ด้วยเพราะปัญหานี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ทำให้เกิดความสูญเสียสารพัด ทั้งที่ไทยเป็นเพียงทางผ่าน แต่ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศเดือดร้อน
คำตอบของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ก็ชัดเจนที่ว่า ดิฉันต้องดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนในประเทศก่อน เพราะดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
คำตอบนี้ น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจน ถึงท่าทีและจุดยืนของรัฐบาลไทย ที่ ”คนไทย” ต้องมาก่อน หรือ “ไทย เฟิร์ส” เฉกเช่นเดียวกับที่นานาประเทศได้ยึดถือ
หันกลับมาในประเทศ ที่รัฐบาลต้องพยายามทำให้เศรษฐกิจเติบโตให้ได้อย่างน้อยในปีนี้ ต้องแตะที่ 3.5% ตามที่กระทรวงการคลังวาดฝันไว้

ทั้งจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ทั้งการเร่งใช้จ่ายในโครงการแจกเงินดิจิทัล เฟส 3 ที่เชื่อกันว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสสอง ของปีนี้ รวมไปถึงการดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย การกระตุ้นการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว
ที่สำคัญ!! ยังรวมไปถึงการเร่งรัดโครงการการลงทุนของเอกชนที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ที่เชื่อว่าหากมีการลงทุนจริงเกิดขึ้น ก็จะมีเงินลงทุนเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากถึง 75,000 ล้านบาท
โดยเงินลงทุน ในจำนวน 75,000 ล้านบาทนี้ จะช่วยสนับสนุนและกระตุ้นให้จีดีพีไทยเติบโตขึ้นได้อีกอย่างน้อย 0.19%
โครงการลงทุนเอกชน ที่น่าจับตามองและเรียกเสียงฮือฮาให้กับประเทศไทยได้ไม่น้อย นอกจากโครงการเอนเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ที่สังคมจับตามองแล้ว!!
เห็นทีหนีไม่พ้น โครงการ “Jurassic World: The Experience” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ แอทแทรคชั่น แอนด์ รีเทล จำกัด บริษัทในเครือของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC
โครงการนี้ จะใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น” โดยเจ้าของโครงการต้องการปั้นให้เป็นอีกหนึ่ง “แลนด์มาร์ก” ของกรุงเทพฯ และของประเทศไทย

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทย ได้กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ล่าสุดกว่า 1.67 ล้านล้านบาท จนกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก!!ที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องพุ่งเป้ามาที่เรื่องของการท่องเที่ยวและฝันให้ไทยกลายเป็นฮับของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้
โดยเฉพาะรัฐบาลของ “แพทองธาร” ที่หมายมั่นปั้นมือในเรื่องนี้อย่างจริงจังผ่านสารพัดโครงการ รวมไปถึงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made
โครงการ “Jurassic World : The Experience” ของกลุ่ม AWC ได้เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 67 ที่ผ่านมา เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่จุดหมายปลายทางด้านความบันเทิง ไลฟ์สไตล์ และเตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ของปี 68 นี้
ที่ผ่านมาการให้การส่งเสริมการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเป็นฮับของการท่องเที่ยว ไม่ใช่มีเพียงแค่โครงการนี้เท่านั้น เพราะตั้งแต่ปี 2558 จนล่าสุด บีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนกิจการกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย รวมไปถึงกิจการสวนสนุก ไปแล้ว 209 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2 แสนล้านบาท
การที่บีโอไอ ได้เปิดประเดิมต้นปีไฟเขียวให้การส่งเสริมการลงทุนในโครงการนี้ จึงเป็นที่น่าจับตามองกันต่อไปว่าประเทศไทยไม่ได้มีดีแค่ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ธรรมชาติ เทศกาล อีเว้นต์ เท่านั้น แต่ยังมีสวนสนุกที่ครองใจคนทั้งโลก เพื่อผลักดันให้ไทยกลายเป็นฮับแห่งการท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง!!
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”