@เศรษฐกิจของประเทศไทย กำลังเดินทางเข้าสู่”ตาจน” สังเกตได้จาก”ขุนคลัง” ของ”รัฐบาล” พิชัย ชุณหวชิระ” เสนาบดีกระทรวงการคลัง ออกมา”ส่งสัญญาญ” เพื่อขอปรับขึ้น”ภาษีแวต” จาก ร้อยละ 7  เป็นร้อยละ 10 โดยอ้างว่า  ทั่วโลกเขาเก็บกันที่ 15-25 %   ซึ่งหากมีการ”ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มได้ตามที่”ขุนคลัง” ได้”โยนหินถามทาง” ประเทศไทย จะมีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านจากการ”ถอนขนห่าน” ในครั้งนี้ ซึ่งก็ต้อง”ฟังเสียง” ของ”ผู้ประกอบการค้า” ว่าในภาวะที่”เศรษฐกิจฝืดเคือง” อย่างนี้การขึ้น”ภาษีมูลค่าเพิ่ม” เขาจะ”แบกรับ”ไหวหรือไม่ เพราะแค่เรื่องการ”ขึ้นค่าแรง”วันละ 400 บาท ของ”กระทรวงแรงงาน” ที่”พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เสนาบดีกระทรวงแรงงาน” เสนอมาแล้ว 2 ครั้ง 2 ครา ยังถูก”ผู้ประกอบการ” ออกมาแสดงความ”ไม่เห็นด้วย” จนเรื่องการ”ขึ้นค่าแรง” ยัง”คาราคาซัง” จนถึง ณ บัดนาว….และการหาทางออกจาก”วิกฤติเศรษฐกิจ” ของประเทศโดยการ”เลือก” ที่จะใช้วิธีการ”ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม” จาก 7 %  เป็น  10 %   แสดงให้เห็นว่า”รัฐบาล” ภายใต้การบริหารของ”พรรคเพื่อไทย” ที่มี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น “นายกรัฐมนตรี” หาทางออกจากปัญหา”เศรษฐกิจตกต่ำ” ด้วยการ”ค้าขาย”  เพื่อนำ”เม็ดเงิน” เข้าสู่ประเทศไม่เป็น ทางออกในการ หาเงินเข้ารัฐ จึงต้องขึ้น”ภาษีมูลค่าเพิ่ม” ถ้า”ทีมเศรษฐกิจ” ที่ทำหน้าที่”ขุนคลัง” คิด”ง่ายๆ” และ”ตื้นๆ” ก็น่าเป็นห่วง ในการ”เติบโต”ทาง”เศรษฐกิจ” ของประเทศไทย…..

