ทั้งนี้ ประเทศฟิลิปปินส์นั้นก็มี “กาสิโนถูกกฎหมาย”และได้มีการออก “มาตรการสกัดปัญหา”ผ่านกลไกหน่วยงานที่ชื่อว่า “ปักคอร์ (PAGCOR)”หรือชื่อเต็ม “The Philippine Amusement and Gaming Corporation” ที่จัดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1977 เพื่อ…
บูรณาการอำนาจ–ขั้นตอนดำเนินการ
เพื่อการ “วางแผนป้องกัน–ลดปัญหา”
ควบคุม “ปัญหาต่าง ๆ จากการพนัน”

พงศกร เรืองเดชขจร
สำหรับ “โมเดลการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ” ที่มีหน่วยงานคือ “ปักคอร์” ดูแลรับผิดชอบนั้น ทาง พงศกร เรืองเดชขจร นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย ได้วิเคราะห์และนำเสนอไว้ผ่านชุดข้อมูลบทความซึ่งมีการเผยแพร่ไว้ใน เว็บไซต์ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คือ www.gamblingstudy-th.org โดยได้ระบุไว้ว่า…สาเหตุที่“ปักคอร์”เกิดขึ้นมานั้น เนื่องจากทางฟิลิปปินส์เล็งเห็นถึง ผลกระทบที่เป็นปัญหาจากการพนัน ซึ่งแม้จะเป็น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ จำเป็นต้องมีมาตรการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองและปกป้องประชาชน ทำให้องค์กรที่กำกับดูแลการพนันของฟิลิปปินส์ คือ “ปักคอร์” ก่อตั้งขึ้น
เป็น “ไม้กั้นการพนันที่ไม่รับผิดชอบ”
ทั้งนี้ จากโมเดลดังกล่าวได้นำสู่การจัดทำ “หลักปฏิบัติของการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Gaming Code of Practice)” เพื่อใช้เป็น “คู่มือสำคัญ” ในการ ป้องกันปัญหาจากการเล่นพนันถูกกฎหมาย โดยในคู่มือนี้นอกจากจะมีเรื่อง “การคุ้มครองเด็กและเยาวชน” ผ่านทางมาตรการต่าง ๆ และ “การจำกัดการเข้าถึงสถานที่เล่นพนัน” รวมไปถึง “การจำกัดสิทธิบุคคลบางกลุ่ม” ห้ามเข้าไป เข้าไปอยู่ หรือเข้าไปเล่นพนัน ในสถานที่พนันโดยเด็ดขาดแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “โปรแกรมกีดกันผู้เล่นออกจากการพนัน”ภายใต้การดูแลของ “ปักคอร์” อีกด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นอีก“ไม้กั้น”
ใช้ป้องกัน “ผู้ที่ป่วยเป็นโรคติดพนัน”
กับ “ผู้ที่เล่นพนันแบบที่เป็นปัญหา”
ด้วยเป้าหมายดังกล่าว “หลักปฏิบัติของการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ” จึงเป็น หนึ่งในระบบป้องกันที่สำคัญ ให้กับทางฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อบุคคลใดที่ถูกกำหนดให้ต้องเข้าไปอยู่ใน โปรแกรมกีดกันผู้เล่นออกจากการพนัน หรือ Exclusion Program หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “โดนแบน (ban)” โดยบุคคลนั้นมีชื่อปรากฏอยู่ใน ฐานข้อมูลแห่งชาติของบุคคลที่ถูกจำกัดสิทธิ จะส่งผลทำให้บุคคลนั้น ไม่สามารถเข้าไปในสถานที่เล่นพนัน และเว็บไซต์พนัน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น อาจจะ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี หรืออาจจะตลอดชีวิตก็ได้ ขึ้นกับแต่ละกรณี …นี่เป็นอีกหนึ่ง “ไพ่ตายของฟิลิปปินส์”
สกัดกั้นนักพนันขาดความรับผิดชอบ

ส่วน ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องให้ผู้เล่นพนันเข้าโปรแกรมกีดกัน ได้นั้น นักวิชาการอิสระด้านกฎหมายท่านเดิมแจกแจงไว้ว่า… ประกอบด้วย 3 กลุ่มสำคัญ คือ… “Self-exclusion” หรือตัวผู้เล่นพนันเองเป็นผู้ยื่นคำร้อง, “Family Exclusion” หรือสมาชิกในครอบครัว ได้แก่ คู่สมรส บุตรที่อายุไม่น้อยกว่า 18 ปี หรือบิดามารดา และ “Licensee-Emanating Exclusion” หรือผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการพนัน ที่ก็ยื่นคำร้องได้ กรณี ห้ามผู้เล่นพนันที่เล่นในกาสิโนติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง…
นอกจากนั้น ผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการพนัน ยังอาจจะร้องขอให้หน่วยงาน “ปักคอร์” นั้น ห้ามผู้เล่นพนันเข้ามาในสถานที่พนันของตนได้หากเข้าข่ายมีพฤติกรรมทุจริต เช่น โกง ฉ้อโกง ลักทรัพย์ ฟอกเงิน เป็นต้น
ขณะที่ “กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการโฆษณา” นั้น เรื่องนี้ทางฟิลิปปินส์ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยฟิลิปปินส์อนุญาตให้โฆษณาการพนันได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้ถูกกำหนดไว้ อาทิ 1.ข้อบังคับทั่วไป ที่ระบุว่า ไม่ว่าจะใช้สื่อโฆษณาแบบใด แต่เนื้อหาต้องไม่แสดงให้เห็นถึงการยุยงส่งเสริม หรือยอมรับพฤติกรรมการพนันที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม, 2.ขอบเขตของสื่อโฆษณา และ 3.เนื้อหาที่โฆษณา ได้แก่ ข้อความบังคับที่ต้องมี เช่น ห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 21 ปีเล่นการพนัน หรือข้อความต้องห้าม ที่ห้ามมี ได้แก่ ห้ามบอกเป็นนัยว่าทักษะผู้เล่นสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์การพนันได้ เป็นต้น
รวมถึงยังมีการระบุไว้เกี่ยวกับ “แนวปฏิบัติ” อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ 1.ข้อกำหนดเกี่ยวกับการฝึกอบรมผู้บริหารและพนักงาน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการ และ ป้องกันปัญหาการพนัน ให้แก่พนักงาน, 2.ด้านธุรกรรมทางการเงิน เช่น ห้ามให้เครดิตแก่ผู้เล่นพนันที่ไม่ใช่บัญชีพรีเมียม ผู้เล่นพนันที่ไม่ใช่ VIP, 3.ด้านการฟอกเงิน อาทิ การออกกฎหมาย RA No.9160 และกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน 2001 ที่ กำหนดให้มีหน่วยงานรัฐทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องการฟอกเงินโดยเฉพาะ รวมถึง 4.การให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหาจากการพนัน เพื่อฟื้นฟูบำบัด …เหล่านี้เป็นข้อมูลโดยสังเขปจาก “กรณีศึกษาฟิลิปปินส์”
“พนันถูกกฎหมาย” นี่ “ก็ต้องมีไม้กั้น”
จะได้ผลแค่ไหน “ก็ต้องสกัดปัญหา”
ส่วน “ในเมืองไทยก็ยังต้องรอดูไป”
กรณี “จะมีกาสิโน…ร้อนฉ่าแน่!!”.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์