เหตุยิงกันตายในบ้านพักนักการเมืองคนดัง จ.ปราจีนบุรี ตอนนี้นายตำรวจใหญ่กระซิบว่ามี “เขม่าดินปืน” ติดอยู่ในมือใครคนนั้น! รวมทั้งที่มือของผู้ตายด้วย จึงพอปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ว่า ใครเป็นคนลั่นไกนัดแรกในระยะประชิด แล้วผู้ตายพยายามยกมือปัดป้อง ตามมาด้วยการยิงซ้ำกันอีกชุดใหญ่

ผู้มีอิทธิพลเริ่มไต่เต้ากันตั้งแต่การเป็นนักการเมืองท้องถิ่น จากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สจ. นายกอบต. นายกเทศมนตรี ขยับไปสู่การเมืองระดับชาติคือ สส. ยกระดับเป็น“บ้านใหญ่-เจ้าพ่อ”ส่งคนเข้าไปเป็น สส.

บ้านใหญ่เจ้าพ่อ” ในชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ลพบุรี ทยอย “ลาโลก” กันไป! เหลือรุ่นลูกหลาน เขี้ยวเล็บไม่เท่าไหร่แล้ว! ยกเว้น “ปราจีนบุรี” ยังมีผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นสูงมากที่เป็นปัญหาฝังรากลึกมานาน

ผู้มีอิทธิพลในปราจีนบุรี มีพฤติการณ์เลี้ยงสมุนไว้เป็นโขยง มีลูกน้องติดตาม 10-20 คนอย่างเคยชิน, ฮั้วประมูลรับเหมาก่อสร้าง, ข่มขู่-รีดไถ-ทำร้ายผู้รับเหมา, ข่มขู่-รีดไถ-ทำร้ายคู่แข่งทางการเมืองทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ, รับเคลียร์ (ข่มขู่-รีดไถ) ทุกปัญหาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองและปัญหาของผู้ประกอบการ,เวลามีการเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติ จะเรียกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายก อบต. มารายงานตัว เพื่อไม่ให้ขยับตัวไปช่วยใคร

การสร้างเหตุการณ์ตบบ้องหูพวกเดียวกันเอง เพื่อข่มขวัญผู้รับเหมาที่เป็นคู่แข่ง ไปจนถึงตบบ้องหูผู้รับเหมาที่เป็นคู่แข่ง ถือเป็นเรื่องปกติ หนักข้อถึงขั้นยิงผู้รับเหมาที่ไม่ยอมฮั้วประมูลงาน ตายคารถกลางวันแสก ๆ ในลานจอดรถของอบจ.ปราจีนบุรี

อีกกรณีมีคนไปเป็นพยานกับกกต. คดีทุจริตเลือกตั้งที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมือง ต้องหนีภัยไปอยู่จังหวัดอื่นเป็นเวลาครึ่งปี แต่พอกลับเข้าพื้นที่ได้แค่ 2 วัน ก็ถูกยิงตาย! ถ้าใครไม่เชื่อเรื่องราวเหล่านี้ให้ไปถาม พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต ผบช.ภ.2 และอดีตรอง ผบ.ตร.

พยัคฆ์น้อย” ขอฝากไปยัง น..แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล...กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ “ปปง.” ช่วยกันปราบผู้มีอิทธิพลนักเลงในปราจีนบุรีให้ราบคาบ! แล้วใช้ “ปราจีนโมเดล” ไปปราบผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย คือ 1.ตรวจสอบทรัพย์สิน เจ้าของบ้านและผู้ตาย ตามที่มีคนไปร้องกับ ปปง.ว่าอาจมีเงิน 20-70 ล้านบาท ได้มาโดยชอบหรือไม่? ไปเบียดเบียนมาจากคนอื่นหรือเปล่า?

2.ใช้มาตรการเอาผิดที่ชัดเจนเด็ดขาด! กับตำรวจชั้นสัญญาบัตรประทวน ที่ไปเดินตาม “เสริมบารมี” ให้ผู้มีอิทธิพลนักเลง และ 3.ใครมีสมุนเดินตามเกิน 3 คน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าคนพวกนี้มีพฤติการณ์มั่วสุมซ่องโจรข่มขู่ ทั้งฝ่ายปกครอง (ผวจ.) และตำรวจ ต้องตรวจค้นอย่างเข้มงวด และเรียกมาตรวจสอบทำประวัติ เหมือนที่ “ตำรวจฝ่ายสืบสวน” มีประวัติพร้อมรูปถ่ายสาวบริการอาบอบนวดในพื้นที่

ปราจีนบุรีเป็นเมืองเกษตร-อุตสาหกรรม มีขนาด“จีดีพี”เป็นลำดับ 5 ของประเทศ (ข้อมูลปี 65 ไม่นับรวมกรุงเทพฯ) รองจากระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และมีแนวโน้มจะขยายพื้นที่โครงการ EEC มายังปราจีนบุรีด้วย!

ดังนั้นรัฐบาลต้องปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น คือ “บ้านใหญ่ 1-2-3” และตัวแสบ ๆ 3-4 กลุ่ม แถว ๆ พื้นที่อุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ มีผลประโยชน์เยอะ! จึงเลี้ยงสมุนไว้เพียบ เดี๋ยวก็ซัดกันอีก!!.

…………………………………….
พยัค์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…