรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก  พบว่าคนไข้ที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ 15 คน ไม่ตอบสนองต่อยากลุ่มพีดีอี5ไอ จึงได้ให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนพบว่า 11 คน หรือ 73.3% ในกลุ่มนี้ตอบสนองต่อยา

จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการรักษาผู้ป่วยอีดีที่เป็นโรคดังกล่าวด้วยยากลุ่มพีดีอี5ไอ นั้นการรักษาอาจไม่ได้ผล การรักษาอาการอีดีจึงต้องอาศัยหลายวิธีร่วมกันไม่ว่าจะใช้เครื่องบริหารกล้ามเนื้อเพศ ช่วยคนไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาพีดีอี5ไอ ใช้คลื่นเสียงความถี่เพื่อเพิ่มการสร้างเส้นเลือดใหม่ในองคชาต เพื่อให้มีการเพิ่มออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อเพศ  แต่การที่จะเลือกวิธีไหนนั้นจะต้องได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนเสมอ ดูระดับฮอร์โมนเพศชายควบคู่กับดูค่าพีเอสเอ นอกจากนี้ประวัติการรักษาโรคประจำตัวของคนไข้ก็สำคัญ ฉะนั้นการฟื้นฟูอาการอีดีที่มีประสิทธิภาพ และลดอาการดื้อยานั้นคุณจำเป็นต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ที่จะฟื้นกล้ามเนื้อเพศให้แข็งตัวได้ 30 นาทีทุกครั้งที่ต้องการโดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจ ใช้เวลาฝึก 2-3 ครั้ง ก็สบายใจได้.

ดร.โอ สุขุมวิท 51

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่