“อันยอง-ศุภมาส” อินฟลูเอนเซอร์สาวสายไบค์เกอร์ และเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “อัน ยอง” เล่าประวัติความเป็นมาให้ “ทีมวิถีชีวิต” ฟังว่า เธอเกิดและโตที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยคุณพ่อคุณแม่มีอาชีพเป็นเกษตรกรทำนา ซึ่งพื้นฐานครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างจนทำให้ไม่มีโอกาสด้านการเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่น โดยเธอได้เรียนถึงแค่ชั้น ม.3 แต่ด้วยความที่อยากเรียนต่อ เธอจึงไปเรียน กศน. และทำงานหาเงินมาใช้เป็นค่าเล่าเรียนค่ากินอยู่เองตั้งแต่อายุ 15 ปี จนเรียนจบชั้น ม.6 แล้วจึงนำเงินเก็บจากการทำงานไปลงเรียน ปวส. สาขาบัญชี จนเรียนจบ ปวส. ก็ได้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ ช่วงที่ทำงานประจำ เธอต้องทำงาน 6 วัน โดยมีวันหยุดแค่ 1 วัน ทำให้ไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวที่ไหน แต่หลังจากทำงานได้ 3 ปี เธอก็เริ่มรู้สึกว่าต้องออกท่องเที่ยวในแบบที่ตัวเองชอบ นั่นคือ “ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว” จนเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นไบค์เกอร์ของเธอ

ชอบขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว และที่ขี่เป็นก็เพราะตอนเด็ก ๆ แอบขโมยรถมอเตอร์ไซค์ของพ่อไปหัดขี่เอง แม้จะล้มได้แผลถลอกก็ไม่เคยเข็ด กลับทำให้ชอบมากขึ้น” สาวไบค์เกอร์ระบุ

ส่วนจุดเริ่มต้นการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแบบลุยเดี่ยวของเธอนั้น อันยอง บอกว่า เมื่อมีวันหยุดแค่วันเดียว เธอจึงต้องใช้วันหยุดวันเดียวเพื่อเดินทาง โดยอาศัยเดินทางเวลากลางคืนก่อนวันหยุด ด้วยการนั่งรถบัสไปยังจังหวัดที่ต้องการจะเที่ยว และเมื่อไปถึงที่หมายช่วงเช้า เธอก็จะไปเช่ามอเตอร์ไซค์รุ่นที่ตัวเองชอบขี่ไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ตามที่ได้วางแผนไว้ จนถึงตอนเย็นก็กลับมานั่งรถบัสเดินทางกลับ โดย “ประสบการณ์ครั้งแรก” ที่เที่ยวด้วยวิธีนี้คือที่ จ.น่านและพอมีทริปแรก ก็มีทริปต่อ ๆ ไป จนเมื่อผ่านไป 1 ปี เธอก็เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง และตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์คันแรก เพื่อตอบโจทย์ความฝันตัวเอง

มอเตอร์ไซค์คันแรกที่หัดเป็นของพ่อ เป็นรถที่มีคลัตช์มือ ทำให้ชอบฟีลขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบมีคลัตช์มือมาตั้งแต่ตอนนั้น อีกอย่างชอบรถที่มีทรงคลาสสิค ก็เลยเลือกจากรูปทรงที่ชอบ และราคาที่สามารถซื้อไหว ที่สุดก็ลงตัวที่รถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น XSR155 ที่เป็นรถคู่ใจใช้ขี่เที่ยวมาตลอด” ไบค์เกอร์สาวเล่าเรื่องนี้

สำหรับ “ทริปแรกกับรถคู่ใจ” นั้น เป็นการขี่ไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วน ”ทริปที่ไกลที่สุดครั้งแรก” คือทริปที่ขี่จาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เดินทางไปยัง จ.ชลบุรี ซึ่งเธอขี่แบบรวดเดียว แบบไม่มีพัก

เมื่อครั้งออกทริปครั้งแรก จ.น่าน

“ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่พอดีกับที่เราได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำด้วย ซึ่งที่ตัดสินใจออกเพราะเป็นช่วงที่เริ่มมีงานเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์เข้ามา จึงมองว่าเป็นโอกาสที่เข้ามาหา ซึ่งหากทำงานประจำอยู่ เราไม่มีเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบแน่ ๆ ก็เลยตัดสินใจลาออก เรียกว่าลองเสี่ยงดวงก็ได้ แต่จริง ๆ ที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ก็เป็นเพราะการเริ่มออกขี่รถเที่ยวสำหรับตัวเองแล้วเหมือนเป็นการเยียวยาจิตใจ กับเป็นการรีเซ็ทชีวิตตัวเองด้วย”

