พรรคพวกถามว่าคดีฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในปี 67 ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับทำเป็นคดีพิเศษ จะกลายเป็น “มวยล้ม ต้มคนดู” หรือเปล่า? แล้วจะมี “อภินิหาร” ทางกฎหมายเกิดขึ้นหรือไม่?

พยัคฆ์น้อย” บอกไปว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องเคลียร์เรื่องสว. ก็คือดีเอสไอ+กกต. ซึ่งเจ้าหน้าที่ 2 หน่วยงานนี้ ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนทำสำนวนว่าจะเอาผิดใครบ้าง หลังจากนั้นจะส่งสำนวนไปยังอัยการ และศาล เป็นลำดับต่อไป

ปัจจุบันดีเอสไอ+กกต. กำลังใช้อำนาจรัฐตามกฎหมายที่ตัวเองมีอยู่ เพื่อร่วมมือกันทำงาน

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 68 กกต.มีมติแต่งตั้งข้าราชการจากดีเอสไอและ กกต. เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 42 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน 7 คน (กกต. 4 คน ดีเอสไอ 3 คน) มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเลือก สว. ระดับประเทศเมื่อเดือน มิ.ย. 67

โดยมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน ทำงานร่วมกับ “กรรมการสืบสวนและไต่สวน” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในดีเอสไออีก 3 คน

พยัคฆ์น้อย” เห็นรายชื่อ 7 คนแล้ว ก็รู้สึกสบายใจว่ารายละเอียดของการสืบสวนและไต่สวน จะไม่ “รั่วไหล” ไปเข้าหูใครอย่างแน่นอน

ช่วงต้นเดือน เม.ย. 68 ดีเอสไอได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ช่วยสั่งการให้ผู้กํากับการแต่ละอําเภอทั่วประเทศ เรียกสอบเครือข่ายกว่า 20,000 คน และเปิดโอกาสให้บุคคลในท้องที่นั้น ๆ เป็นพยานมาให้ข้อเท็จจริง พร้อมเรียกดูรายการรับ-จ่ายบัญชีธนาคารทุกบัญชี ระหว่าง 15 พ.ค.-30 มิ.ย. 67

โดยเงื่อนไขของพยาน ต้องให้การเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน และให้หลักฐานมัดตัวผู้กระทําผิดทั้งในระดับเดียวกันและสูงกว่า ต้องให้ข้อมูลขั้นตอน ขบวนการชักชวน ว่าจ้าง ให้กระทําผิด การให้โพยฮั้ว การนัดประชุมวางแผน การจ่ายเงิน ชื่อผู้กระทําผิดในกลุ่ม และขอบเขตระดับอําเภอจังหวัดประเทศ

ต่อมาวันที่ 25 เม.. 68 ดีเอสไอลงพื้นที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงการเลือก สว. เพื่อเก็บข้อมูลสถานที่เกิดเหตุ และวัตถุพยาน

มีการนำกลุ่มพยานมาชี้พื้นที่ต่าง ๆ เช่น จุดที่พบโพยลงคะแนน จุดที่มีการคุยหารือบริเวณที่กลุ่มผู้ที่ใส่เสื้อสีเหลืองรวมกลุ่ม มีการสร้างฉากจำลองย้อนลำดับเหตุการณ์ และการขานคะแนน เป็นต้น

เอาเป็นว่าคนที่ติดตาม “พยัคฆ์น้อย” โปรดสบายใจได้ว่า ถ้าดีเอสไอไปจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง แสดงว่าดีเอสไอรู้ “สตอรี่” หมดแล้ว!

ปลายเดือน มิ.ย.นี้ ในส่วนของ กกต. คงไต่สวนเสร็จ เพื่อส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ส่วนดีเอสไอต้องส่งสำนวนคดีฟอกเงิน-อั้งยี่ซ่องโจร ไปที่อัยการและศาลอาญา เพราะวัน-เวลาที่กระทำผิด ยังไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ (สว.).

……………………………………………
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…