@ที่สำคัญ การขึ้น”ภาษีมูลค่าเพิ่ม” ของ”รัฐบาล” ในครั้งนี้ คนที่อยู่”ปลายน้ำ” คือ”ประชาชน” จะเป็นผู้”แบกรับ” เพราะ”สินค้า” ทุกชนิดจะมีราคาที่”เพิ่มขึ้น” ตามมูลค่าของ”ภาษีมูลค่าเพิ่ม” ดังนั้นการขึ้น”ภาษีมูลค่า” ไม่ได้ทำให้”กลุ่มทุน” และ”พ่อค้า-นักธุรกิจ” เดือดร้อน”เพียงกลุ่มเดียว แต่”ชาวบ้าน” ต้อง”แบกรับ” ความเดือดร้อน” ทั้งหมดทั้งไว้เต็มๆ ในขณะที่”ค่าแรง” ยังไม่สามารถที่เพิ่มขึ้น เพราะ”กลุ่มทุน” มีการวางแผนในการ”สกัด” อย่างเต็มที่ ดังนั้นที่มีการ”พยากรณ์อาการ”ของ ประเทศไทยในปี 2568 ที่ว่าเป็นที่”เผาจริงๆ” จึงเป็นเรื่องจริงที่”ไม่อิงนิยาย” และไม่ใช่การออกมา”โจมตี” คณะรัฐบาลที่เป็นผู้บริหารประเทศ วันนี้”สถานการณ์ของ”ประเทศด้านเศรษฐกิจสังคม” มองไปทางไหนก็ยัง”มืดมน” มองไม่เห็น”แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” ก็ไม่ได้”ตำหนิ” รัฐบาล”ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” เพียงอย่างเดียว เพราะรู้ดีว่าเรื่องของ”เศรษฐกิจ”ของประเทศมีการ”หมักหมม” มาตั้งแต่สมัยที่”ลูงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ เป็น “นายกรัฐมนตรี” แต่มา”ฝีแตก” ในสมัยที่” เพื่อไทย” เข้ามาทำหน้าที่เป็น” รัฐบาล” แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องเป็น”หน้าที่”ของ”พรรคเพื่อไทย” และ”พรรคร่วม”ทุกพรรค ที่ต้อง”ร่วมด้วยช่วยกัน” ในการ”บริหารจัดการ” เพื่อนำ”ประเทศชาติ” ให้พ้นจาก”ยุคเข็น”เพราะไม่อย่างนั้น” “พรรคเพื่อไทย”และ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จะกลายเป็น”จำเลย”ของ”สังคม” เพราะเป็นผู้”แถลงนโยบาย” ว่าภายใต้การบริหารของ”รัฐบาล” ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ”ประชาชน” จะอยู่อย่างมี”ศักดิ์ศรี” และ”อยู่ดีกินดี” แต่ในความ”เป็นจริง” ย่างเข้าปีที่สองของ”รัฐบาล” ชุดนี้ ประชาชนหลาย”ภาคส่วน” อยู่อย่าง”แร้นแค้น” กว่าเดิม….ที่สำคัญการ”แจกเงิน” ให้”กลุ่มเปราะบาง” ที่แจกไปก่อนหน้านี้คนละ 10,000 บาท ยังไม่ส่งผลให้เห็นว่า” แจกแล้ว จ่ายแล้ว” ก็การ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” ตรงไหน และ เชื่อว่าที่จะแจกอีกคนละ 10,000 บาท ให้กับคนที่อายุ 60 ปี ขึ้นไป  ผลที่ออกมาก็น่าจะ”ไม่ต่าง” ไปจากการแจกในครั้งที่ผ่านมา วันนี้ถ้า”รัฐบาล” โดยเฉพาะ” ฝ่ายเศรษฐกิจ” ของ”รัฐบาล” คิดได้ค่าหาเงินจากการ”ขึ้นภาษี” ในทุก”รูปแบบ” จึงเป็นเรื่องที่”น่าเป็นห่วง” สำหรับ”คนไทย” และ”ประเทศไทย”.….

@เรื่อง”การบ้าน” ยัง”ยุ่งไม่พอ” ยังมีเรื่อง”การเมือง” เข้ามาเป็นการ”บ่อเซาะ” ให้เห็นถึงความ”ง่อนแง่น” ของการเป็น”รัฐบาลผสม” ผุดขึ้นเป็น ระยะๆ ล่าสุด “ พลพรรค” ของ”เพื่อไทย” ก็ออกมา”ขู่ฟ่อๆ” ที่จะ”ยุบสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อเป็นการ”ล้างไพ่” ทำการ”เลือกตั้งใหม่” หาก”พรรคภูมิใจไทย” ยังไม่ยอมที่จะ” เออออห่อหมก” ในเรื่องของ”พรบ.ประชามติ” ที่ เพื่อไทย” ต้องการให้เป็นการ”ลงมติชั้นเดียว” แต่”ภูมิใจไทย” ยืนยัน”เสียงแข็ง” ว่าต้องเป็นการลง”ประชามติ”แบบ”สองชั้น” ในการ”แก้ไขรัฐธรรมนูญ” ซึ่งอาจจะทำให้การแก้”รัฐธรรมนูญ” ทำไม่ทันใน”รัฐบาล” นี้  เรื่องนี้จึงเป็น”ปมขัดแย้ง” ที่เป็นเรื่อง”ร้าวลึก” ใน”รัฐบาล” นี้ยังมีนะที่พรรคอื่นๆ อย่าง”ประชาธิปัตย์” และ”พรรคเล็กๆ” ต่างทำตัว”สงบเสงี่ยม” เป็น”เด็กว่านอนสอนง่าย” เพราะสิ่งที่”กลัวที่สุด”คือการ”ยุบสภา” เพราะ วันนี้”เสบียงกรัง” ของ” แต่ละพรรคยังไม่พร้อม…..เรื่องของ”การเมือง” เรื่องของความ”สกปรก” วันนี้”พรรคการเมือง” ที่ถูก”จับตามอง” จาก” ประชาชน” มากที่สุดคือพรรค”พลังประชารัฐ” ที่เป็นพรรคของ”ลุงป้อม” อยู่ในห้วงของ”ขาลง” และไม่ลงแบบธรรมดาแต่เป็นการ”ลงลิฟท์” เพราะ”ทุกเรื่อง” ที่”ประเดประดัง” เข้ามาแบบ”ถาโถม” ทำให้เห็น”อนาคต” ของ”พลังประชารัฐ” ใน”อนาคต” และเห็นถึง”อนาคต”ของ”ลุงป้อม” ที่เป็น”ฉากอัสดง” ทาง”การเมือง” ที่ สำคัญวันนี้เรื่อง”ความลับ” เรื่องของ”คนใกล้ชิด” ที่มี”เส้นเงิน” จากการ”ทุจริต” จะเป็นสิ่งที่”ทำลายเกียรติภูมิ” ที่”สั่งสม”มา”ตลอดชีวิต” ให้”ย่อยยับ” ลงด้วย  และยังจะมี”คนใกล้ชิด” อีกหลายคน ที่จะถูก”ลากโยง” เข้ามาเพื่อการ”ทำลายล้าง” ที่เป็น”ฝีมือ”ของคน”ใกล้ชิด” ที่วันนี้กลายเป็น”ศัตรู” หมายเลข 1 “การเมืองไม่มีมิตรแท้” และ”ไม่มีศัตรูถาวร” นี่คือ”สัจจธรรม” และการ”เล่นการเมือง” ถ้า เล่นแบบ”บริสุทธิ์” ไม่มีการ”คดโกงชาติคดโกงแผ่นดิน” ก็จะไม่มีใคร”ร่ำรวย” แต่ถ้า”เล่นการเมือง” แบบ”คดโกงชาติ คดโกงแผ่นดิน” ทุกคนต่างมี”จุดจบ” ที่เป็นความ”หายนะ” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นี่คือสิ่งที่”นักการเมืองอาชีพ” ต้องพึง”สังวรณ์”…..

