ปี 2567 เป็นปีที่เศรษฐกิจและปากท้องคนไทยยังคงลุ่ม ๆ ดอน ๆ อันเนื่องจากหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิดผลกระทบ จนทำให้การทำอาชีพ ธุรกิจต่าง ๆ พลอยได้รับหางเลขกันทั่วหน้า ในขณะที่ปีใหม่ 2568 นี้ หลาย ๆ คนก็คงมีคำถามว่า… “ปี 2568 จะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหน??” เพื่อที่จะได้ “ตั้งหลักสู้ให้ถูก” และสำหรับในปีนี้จะมี “อาชีพใด?-ธุรกิจใด?…รุ่ง?-ไม่รุ่ง?”บ้างนั้น…วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มี “บทวิเคราะห์” โดย “ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล” อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ “ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล” อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มานำเสนอให้ลองพิจารณากัน ดังนี้…

“เศรษฐกิจ 2567 ว่าเหนื่อยแล้วก็ยังแค่เล็กน้อย เพราะปี 2568 จะเหนื่อยกว่ามาก จากการที่เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ค่อนข้างน้อย แถมตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักทั้งการส่งออกและท่องเที่ยวก็ไม่ดีอย่างที่คาดไว้ ไหนจะมีเรื่องของวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ถดถอย ที่ปัจจัยเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบมาถึงไทย ยังไม่รวมนโยบายของโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา ที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้า รวมถึงปัญหาจากต้นทุนวัตถุดิบกับค่าแรงที่สูงขึ้น และปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยยังคงต้องเหนื่อยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพอมีข่าวดีได้จากการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีแนวโน้มดี ซึ่งถ้าเกาะกระแสได้ก็จะมีโอกาส อีกทั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดกับสุขภาพก็ดูดี ซึ่งไทยค่อนข้างเก่งในเรื่องนี้ และน่าจะทำให้ไทยยังพอมีโอกาสอยู่” …เป็น “แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2568” ที่ ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล วิเคราะห์ไว้

ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล

ทาง ดร.ภูษิต ยังได้ย้ำให้ “คนไทยเตรียมพร้อมตั้งหลักสู้” ในปี 2568 ว่า…จำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการ เพิ่มทักษะเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมไปถึง ต้องรู้จักวางแผนการเงินให้รัดกุม โดยควรทำให้ตัวเองมีเงินทุนสำรองในกระเป๋าไว้เสมอเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อย่างไรก็ดี แต่การวางแผนการเงินและการประหยัดอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่ยังควรที่จะ ต้องหารายได้ที่หลากหลายเข้ามาเพิ่ม อีกด้วย…นี่เป็นสิ่งที่ “คนไทยต้องปรับตัวในปี 2568”

ส่วน “ธุรกิจที่มีแนวโน้มดี ปี 2568”นั้น ทาง ดร.ภูษิต ระบุว่า…จะมี “ธุรกิจที่จะมาแรง” และ “ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต” ซึ่งประกอบด้วย… ธุรกิจเทคโนโลยี AI” ที่จะมีบทบาทมากขึ้น และเป็นธุรกิจดาวรุ่ง จนทำให้อาชีพที่เกี่ยวกับ AI จะมาแรง รวมทั้ง “ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้” ที่เกี่ยวกับการติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัย และที่ตามมาก็คือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “การตลาดดิจิทัล” หรือเป็นธุรกิจซัพพอร์ตการตลาดดิจิทัล เช่น การเขียนโค้ด ติ๊กต๊อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับ “พลังงานสะอาด” ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ EV หรือยานยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ สินค้ากลุ่มอีวีชาร์จเจอร์ แบตเตอรี่ การบำรุงรักษา ก็จะเติบโตขึ้นเช่นกัน ซึ่งนี่ก็รวมถึงอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสะอาดด้วย

นอกจากนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ผู้สูงอายุ” ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรง เนื่องจากไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ และก็รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “สุขภาพ” และ “ความงาม” ก็ยังจะมาแรงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น… ธุรกิจโรงพยาบาล สถานเสริมความงาม สถานฟื้นฟูสุขภาพ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส รวมถึง อุตสาหกรรม “พิลาทิส” ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเป็นอาชีพที่คนให้ความสนใจมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจกิจเกี่ยวกับ “อีคอมเมิร์ช” จะยังคงดีต่อเนื่อง และจะเติบโตไปพร้อม ๆ กับ “ธุรกิจโลจิสติกส์” หรือที่เกี่ยวข้องในด้านการขนส่ง

ขณะที่ “อาชีพเด่น” หรือ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2568” นั้น ดร.ภูษิต กล่าวว่า…อาชีพที่จะเติบโตได้ดีจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น… อาชีพวิศวกรเทคโนโลยีดิจิทัล นักโปรแกรมเมอร์ นักให้คำปรึกษาด้านดิจิทัล รวมถึงกลุ่มอาชีพเป็นอิสระ หรือที่ solopreneur” ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะมาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้น อาทิ กลุ่มรับทำเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น กลุ่มสายงานสร้างสรรค์ กลุ่มอาชีพสายสุขภาพ กลุ่มสายการศึกษา เช่น กราฟิกดีไซน์ อาชีพตัดต่อวีดีโอ ไลฟ์โค้ช เทรนเนอร์ออกกำลังกาย นักโภชนาการ นักให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ รวมไปถึง ครีเอทีฟดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ติ๊กต๊อกเกอร์ ค้าขายออนไลน์ ที่จะยังคงมาแรงต่อเนื่องในปี 2568

ถึงแม้ในปี 2568 จะมีความเสี่ยงเยอะ และการเติบโตเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ปรับตัวอะไรเลย นั่นก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้มากกว่า” อ.ภูษิต กล่าวทิ้งท้าย

ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล

ทางด้าน ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้วิเคราะห์และสะท้อนว่า… “เศรษฐกิจไทยในปี 2568 น่าจะเป็นไปแบบซึม ๆ และคงยังไม่ดีขึ้นมากนัก อันสืบเนื่องจากหลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า…ปีนี้เศรษฐกิจน่าจะยังไม่คึกคัก และจะไม่เติบโตอย่างก้าวกระโดด แน่นอนเรื่องนี้ย่อมส่งผลกระทบกับทุก ๆ คน เพราะทำให้ธนาคารจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อธุรกิจยากขึ้นส่งผลให้โอกาสที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่ม SME จะขยายตัวและเติบโตได้ยาก”

ทั้งนี้ ศ.วิทวัส ยังได้วิเคราะห์เอาไว้เพิ่มเติมอีกว่า… ในปี 2568 นี้อัตราการจ้างงานจะลดน้อยลง รวมถึงธุรกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรถยนต์ ก็น่าจะยังไม่กระเตื้องดีขึ้นมากนัก ขณะที่ในภาคการส่งออก จากสถานการณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้จะยังพอไปได้ แต่จะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแน่นอน และถึงแม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลจะอัดฉีดเงิน 10,000 บาทออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่อย่างที่เคยบอกไว้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วนั้น มองว่า… ภาคธุรกิจที่จะยังพอจะเป็นตัวหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยนั้น ยังคงเป็นภาคการท่องเที่ยว ศ.วิทวัส ระบุ

