บทความนี้ คงเป็นบทความสุดท้ายของปี 2567 (ปีมะโรงไทย ปีมังกรจีน) ก่อนเข้าสู่ปี 2568 ปีมะเส็งหรืองูเล็ก ไทย ปีมังกรไฟว่า สะบักสะบอมแล้ว ปีงูเล็กจะสะบักสะบอมกว่า จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่ปีมังกรที่จะผ่านพ้นอีกไม่กี่วันนี้ มีคดีต้มตุ๋นเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เริ่มตั้งแต่ คดีดิไอคอน จากบริษัทขายตรง กลายเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน แชร์ลูกโซ่ ฟอกเงิน ผู้บริหาร “บอสพอล ได้ซุปตาร์ชื่อดังเป็นเครือข่าย” มีเหยื่อนับหมื่นราย เสียหายกว่า 3 พันล้าน (ของจริงมากกว่านี้) มีคดีทนายประชาชนคนดังฝีแตก หลอกต้มเหยื่อกว่า 100 ล้าน มี แชร์แครอต หลอกพระลงทุน เสียหาย 5-6 พันล้าน มันน่าตกใจ พระผู้สละโลกถึงรวยเพียงนี้
แม้แต่ หมอดัง อาชีพที่ใคร ๆ ก็ยกมือไหว้ อายุก็ตั้ง 86 ปี ยังไม่วายโดนคดีฉ้อโกงหลายพันล้าน ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ปล่อยลูกเมียเข้าคุกแทน แก๊ง “คอลเซ็นเตอร์” ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหลอกดูดเงินออนไลน์ ถึง 7.4 แสนคดี เสียหายกว่า 7.8 หมื่นล้าน ช่วยคืนได้แค่ 8.6 พันล้าน ขณะที่ประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้ดีเด่กว่ากันเลย ชีวิตยากลำบาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้ครัวเรือนพุ่ง 90% ของจีดีพี เงินหมื่นที่แจก 14 ล้านคน ช่วยได้ชั่วคราว สุดสลดคือรถบัสพานักเรียนไปทัศนศึกษาไฟลุกไหม้ทั้งคันเพราะถังแก๊ส 10 ลูกในรถ เด็กและครูตายกว่า 30 คน รถบัสปลอดภัยไปถึงไหน ใครรู้บ้าง
เป็นปีมังกรไฟที่ประชาชนคนเดินดินทั้งสะบักสะบอมและสุดสลดโดยแท้
การเมืองบ่อเกิดอำนาจบริหารประเทศ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ช้ำในไม่แพ้กันจากฝีมือองค์กรอิสระ ปีมังกรไฟ ใครจะไปคิด มีรัฐบาลใหม่ไม่ถึงปี จู่ ๆ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนที่ 30 ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติ 5 ต่อ 4 ปลดออกฟ้าผ่าตอนแดดเปรี้ยง ๆ ข้อหาทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี หักปากกาเซียนที่ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วเสียสัตย์จับมือพรรคอนุรักษ์แล้วจะอยู่ครบเทอม ที่ไหนได้ กลับได้ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯแทน
กลายเป็นผู้นำหญิงในวัยแค่ 38 ปี ถูกมองเป็น นายกฯ มือใหม่หัดขับ มีพ่อเป็นนายกฯตัวจริงว่าการหลังฉาก ที่จริงหน้าฉากเลยล่ะ แพทองโพย รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง จากดีลลับได้กลับบ้าน แล้วไม่ติดคุก นอนป่วย รพ.ตำรวจชั้น 14 แทน กลายเป็น “ชนักปักหลัง” เรียกแขก “ขาประจำ” ตามขยี้ ล่าสุด 12 ข้าราชการ รอขึ้นเขียงจาก ป.ป.ช. และยังมีคดี “สนามกอล์ฟอัลไพน์” กลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์ ฝีมือ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ภูมิใจขวาง ที่หล่อได้ใจกลุ่มอนุรักษนิยม
พรรคฝ่ายค้านนั้นยิ่งปั่นป่วน มติเอกฉันท์ ศาลรัฐธรรมนูญ 9 ต่อ 0 สั่งยุบพรรคก้าวไกล-ตัดสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี ปมหาเสียงแก้ไข ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชัยธวัช ตุลาธน พ้นจากหัวหน้าพรรค แล้วมีบางคนคุยโอ้อวด พรรคก้าวไกลต้องมาขอบคุณที่สั่งยุบพรรคทำให้ได้เงินบริจาค ขณะอีก 40 สส.ก้าวไกลที่ลงชื่อแก้ ม.112 ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย มกราคม ปี 68 ป.ป.ช. จะสรุป ผิดจริยธรรมถูกตัดสิทธิตลอดชีวิตหรือไม่ โอ มายก็อด ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
ที่สุด พรรคก้าวไกล อวตารใหม่อีกครั้ง เป็นพรรคประชาชน มี “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นผู้นำ ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 5 สส.กลายเป็นงูเห่าเรียบ พรรค พปชร.ของลุงป้อม ก็กลายเป็นพรรคอกแตก 20 สส.งูเห่า กลุ่มผู้กองแป้งเป็นฝ่ายรัฐบาล ที่เหลืออีก 19 คน เป็นฝ่ายค้าน ไทยแลนด์โอนลี่
การเลือก สว. ตาม รธน.อัปยศ ปี 2560 เราได้ สว.สีน้ำเงิน ที่อยู่ในเครือข่าย พรรค 2 น. ถึง 170 คน มี สว.พันธุ์ใหม่ แค่ 30 คน เป็นไม้ประดับ โหวตเรื่องไหนแพ้เรื่องนั้น พ.ร.บ.ทำประชามติต้องเป็นเสียงข้างมาก 2 ชั้น แค่ “น้ำจิ้ม” เมนูหลัก คือ ปิดประตูตายแก้ รธน.อัปยศปี 60
น่าเสียดาย กัปตันเครื่องบินที่จะพาไทยบินให้ถึงจุดหมายอย่างนุ่มนวลยังไร้ทิศทาง หนทางปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปเศรษฐกิจ ตีบตัน รธน.กฎหมายหลัก แก้รายมาตรายังยาก อย่าว่าแต่จะมี สสร.มายกร่างทำใหม่เลย
แต่นั่นล่ะ ปีหน้าฟ้าใหม่ยังอาจมี “รุ้งงาม” รอ ณ ขอบฟ้ากว้าง ชวนพวกเราหายใจลึก ๆ สู้โว้ย ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นไป ลาทีมังกรไฟ แล้วอ้าแขนรับมะเส็งน้อยกันต่อไป.
………………………………….
ดาวประกายพรึก