ต่อมาหลังออกมาเป็น “ไบค์เกอร์สายท่องเที่ยว” แล้ว อันยอง ก็เริ่มผันตัวเข้าสู่ “วงการอินฟลูเอนเซอร์” โดยเริ่มต้นจากการถ่ายคลิปการเดินทางท่องเที่ยวในทริปครั้งแรก จ.น่าน ซึ่งปรากฏว่าหลังโพสต์ออกไปก็มีคนเข้ามาดูมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่คลิปที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคลิปที่ทำให้คนรู้จักเธอมากที่สุดนั้น น่าจะเป็นคลิปทริปที่เดินทางไป จ.ชลบุรี ที่เดินทางท่องเที่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่พอนำคลิปลงในเฟซบุ๊กของเธอ ปรากฏกลายเป็นคลิปที่ทำให้คนรู้จักและจำเธอได้มากขึ้น

ฉายเดี่ยวซิ่งเที่ยวกางเต๊นท์ริมทะเล

“หลังคลิปชลบุรี ก็มีโอกาสดี ๆ เข้ามาหา โดยทางยามาฮ่าติดต่อให้ไปร่วมงาน โดยอยากให้พูดถึงฟีลลิ่งที่ได้ขับขี่รถรุ่นที่ใช้ และนอกจากนี้เรายังได้ถ่ายงานที่เป็นเหมือนซีรีส์ไว้นำเสนอที่ยามาฮ่าอีกด้วย ซึ่งหลังจากคลิปของยามาฮ่าที่ถ่ายทำไว้ถูกปล่อยออกมา คนก็ยิ่งรู้จักเรามากขึ้น และมีภาพจำเกี่ยวกับเรา นั่นก็คือการเป็นไบค์เกอร์ที่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแบบฉายเดี่ยว”อันยองบอกเรื่องนี้

และเธอยังเล่าอีกว่า หลังจากนั้นเธอก็เริ่มทำคอนเทนต์เดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ กับมอเตอร์ไซค์คู่ใจมากขึ้น และโอกาสดีครั้งใหม่ก็เข้ามาหาอีกครั้ง ซึ่งโอกาสครั้งนี้ที่เข้ามา เป็นโอกาสที่ใหญ่มาก ๆ และไม่เคยคิดฝันว่าจะได้โอกาสนี้ นั่นก็คือการ ได้ร่วมงานกับค่ายฮาร์ลีย์เดวิดสัน โดยได้รับโอกาสเป็นลูกทีมอิสระของค่ายรถระดับตำนานนี้ ซึ่งถ้าค่ายมีงานอีเวนต์ เธอก็จะได้รับเชิญให้ไปร่วม หรือแม้แต่สามารถยืมรถมอเตอร์ไซค์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสันไปขี่เที่ยวได้ด้วย และเธอยังได้ “อบรมเทคนิคการขี่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่” อีกด้วย ทำให้เพิ่มทักษะหรือสกิลการขับขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ๆ เพื่อให้ควบคุมรถคันใหญ่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการที่ได้เข้าอบรมเทคนิคการขับขี่ครั้งนี้ ก็ทำให้ “โลกการขี่มอเตอร์ไซค์เปลี่ยนไป”

มาดเฉี่ยว ๆ สไตล์สาวไบค์เกอร์

“พอได้เรียนจริงจัง ยิ่งทำให้รู้ว่าการขับขี่รถมีความละเอียด ไม่ใช่แค่ไม่ล้ม แต่ต้องควบคุมได้ โดยเฉพาะเรื่องหลังนี้สำคัญมาก อีกทั้งนักขี่ต้องมีสติ เพราะเราไม่ได้ขี่อยู่บนถนนคนเดียว แต่มีคนอื่น ๆ ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันอยู่ด้วย นอกจากนี้นักขี่ยังต้องรู้จักการเซฟตี้ตัวเอง ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันอย่างหมวกกันน็อก ชุดนักขี่ ต้องมี และควรต้องใช้ของที่มีคุณภาพ แม้จะมีราคาสูงแต่คุ้มค่า เพราะช่วยเซฟชีวิตได้” เป็นคำแนะนำ กับมุมมองที่เปลี่ยนไปของเธอ

