เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมอายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวานมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันนี้ เข้ารับการรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่องแพทย์จะนัดให้เข้าพบทุก 2- 3 เดือน และจะเจาะเลือดดูน้ำตาลตอนเช้าก่อนกินอาหารเช้าผลล่าสุดได้เท่ากับ 150 หน่วย ความดันเลือดตัวบนได้ 130 ตัวล่าง 87 แพทย์บอกว่าความดันเลือดปกติ แต่ให้ควบคุมน้ำตาลต่อไป
อยากเรียนถามว่าหลังจากที่เป็นเบาหวานมาได้สักระยะหนึ่งอวัยวะเพศก็แข็งตัวได้ดีบ้างเป็นบางครั้งประมาณ 1 ใน 3 ของการมีเพศสัมพันธ์ที่สามารถแข็งตัวเต็มที่และถึงจุดสุดยอดได้ แต่เวลาผ่านไปสักปีกว่า ๆ การแข็งตัวก็ไม่เต็มที่เลยแข็งแบบนิ่ม ๆ ก็ไปซื้อยาขยายหลอดเลือดมากินอาการก็ดีขึ้นมีเพศสัมพันธ์ได้ดี แต่เกิดอาการกลัวและกังวลใจอยู่มากว่าการกินยาขยายหลอดเลือดนี้จะทำให้เกิดโรคหัวใจได้หรือเปล่าเพราะเห็นตามข่าวที่กินแล้วหัวใจวายตายคาที่ จึงอยากได้คำชี้แนะจากคุณหมอ ดร.โอ
ด้วยความนับถือ
วิโรจน์
ตอบ วิโรจน์
การรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เกิดจากโรคเบาหวานนั้นมีหลายวิธีแต่วิธีที่ได้รับการนิยมมากคือการกินยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ หรือที่เรียกกันว่ายาเฉพาะกิจ ซึ่งยากลุ่มนี้หาซื้อได้ง่ายจึงเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคนิยมกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการจะซื้อยากลุ่มดังกล่าวโดยที่ผู้ใช้ไม่เคยใช้ยาดังกล่าวก่อนนั้น จะต้องได้รับคำแนะนำและตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนเสมอ เพราะการใช้ยาเฉพาะกิจหากใช้ไม่ถูกต้องก็ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งยากลุ่มดังกล่าวจะมีข้อห้ามใช้กับผู้ที่เป็นโรคหัวใจแล้วได้รับยารักษากลุ่มไนเตรท เพราะเมื่อกินยาทั้งสองชนิดร่วมกันฤทธิ์ของยาทั้งสองจะทำให้คนไข้เกิดอาการความดันต่ำจนกระทั่งช็อกเสียชีวิตไป ตามที่ทราบกันทั่วไปตามสื่อต่าง ๆ ดังนั้นคนไข้ที่มีอาการอีดีนั้นจึงไม่ควรหาซื้อยากินเอง โดยปราศจากการปรึกษาจากแพทย์ก่อนเสมอ
มีการศึกษาการใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ในกลุ่มชายเบาหวานที่มีอาการอีดี ด้วยการใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ชนิดซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ขนาด 100 มิลลิกรัม พบว่าชายเบาหวานที่เป็นอีดีกลุ่มนี้จะมีการลดลงของความดันโลหิตในขณะที่นอนหลับ และอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ทำให้คนไข้กลุ่มดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจแต่อย่างใด ด้วยการทดสอบค่าเอฟเอ็มดี (flow mediated dilatation (FMD) ซึ่งเป็นตัวที่ใช้บ่งบอกการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือด) แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยในคนไข้ที่เข้าร่วมการศึกษา
ปัจจุบันการรักษาอาการอีดีจากเบาหวานได้มีการพัฒนามากขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะยากินเพียงอย่างเดียว หากกลัวหรือกังวลเรื่องการกินยาเฉพาะกิจว่าอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตัวเองก็ควรเข้ารับการฟื้นฟูจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเพราะมีวิธีการรักษาด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถใช้เองได้ที่บ้านและไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย หากสงสัยว่าตัวคุณมีอาการที่บ่งบอกว่าจะเป็นโรคหัวใจควรเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์จะดีกว่า หากพบสิ่งผิดปกติจะได้ทำการแก้ไขได้ทันการณ์.
………………………………
ดร.โอ สุขุมวิท51