@เรื่อง”น้ำท่วมภาคใต้” โดยเฉพาะใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา ,ปัตตานี,ยะลา” และ”นราธิวาส” ก็เป็นเรื่อง”การเมือง” เมื่อ”สังคมโซเชียล” ต่างออกมา”ถล่มโจมตี” ผู้นำ”รัฐบาล” อย่าง” แพทองธาร ชินวัตร” ที่ไม่มีการ”ลงพื้นที่” ซึ่งประชาชน”ประสบกับปัญหาของน้ำท่วม” มีการ”หยิบยก” เอาเรื่อง”น้ำท่วม” ภาคเหนือ”และ”ภาคอื่นๆ มา เปรียบเทียบ ซึ่ง” นายกรัฐมนตรี “ มีการลงไป”ตรวจเยี่ยม” เป็น”กำลังใจ” ให้กับ”ประชาชน” แต่ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วันที่”น้ำลดเกือบหมด” แต่ยังไม่เห็น”ข่าว” ว่า” นายกรัฐมนตรี” จะมีการ”เหยียบบาท” ลงที่จังหวัดไหน แน่นอน”ส่วนหนึ่งน้อยใจ” แต่ส่วนหนึ่งเป็นเรื่อง”การเมือง” ที่ต้องการ”ถล่มทำลายล้างกัน” อย่างเช่น”ข้อความ” ที่มีการ”แชร์ว่อน” ใน”โซเซียล”ในพื้นที่”ภาคใต้” เช่นถ้ามา”ผัดข้าวโชว์”ไม่ต้องมา ถ้ามา”แจกถุงยังชีพ” ไม่ต้องมา หรือถ้ามาเดิน”ลุยน้ำโชว์” ไม่ต้องมา นี่คือเรื่องการ”ถล่มทางการเมือง” และทำให้เห็นว่า “ทีมงานของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี”ไม่มี”ยุทธศาสตร์” ในการ”สื่อสารกับสังคม” และที่สำคัญไม่มีการแก้”ภาพลักษณ์” ของ”นายกรัฐมนตรี” จนกลายเป็น”จุดอ่อน”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” ผู้เป็น”นายกรัฐมนตรี และ สุดท้ายต่าง”วิพากษ์วิจารณ์” ว่า สาเหตุที่ไม่ลงพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพราะเป็น”พื้นที่” ซึ่ง”เพื่อไทย” ไม่”ฐานคะแนนเสียง” และไม่มี” ผู้แทน” ในพื้นที่…..