ทั้งนี้ นอกจากการขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยว และการเป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้ว สาวสวยสายไบค์เกอร์รายนี้เธอยังมีธุรกิจเล็ก ๆ ที่เธอภูมิใจมากอีกอย่าง นั่นก็คือ โฮมสเตย์ “Safearea Homestay” ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเธอกับคุณพ่อคุณแม่ช่วยกันสร้างขึ้นมา โดยเธอทำมาตั้งแต่ช่วงยังทำงานประจำอยู่ แล้วมาต่อยอดหลังจากได้เดินทางท่องเที่ยว ทำให้เธอได้เห็นที่พักกับโฮมสเตย์ของหลายที่ จึงมีความคิดอยากจะทำที่พักไว้รองรับเพื่อน ๆ สายไบค์เกอร์ให้เข้ามาพักผ่อนหรือพูดคุยกัน

ก่อนจบบทสนทนา “อันยอง-ศุภมาส” ไบค์เกอร์สาวสายขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวลุยเดี่ยวบอก “ทีมวิถีชีวิต” ถึงเป้าหมายชีวิตข้างหน้าว่า ปีนี้เธอมีเป้าหมายที่จะจริงจังกับการขี่มอเตอร์ไซค์มากขึ้น โดยเฉพาะการขี่ไปสถานที่ใหม่ ๆ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเก็บให้ครบทุกที่ทุกจังหวัด ขอแค่ได้ไปสถานที่ใหม่ ๆ ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ก็พอ ส่วนที่มีหลายคนถามเธอมากเช่นกัน อย่างคำถามที่ว่า “ตั้งใจเป็นไบค์เกอร์ถึงเมื่อไหร่?” กับเรื่องนี้ เธอก็ตอบว่า “ตั้งใจจะขี่รถเที่ยวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หรือจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว หรือหมดไฟนั่นแหละ แต่ถ้าตราบใดที่เรายังรู้สึกกระตือรือร้นทุกครั้งที่ได้ออกไปขี่…ก็คงจะขี่ต่อไปจนหมด Passion”.

คัมภีร์สำหรับ ‘Begin ไบค์เกอร์’

“ทีมวิถีชีวิต” ยังถาม “อันยอง-ศุภมาส หมายสุข” ด้วยว่า “มีกลัวบ้างไหม?” ซึ่งเรื่องนี้เธอบอกว่า “ถ้าเป็นเรื่องผีไม่กลัวเลย (หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเจอ” และเธอยังคิดว่า “คนน่ากลัวกว่าผีมาก” เพราะผีหลอกแล้วก็ไป แต่คนทำให้ตายได้เลย ดังนั้นการเดินทางของผู้หญิงตัวคนเดียวนั้น สิ่งที่ต้องคิดเสมอคือความปลอดภัยของตัวเอง โดยเธอมี “คำแนะนำสำหรับมือใหม่” ว่า… “ถ้าผู้หญิงอยากขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว แต่ยังไม่มีมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง และยังไม่มั่นใจ ก็อาจใช้วิธีเราก็ได้ คือนั่งรถสาธารณะไปที่จุดหมาย แล้วไปเช่ามอเตอร์ไซค์รุ่นที่ขี่ง่าย ๆ และที่สำคัญคือต้องแพลนก่อนว่าจะไปไหน จะได้ไม่เสียเวลา ที่สำคัญต้องรู้จักเซฟตัวเอง เช่น ไปในที่มีคนเยอะ ๆ ไม่พาตัวเองไปอยู่ในที่อันตราย อย่างตัวเราชอบขี่ไปกางเต๊นท์ช่วงวันธรรมดาคนเดียว ก็จะหาที่ที่มีคนเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง อีกอย่างการแต่งกายก็ต้องมิดชิดเหมาะสม เพราะแม้จะอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่รู้ว่ามีคนแอบมองหรือแอบตามเรามั้ย” เป็น “หลักปลอดภัย” จากประสบการณ์ “สาวไบค์เกอร์ตัวจริง”.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน