เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ผมอายุ 63 ปี ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมาตั้งแต่ปี 2560 ตอนนี้ต้องเข้าพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำทุก 2 เดือน และต้องกินยาควบคุมความดันเป็นประจำทุกวัน ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาทางเพศเลย สามารถร่วมเพศกับภรรยาซึ่งปัจจุบันอายุ 50 ปีได้เป็นอย่างดีอาทิตย์หนึ่งก็ประมาณ 1-2 ครั้ง แต่พอเข้าปี 2565 เป็นต้นมา เริ่มไม่สามารถร่วมเพศกับภรรยาได้เหมือนเดิมเพราะอวัยวะเพศไม่ยอมแข็งตัว แต่ด้วยภรรยาและผมยังมีความต้องการทางเพศอยู่ จึงไปซื้อยาเฉพาะกิจที่มีขายในตอนนี้มากินจึงสามารถร่วมเพศได้ แต่เคยได้ยินมาว่าถ้ากินยาเฉพาะกิจนาน ๆ อาจทำให้ตาบอดและหูหนวกได้ ไม่ทราบว่าเป็นไปได้หรือไม่ รู้สึกกลัวมากจนตอนนี้หยุดกินยาไปเป็นเดือนแล้วไม่กล้ากิน แต่ก็ยังอยากร่วมเพศกับภรรยาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะมียาชนิดไหนรักษาอาการได้บ้างหรือเปล่า

ด้วยความเคารพอย่างสูง

สมบัติ

ตอบ สมบัติ

ในผู้ชายที่มีอาการอีดีส่วนใหญ่มักจะชอบหาซื้อยากินเองโดยไม่รู้ถึงพิษภัยจากการกินยาดังกล่าวว่าจะส่งผลเสียต่อร่างกายของตนเองอย่างไรบ้าง ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้มาจากการกินยาเหล่านั้นก็ได้ แต่เนื่องจากไม่ได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนการใช้ยาจึงคิดว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากการใช้ยานั้นเอง แต่ก็มีชายอีดีที่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัวแล้วซื้อยากินเองปรากฏว่ายาที่กินนั้นเกิดผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างตามมา บางรายถึงกับช็อกเสียชีวิตเลยก็มี กว่าจะรู้ก็สายเกินไปแล้ว

สำหรับการใช้ยาเฉพาะกิจหรือกลุ่มยาพีดีอี 5ไอ ได้มีการศึกษาความเป็นพิษต่อระบบประสาทหลังจากการใช้ยาแล้วซึ่งมีผลกระทบน้อยมาก มีโอกาสเพียง 10 ใน 1 ล้านครั้งที่ใช้ยาที่จะเกิดผลกระทบต่อระบบประสาทตา แต่สามารถรบกวนการมองเห็นได้มีการศึกษาการใช้ยาพีดีอี 5ไอ พร้อมกับการทดสอบสมรรถภาพในการได้ยินที่คลื่นเสียงความถี่ 250-16,000 Hz และวัดความดันในหูชั้นกลางก่อนการใช้ยาและหลังการใช้ยาวาร์เดนาฟิล 10 มก. ที่เวลา 1.5 และ 72 ชั่วโมง พบว่าที่หนึ่งชั่วโมงหลังกินยามีคนไข้ที่มีระดับความดันของเสียงต่ำสุดที่จะได้ยินในสภาวะที่ไร้เสียงรบกวนความถี่ต่ำ ๆ จำนวน 4 ราย ที่มีค่าลดลง และภาวะนี้สามารถกลับไปเป็นปกติได้ในชายทั้ง 4 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติในการได้ยินจากการใช้ยาอาจจะมาจากหลายสาเหตุซึ่งอาจเกิดจากการปลี่ยนแปลงการทำงานของท่ายูสเตเชียน หรือเกิดจากฤทธิ์ของยาก็เป็นไปได้ ดังนั้นหากต้องการได้ยาเพื่อทำการรักษาอาการอีดีจึงควรต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคแทรกซ้อนจากการใช้ยาดังกล่าว การรักษาอาการอีดีจากแพทย์จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดต่อร่างกายของคนไข้

ปัจจุบันการรักษาอาการอีดีไม่จำเป็นต้องใช้ยาเฉพาะกิจเสมอไปมีวิธีการรักษาหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธีฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพศจะได้ผลดีแค่ฝึก 2 ครั้งก็แข็งแรงโดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจ การใช้ยากระตุ้นการแข็งตัวในผู้ที่มีโรคเบาหวานเรื้อรังและดื้อยาเรื้อรัง การกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดในองคชาตเพิ่มขนาดเส้นเลือดแดงช่วยให้การแข็งตัวขององคชาตฟื้นได้เร็วขึ้นและช่วยลดการดื้อต่อยาเฉพาะกิจได้เป็นอย่างดี อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการซื้อยากินเอง ชีวิตมีค่ามาก อย่าตีราคาแค่เท่าราคาเม็ดยาที่ซื้อกินเอง.

ดร.โอ สุขุมวิท 51

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่