@สถานการณ์”อุทกภัย”หรือ”น้ำท่วม” ครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่”หนักหน่วง” โดยเฉพาะในพื้นที่” ปัตตานี,ยะลา”และ”นราธิวาส” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 60 ปี ที่ผ่านมา นี่เป็นเรื่องของ”ธรรมชาติ” ที่ปริมาณ”น้ำฝน” จะยิ่งมากขึ้นในทุกปี ในขณะพื้นที่”รับน้ำ” โดย”ธรรมชาติ” หายไปจากการ”พัฒนาบ้านเมือง” เช่นการ”ถมที่สร้างบ้านแปลเมือง” ซึ่งไม่มี”กฎหมาย” ห้าม ปิดทาง”แม่น้ำ ลำคลอง” ที่มีอยู่ตาม”ธรรมชาติ” ถูกปล่อยให้”ตื้นเขิน”แคบเล็ก” ส่วน”คลองเล็กคลองน้อย” และ”ลำราง” ตามธรรมชาติ”หายไป” จากการทำการ”เกษตร” ของ “ประชาชน” ที่”ถมทิ้ง” เพื่อให้ได้พื้นที่ในการ”ทำการเกษตร”เพิ่มขึ้น….แต่สิ่งที่”ค้างคาใจ” ประชาชน”คือ”งบประมาณ” ที่แต่ละจังหวัด ได้รับ เพื่อใช้ในการ”ขุดลอกคูคลอง” และ”สร้างแหล่งน้ำ” มีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกปี แต่การ”แก้ปัญหาน้ำท่วม” กลับยิ่ง”รุนแรงกว่าเดิม” เรื่องนี้ก็”มีผล” ในความ”รู้สึก”ของ”ประชาชน” ที่มองไปถึงการ”ทุจริต” หรือการ”ฉ้อราษฎร์บังหลวง” ซึ่งทั้งหมดมาจากการ”สื่อสาร”กับ”สังคม” ของ”ภาครัฐ”ในทุกภาคส่วน เพราะการที่”น้ำท่วม” รุนแรงขึ้นทุกปีๆ อาจจะไม่ได้เป็นเรื่อง”ฉ้อราษฎร์บังหลวง” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่อง”ธรรมชาติ” ที่”โหดร้าย” มากขึ้น การ”ละเลยการแก้ปัญหา”ของ”หน่วยงาน” ของ”ท้องถิ่น” และที่สำคัญไม่มีการมี”นโยบาย” ในการแก้ปัญหา” น้ำท่วม ฝนแล้ง” จากทุก”รัฐบาล” อย่างจริงจังมีแต่การตั้งงบ”เฉพาะหน้า” เพื่อ”ซื้อถุงยังชีพ” เป็น”ด้านหลัก”  ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ รองลงมา….

@แม้ว่า”ทหาร” ส่วนหนึ่ง” ของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” จะกลายเป็น”ผู้ประสบภัย” เสียเอง” ใน”หลายส่วน” เช่น” ทั้งใน จ.ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส แต่”พระเอก” ในการ”ช่วยเหลือ”ประชาชนที่ประสพภัย”น้ำท่วม” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ก็ยังเป็น”ทหาร” ที่มี”รถราม้าช้าง” มี”กำลังพล” มากกว่า”หน่วยงานอื่นๆ มี”ขีดความสามารถ”ในการเข้าพื้นที่” เสี่ยงภัย” และนำ”ผู้ป่วย, ผู้สูงอายุ, เด็ก ,สตรี” ออกมาได้อย่าง”ปลอดภัย” ถ้าคนใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” และ”บีอาร์เอ็น” และ”นักการเมือง” ( บางพวกบางคน ) ถามว่า”ทหารมีไว้ทำอะไร” ก็ให้มี”ภาพ” ที่”ทหาร” อุ้มผู้ป่วย”,แบกคนชรา” ฝ่า”กระแสน้ำที่ลึกเทียมหน้าอกและ”เชี่ยวกราก” ก็จะรู้เองว่า” ทหารมีไว้ทำอะไร” การรับมือกับ”อุทกภัย”ครั้งนี้” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” ทำได้ดี  โดยใช้”มณฑลทหารบก ที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็น”ศูนย์บัญชาการ” เพื่อ”ช่วยเหลือประชาชน” รวมทั้งเป็น “สถานที่” ในการ”ต้อนรับ” บรรดา”เสนาบดี” จาก”กระทรวงต่างๆ” ที่เดินทาง”ลงพื้นที่” เพื่อช่วยประชาชนผู้ประสบภัย”น้ำท่วม”…..ส่วนผู้”บริหารระดับจังหวัด” ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง”อำพล พงษ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา  แม้ เจ้าตัว จะ”เจ็บป่วย” แต่ก็ทำหน้าที่แบบ”ทุ่มตัว” ในการ”ลงพื้นที่” และ”บัญชาการ” รับกับสถานการณ์”วิกฤติ” ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 50 ปี  เช่นเดียวกับ” ว่าที่” ร.ต.ตระกูล โทธรรม” ผวจ.นราธิวาส ซึ่งต้องเจอกับ”มวลน้ำ” ทั้งจาก”ฝั่งไทย” และจาก”ฝั่งมาเลเซีย” แต่ก็ยัง”บริหาร จัดการ” ได้ดีในทุกพื้นที่ ยกเว้น” อ.สุไหงโก-ลก “ และ” อ.ตากใบ” ซึ่งเป็น 2 อำเภอ ที่”หนักหน่วง” สำหรับ”อุทกภัย” ครั้งนี้…..แต่ที่ต้อง”ชื่นชม” คือ”พาตีเมาะ สะดียามู” ผวจ.ปัตตานี “ผู้ว่าหญิงแกร่ง” ที่ไม่ว่าจะอยู่ใน”สถานการณ์”เยี่ยงไร” ก็พร้อม”รับมือ” และ”คลี่คลาย”ได้ทุกปัญหา ที่เกิดขึ้น “ปัตตานี” เป็นพื้นที่”ปลายน้ำ” ที่ต้อง”รับน้ำ” จากจังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาสบางส่วน จึงเป็น”จังหวัด”ที่ ”อ่วมอรทัย”มากทุกจังหวัด แต่ทุก”วิกฤติ” ก็พ้นไปด้วยดี ด้วยความ”ร่วมมือ” และการ”บริหารจัดการ”ของ”ผู้ว่าเมาะ” …..