ส่วนแนวโน้ม “ธุรกิจดาวเด่นที่จะมาแรง” ในปี 2568 นั้น ศ.วิทวัส ได้วิเคราะห์เรื่องนี้ไว้ว่า… ธุรกิจที่จะมาแรงและจะมีเกิดใหม่ๆ ขึ้นเยอะในปีหน้าก็คือ “ธุรกิจแฟรนไชส์” เกี่ยวกับ “อาหาร” และ “บริการต่าง ๆ” อาทิ ร้านล้างรถยนต์ ร้านซักผ้า และมองว่าในปี 2568 เทรนด์ซื้อแฟรนไชส์มาเปิดจะเป็นธุรกิจยอดฮิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือคนที่ออกจากงานตั้งแต่อายุน้อย ๆ อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเกิดขึ้นเยอะก็มีโอกาสจะตายตามกันเยอะไปด้วย จากการที่แข่งขันกันสูงจนเกิดการแย่งลูกค้ากัน ดังนั้นกับธุรกิจนี้ก็มีทั้งคนที่รอดและไม่รอด และอีกหนึ่งธุรกิจที่จะมาแรงในปี 2568 นี้ก็ยังมี “ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว” เพราะเริ่มเห็นความคึกคักของการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ช่วงปี 2567 แล้ว ดังนั้นในปีหน้าถ้าสถานการณ์ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากนี้ ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจร้านอาหาร จะเป็นธุรกิจที่โดดเด่นมาก ๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่จะโดดเด่นในปี 2568 เช่นกัน ได้แก่… ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “เทคโนโลยีโรโบติกส์ (robotics)” ที่จะมีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ธุรกิจต่าง ๆ นำมาใช้เพื่อทำให้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยในกลุ่มโรงงานและกลุ่ม SME จะเริ่มใช้งานเทคโนโลยีเกี่ยวกับโรโบติกส์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการนำมาใช้ทดแทนแรงงานคน

ธุรกิจเกี่ยวกับ “สุขภาพและบริการเกี่ยวกับผู้สูงอายุ” ก็จะเป็นอีกธุรกิจที่น่าจะเติบโตเช่นกัน รวมถึงในปี 2568 จะยิ่งเกิดรูปแบบของบริการใหม่ ๆ เพิ่มมากด้วย เช่น บริการขับรถรับส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล บริการไปทำอาหารและทำความสะอาดที่บ้าน โดยสะท้อนจากการที่ขณะนี้มหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งได้เปิดหลักสูตรเพื่อสุขภาพเกี่ยวกับผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่วนที่จะยังคงโดดเด่นต่อเนื่องในปีนี้ ก็จะมี ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจความงาม ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ขณะที่ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2568” นั้น ทาง ศ.วิทวัส อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า… อาชีพเด่น ๆ ก็จะเป็นไปตามกลุ่มธุรกิจที่มาแรงในปี 2568 โดยที่น่าโฟกัสนั้น ก็คือ…

อาชีพเชฟอาหาร นักเขียนโปรแกรม นักพัฒนาซอฟแวร์ วิศวกรเทคโนโลยีดิจิทัล นักวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนั้นก็มีอาชีพครีเอทีฟสายดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ติ๊กต๊อกเกอร์ และอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพผู้สูงอายุและด้านความงาม อย่าง แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล คนดูแลผู้สูงอายุ ขณะที่กลุ่มอาชีพที่จะเติบโตในปี 2568 จะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีทักษะวิชาชีพที่มีใบอนุญาตหรือใบประกอบวิชาชีพเฉพาะ เช่น นักบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นต้น” …เป็นการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ ที่ฉายภาพ “อาชีพเด่นธุรกิจมาแรง” ปี 2568

…ทั้งนี้ นี่เป็นข้อมูลโดยสังเขปจากการวิเคราะห์ “เทรนด์ธุรกิจ-เทรนด์อาชีพ ปีใหม่ พ.ศ. 2568”โดย 2 นักวิชาการผู้สันทัดกรณี โดยมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่จะทำให้ “รุ่ง?…ไม่รุ่ง?” ใน “ยุคเศรษฐกิจปั่นป่วน” …ที่ “หน้าช่องทางทำกิน”นำมาเสนอให้แฟน ๆ “เดลินิวส์” ได้ลองพิจารณากัน เพื่อ “ปรับใช้กับการทำธุรกิจ-ทำงาน-ทำอาชีพ” ที่ “ทีมช่องทางทำกิน” ขอเอาใจช่วยทุก ๆ ท่าน.

ทีมช่องทางทำกิน : รายงาน