@ในส่วนของ “จังหวัดสงขลา” ผู้ว่าราชการ”คนใหม่” อย่าง”โชตินรินทร์ เกิดสม” แม้จะเพิ่มมารับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็แสดงให้”ชาวสงขลา” และ”ส่วนราชการ” เห็นถึง”ความรู้ความสามารถ” ในการ”บริหาร” สถานการณ์”ฉุกเฉิน” ในการ”รับมือ”กับ”มวลน้ำ” โดยเฉพาะที่ทะลักเข้าโจมตี” พื้นที่”เทศบาลนครหาดใหญ่” อย่างได้ผล โดยการ”ร่วมมือร่วมใจ” จาก”เทศบาลนครหาดใหญ่ “ ที่มี”พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี “ นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่” ที่ครั้งนี้”ทุ่มสุดตัว” และให้ทุก”สรรพสิ่ง” ที่มีอยู่ ในการ” รักษาเมือง” ให้”รอดพ้นจากมวลน้ำ”อย่างเส้นยาแดงฝ่าแปด” ทำให้”คะแนนนิยม” ที่ถูกมองว่า”ติดลบ” กลาย”เป็นบวก” อย่าง”ฉับพลัน”…..แต่ที่เป็น”พระเอก” ในการป้องกัน”ไข่แดง” ของ”เทศบาลนครหาดใหญ่” ไว้ได้อย่าง”ฉิวเฉียด” คือ”คลอง ร.1 “ ซึ่งเป็นการวางแผนขุดขึ้นเพื่อแก้ปัญหา”วิกฤติ” มิให้”น้ำท่วม” ในพื้นที่”ใจกลางเมืองหาดใหญ่” ที่เป็น”พื้นที่เศรษฐกิจ”  ถ้าไม่มี”คลอง ร. 1”  รับรอง”หาดใหญ่” ก็จะ”จมบาดาล” และ”เสียหาย” หนักยิ่งกว่าที่ผ่านมา เพราะ”มวลน้ำ” ที่ เพิ่มขึ้นในทุกๆปี ดังนั้น เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา”ประชาชน” จึงได้ทำการ”รำลึก” ถึง”พระกรุณาธิคุณ” ของ” ในหลวงรัชกาลที่ 9” ด้วยการ “รวมตัวรวมพลรวมใจ” ที่” คลอง ร.1” กลายเป็นภาพที่”งดงาม” เป็นอย่างยิ่ง…..

@ส่วนในของ “ตำรวจ” น้ำท่วมครั้งนี้ “พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี”  ผบช. ภ.9  สั่งการให้”ทุกโรงพัก” ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่  ทั้งในการ”อพยพ” ในเรื่อง”อาหาร” มีการให้ทุก ภ.จว.ตั้ง”โรงครัว” เพื่อการ”ปรุงอาหารสด” แจกจ่าย เพราะในยาม”วิกฤติ” ถุงยังชีพ ก็ไม่มีความสำคัญ”เท่ากับอาหารปรุงสุก”…..ที่น่าสนใจคือที่อื่นๆ “ท่วม” ทำให้”แผ่นดินยุบตัว” เป็นเป็น”บ่อ เป็นหลุม เป็นโพรง” แต่ ในเขตเทศบาลเบตง จ.ยะลา ลานที่จอดรถของ เทศบาล” และ”ถนนหลายสาย” มีการ”แยกกระจาย” เพื่อ”น้ำตีดิน” ทำการ”ดันดิน” ขึ้นมา เกิดความ”เสียหาย” อย่าง”ย่อยยับ” ที่สำคัญการ”การก่อสร้างลานจอดรถ” ไม่มี”เหล็กเส้น” ให้เห็นแม้แต่เส้นเดียว นี่กลายเป็น”ปุจฉา” ของคนที่เห็นภาพดังกล่าว เพราะ”ส่อ” ให้เห็นถึงการ”ทุจริต” ที่เกิดขึ้น….

@ส่วน สถานการณ์ของความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน ห้วงที่”ฝนตกน้ำท่วม” กองกำลังของ”บีอาร์เอ็น” ไม่สามารถ”ก่อเหตุร้าย” ต่อ”เป้าหมาย”ที่เป็น”เจ้าหน้าที่รัฐ”  แต่”บีอาร์เอ็น” ก็ไม่หยุดการ”ไอโอ” เพื่อสร้างความ”เสียหาย” ให้กับ”เจ้าหน้าที่” เช่น”ห้ามประชาชน” อย่ารับ”ของแจก” หรือ”ถุงยังชีพ” จาก” หน่วยงานของรัฐ”เพราะ”มีเนื้อหมูปนเปื้อน” มีการ”หยิบข่าว” การ”ช่วยเหลือ” ผู้”ประสบภัยน้ำท่วม” ของ”รัฐบาลมาเลเซีย” ใน”รัฐกลันตัน” และ”ตรังตานู” ที่”ดูดี”กว่าของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อให้เป็น”ภาพเปรียบเทียบ” นี่คือการ”จิกกัด” ของ”บีอาร์เอ็น “ ที่แม้แต่อยู่ใน”ภาวะวิกฤติ” ก็ไม่เว้น….ที่ สำคัญ  ที่”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้อง”รับมือ” คือการที่”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” มีการเตรีม”ก่อการร้าย” ในห้วง”ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่”  ซึ่ง” กำลังของเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ต้องไม่”ประมาท” อย่าคิดว่า”น้ำท่วม” แล้ว” กองกำลัง”ของ”บีอาร์เอ็น” จะไม่ก่อเหตุ หรือ”มวลชน” อยู่ใน”ภาวะลำบาก” แล้ว”บีอาร์เอ็น” จะไม่”ก่อเหตุ” เพราะ”เป้าหมาย” ของ”บีอาร์เอ็น” ไม่ใช่เรื่องการ”พัฒนา” แต่เป็นเรื่อง”เอกราช” รบกับ”บีอาร์เอ็น” จึงต้อง”เข้าใจ”ในเรื่องของ”บีอาร์เอ็น”…..

@ที่เป็น”ข่าวดี” สำหรับ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ในวันนี้ คือ” สามารถที่จะเปิด”ตัวตน”ของ”บีอาร์เอ็น”ได้แล้ว สามารถบอกกับ”ประชาชน”ได้ว่า “บีอาร์เอ็น” คือ”ผู้”บงการ” ในการ”ก่อการร้าย” ถ้าเป็นการ”ต่อยมวย” ก็มี”เป้าหมาย” ที่”ชัดเจน” ไม่เหมือนในอดีตที่”ต่อยกับผี” เพราะถ้า”นายทหารคนไหน” พูดถึงเรื่องของ”บีอาร์เอ็น” ก็จะถูก”ตะเพิด” และหลายคนที่พูดถึง”บีอาร์เอ็น” ถูกย้ายออก”นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้”….ที่สำคัญ หน่วยงาน”ความมั่นคง” เปิดเผยให้ทราบว่า”บีอาร์เอ็น” วาง”นโยบาย” ในการ”ก่อการร้าย” จากปี 2568 ไปถึง 2588” อย่าง”เป็นขั้นเป็นตอน” เป็นการ”ชี้ชัด”ว่า”บีอาร์เอ็น” ไม่ได้ให้ความ”สำคัญ” ในเรื่องของ”การพูดคุย” เพื่อที่จะ”ยุติความรุนแรง” เรื่องนี้ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคง “ หรือ “สมช.” ต้องไป”ศึกษา”ให้ดี ให้ได้ใช้”เวทีการพูดคุย” ให้เป็นประโยชน์กับ”บีอาร์เอ็น” หรือเพื่อเป็นการใช้”งบประมาณ” เพราะนี่จะเป็นการ”สิ้นเปลือง” ที่”เปล่าประโยชน์…. 

@หลายวันที่ผ่าน”ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล” สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม “สื่อสารมวลชนจังหวัดสงขลา” ซึ่งทำหน้าที่”เลขานุการคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ ได้ร่วม”คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ”ลงพื้นที่ “จังหวัด สงขลา ยะลา ปัตตานี” เพื่อ “รับรู้ รับฟัง” สถานการณ์ ทั้งใน”ปัจจุบัน” และใน”อนาคต” จาก” “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า,ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” และ”ฝ่ายปกครอง”ของ “จังหวัดปัตตานี”  สิ่งที่ได้รับรู้ รับฟัง ทำให้ รู้ว่า”ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ยัง”ไม่พบทางออก” มีปัญหา”อุปสรรค” มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของ”กฎหมาย” ในเรื่องของ”นโยบาย” ที่”ส่วนกลาง” ยังไม่ได้ให้ความ”สำคัญ” กับเรื่องของ”ไฟใต้” และหากยังไม่มีการการ”ออกกฎหมาย” เพื่อให้”ตำรวจ” มี”เครื่องมือ” ในการ”จัดการ”กับ”ปัญหา” ที่เกิดขึ้น” พื้นที่ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้”กฎหมายพิเศษ” หรือที่เรียกว่า”กฎหมายสามพี่น้องต่อไป” … และที่น่ายินดีคือการไป”เยี่ยมชม”ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10”  ใน จ.ยะลา ที่เห็นถึงความ”ทันสมัย” ของ “เครื่องมือเครื่องใช้” และ”ประสิทธิภาพ”ของ” เจ้าหน้าที่” พิสูจน์หลักฐาน” ที่เป็นหน่วยงานด้าน”นิติวิทยาศาสตร์” ในการใช้เป็น”หลักฐาน” เพื่อการ”เอาคนร้าย” เข้าคุก” โดย”ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10” ที่มี” พล.ต.ต.วิสูตร นาคจู” เป็น “รักษาการ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 “ ที่เป็น”ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน” ที่”ดีที่สุด” และ”ทันสมัย” ที่สุด ในประเทศไทย….สุดท้าย “คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ รัฐสภา”โดย”พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา” ประธานคณะกรรมาธิการ ขอขอบคุณ “ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 “นันทพงศ์ สุวรรณรัตน” รอง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ “ ( ศอ .บต.) พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช.ภ.9 และ “พาติเมาะ สะดียามู” ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่ให้การต้อนรับการเดินทางมา”ดูงาน” ของ”คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ รัฐสภา เป็นอย่างดียิ่ง ….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดี ครับ

ไชยยงค์ มณีพิลึก

—————————————————————

ส่งต่อ.   พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ส่งต่อข้าวสารให้ ตำรวจ ทหาร นำไปประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสพภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมี พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ณ ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา

พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 นำคณะที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และบรรยายสถานการณ่์ความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ ซึ่งนำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการฯ. ณ ห้องประชุมค่ายเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ลุยน้ำ.   พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อม สส,เขต 1 จ.ยะลา และคณะทำงาน รัฐมนตรียุติธรรม ลงพื้นที่ อ.เมืองยะลา แจกข้าวปลาอาหาร ให้กับผู้ประสพอุกทกภัย ในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา

ต้อนรับ.   พาตีเมาะ สะดียามู. ผวจ.ปัตตานี ให้การต้อนรับ คณะกรรมาธิการทหาร และความมั่นคงของรัฐ นำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการฯ ที่ลงพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ณ โรงแรมซีเอส เขตเทศบาลเมืองปัตตานี

มอบปัจจัย.  พระสุธี วชิรปฏิภาณ ผู้ช่วยเลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม / เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือรูปที่ 2 เลขานุการของสมเด็จพระมหาธีราจารย์  เจ้าอาวาสวัดเชตุพน เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โรงครัวอาสาวัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีพระเทพวชิรสุตาภรณ์เจ้าคณะจังหวัดสงขลา พร้อม นิพนธ์ บุญญามณี ร่วมต้อนรับพร้อมมอบปัจจัยเพื่อใช้ในการประกอบอาหารแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสงขลา

เปิดศูนย์พักพิง.  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พร้อมด้วย บุคลากร และ นักศึกษา ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว  (อาคารกองพัฒนานักศึกษา) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ระหว่าง 29 พ.ย. – 2 ธ.ค.67 พร้อมกันนี้ยังได้เปิดโรงครัวเพื่อจัดทำข้าวกล่อง และน้ำดื่ม แจกจ่ายให้กับนักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

นพพร หนูเพชร นายอำเภอเมืองยะลา พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บัณฑิตอาสาฯ ประชาชนจิตอาสาพระราชทานฯ  มอบถุงยังชีพสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ในพื้นที่ ตำบลตาเซะ จำนวน 200 ชุด ณ พื้นที่ ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และ  มอบอาหารปรุงสุกที่บรรจุไว้ในกล่องและน้ำดื่ม ให้แก่ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ณ พื้นที่ ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

กำลังใจ.  มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา พร้อมด้วย ซอมะ มะเซ็ง สมาชิกสภา อบจ.ยะลา และทีมงาน ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี นายก อบต.ธารโต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. ณ พื้นที่ หมู่ 1 บ้านปูยุด ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา

ติดตามสถานการณ์.  วีรพัฒน์ บุณฑริก รอง ผวจ.นราธิวาส พร้อมด้วย สนั่น จำปา ขนส่งจังหวัดนราธิวาส และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเดินรถไฟในพื้น จ.นราธิวาส พร้อทั้งได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ให้เตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และแนะนำประชาชนที่ต้องการเดินทาง ณ สถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

ช่วยเหลือ.  วันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี พร้อมด้วย น.ส.นูร์ไอนีย์ หะยีแวนิ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบลตันหยงลุโละ นางสาวอรษา นุ่มนวล ปลัดอำเภอ น.ส.ฮาลีเมาะ แวมะลี พร้อมหน่วยงานปกครองท้องถิ่น รวมลงพื้นที่ ณ บ้านกรือเซะ หมู 3 ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี

เปิดเส้นทางบิน.   ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ณัฐนนท์ โพธิเมธานนท์ ประธานกรรมการบริหารเกาะกระดาน พร้อมด้วย สมศักดิ์ เสือบุญทอง ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตรัง ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง ร่วมแถลงข่าวเปิดเส้นทางบิน Scaplane สู่เกาะกระดาน ตรัง โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ตรัง ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ตรัง และสื่อมวลชน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2567 นี้

แถลงผลงาน.  ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรังพล.ต.ต. ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.อ.กฤษฎา คงพันธุ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง (ทหาร) พ.ต.อ.ประพัตร์ ศรีอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์  นาวัง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ หน.สภ.ในสังกัด ภ.จว.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าว ผลการกวาดล้างอาชญากรรม ในพื้นที่

ช่วยกาชาด.  ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ทรงกลด สว่างวงค์ ผวจ.ตรัง และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง  เป็นประธานในพิธีรับมอบสิ่งของเนื่องในกิจกรรมวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ประจำปี 2567 เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมงานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาด จังหวัดตรัง โดยมี ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ร่วมในการรับมอบ

ช่วยเหลือ.  นราศักดิ์ ชุมแก้ว เกษตรอำเภอสทิงพระ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรสทิงพระ เปิดครัวเกษตรทำอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ร่วมกับนายอำเภอสทิงพระ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ลงพื้นที่มอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่อำเภอสทิงพระ โดยหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุน ข้าวกล่องจำนวน 250 ชุด  นมพร้อมดื่ม จำนวน 324 กล่อง ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย  ในพื้นที่ ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา

กำลังใจ.  เจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอเมืองสงขลา เยี่ยมใจกำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ณ ศูนย์อพยพชั่วคราวตลาดโคกไร่ หมู่ 8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา

ถึงยังชีพ.   เอกนัฎ พร้อมพันธุ์รมต.อุตสาหกรรมลงพื้นทีศูนย์สงเสริมอุตสาหกรรม 11 หาดใหญ่ พร้อมด้วย โชตินรินทร์ เกิดสม  ผวจ.สงขลาเพื่อติดตามปัญหาน้ำท่วมและได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ณ ศูนย์สงเสริมอุตสาหกรรมตำบลน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

พระราชทาน.   ไชยณรงค์ แก้วเจือ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ สำนักงานปศุสัตว์ จ.นราธิวาส  นำหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานฯ ช่วยเหลือเกษตรในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบกับอุกทกภัยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ วัว ควาย ประสพปัญหาเรื่องอาหาร

น้ำใจช่วยน้ำท่วม.    ห้างแฟมิลี่ไฮเปอร์มาร์คยะลา โดย  ชัยณรงค์ แซ่จิว กรรมการส่งเสริมกิจการวิทยาลัยชุมชนยะลา มอบเครื่องอุปโภคบริโภค จัดได้เป็นจำนวน 150 ชุด เพื่อมอบให้ จนท.และนักศึกษา วชช.ยะลา ที่ได้รับผลกรกระทบจากน้ำท่วม ณ วิทยาลัยชุมชนยะลา โดยมีคณะผู้บริหาร วิทยาลัยชุมชนเป็นผู้รับมอบ