ปัญหาโรคภัยพิบัติ นับเป็นอีกเรื่องใกล้ตัวของยุคปัจจุบัน มองข้ามไปไม่ได้ง่าย ๆ หากเกิดแพร่ระบาดในวงกว้างย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนจำนวนมาก ที่สำคัญอาจขยายวงไปถึงระบบเศรษฐกิจและสังคม
ประเดิมต้นเดือน พ.ค. 68 ต้องขอขอบคุณ ความละเอียดรอบคอบของ ทีมแพทย์ รพ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร สังเกตความผิดปกติของคนไข้ ที่เข้ามารักษาตัว แม้จะมีเพียง อาการไข้ต่ำ ๆ แผลโคนนิ้วโป้ง วันที่มาตรวจแผล ขณะทำบัตรมีเหงื่อออกตัวเย็น ๆ จะล้มเหมือนวูบ ตรวจวัดไม่มีไข้ มีต่อมน้ำเหลืองรักแร้โต ไม่ค่อยปวด
นอกจากไม่ได้มองข้าม ยังรู้สึก เอะใจ ซักประวัติวินิจฉัยแยกโรคโดยละเอียด คนไข้อาชีพเลี้ยงวัว ช่วง 2-3 อาทิตย์ก่อนมีไข้ สัมผัส วัวตายโดยไม่ทราบสาเหตุ พร้อมนำ เนื้อวัวตาย ไปทำแบ่งกันกินในงานบุญประจำพื้นที่ เมื่อเอะใจอยู่แล้ว คุณหมอจึงทำแผล scrape + ป้าย slide ส่งห้องแล็บช่วย ย้อมสีแกรม (gram stain) ดูเชื้อด้วยตัวเอง กระทั่งพบเป็น แกรมบวกชนิดแท่ง หน้าตาเหมือนเชื้อ anthracis ของ โรคแอนแทรกซ์ (anthrax) จึงรีบแจ้งข้อมูลตามขั้นตอนควบคุมโรค
คณะสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารทีมใหญ่ รีบลงพื้นที่อย่างรวดเร็ว พร้อมยังระดม แพทย์ พยาบาล และ อสม. เข้ามาช่วยทีมสอบสวนโรคจะเรียกว่าทั้งอำเภอก็ว่าได้ ทำให้ไปทราบข้อมูล ก่อนหน้านี้ เพิ่งจะ มีผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 53 ปี ประวัติสัมผัสและบริโภคเนื้อวัวในงานบุญ เริ่มมีอาการไข้ ตุ่มแผลที่ผิวหนัง วันที่ 24 เม.ย. จึงไปหาหมอ กระทั่ง 27 เม.ย.มีอาการชัดเจน กระทั่งเสียชีวิตวันที่ 30 เม.ย.
หลังทางการยืนยัน ผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ ที่ไม่ได้พบในไทยมานานหลายปีแล้ว ทีมสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ประสาน ทีมสัตวแพทย์ กรมปศุสัตว์ ต้องระดมกำลังลงพื้นที่ อ.ดอนตาล ทั้งเร่งตรวจสอบควบคุมบริเวณ ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรค สถานที่เสี่ยงทุกจุด เก็บหาเชื้อตัวอย่างจากเนื้อวัวและหมูเก็บตัวอย่างจากตู้เย็นบ้านผู้เสียชีวิต ส่งไปตรวจ
ขณะที่การควบคุมโรคในสัตว์ รัศมี 5 กม.จากจุดที่มีการชำแหละวัว ฉีดยาปฏิชีวนะให้โคกระบือในพื้นที่เสี่ยง กว่า 1 พันตัว ดำเนินการไปแล้ว 50% สำหรับกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส มีชาวบ้านร่วมชำแหละเนื้อวัว, ผู้รับประทานเนื้อดิบ, ผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ชำแหละ รวม 638 ราย จึงให้ยาป้องกันโรค Doxycycline 1×2 pc 7 วัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย สิ้นสุดระยะเวลาเฝ้าระวังโรค 538 ราย และเฝ้าระวังโรค 98 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 5 พ.ค.)
ปัญหาโรคภัยพิบัติ ที่แพร่ระบาดได้ง่าย ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลห้ามมองข้ามเด็ดขาด ยิ่งสาเหตุ โรคแอนแทรกซ์ เกิดจากการติด เชื้อแบคทีเรีย สามารถอยู่ใน รูปของสปอร์ ทนทานต่อสภาพแวดล้อม การติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้งทางหายใจ อาหาร สัมผัส สัตว์ป่วย หรือ เนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ
ถ้ายังจำกันได้ สมัยรัฐบาลประยุทธ์ มีสุกรล้มป่วยตายด้วยโรคระบาดจำนวนมากแบบผิดปกติ แต่ภาครัฐค่อนข้างนิ่ง จนสื่อร่วมกันตีแผ่ สุดท้ายทาง กรมปศุสัตว์ ออกมายอมรับ ช่วงต้นปี 2565 ผลตรวจสุกรใน จ.นครปฐม ติดเชื้อ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever) หรือ ASF ต้องประกาศเป็น เขตโรคระบาด แจ้ง องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ส่งผลกระทบต่อวงการเลี้ยงหมูไทยเกือบทั้งระบบ กลายเป็นวิกฤติของวงการเกษตรกรเลี้ยงสุกร หนำซ้ำก็ไม่สามารถระบุได้ว่า ต้นตอโรค ASF เข้ามาระบาดจากเส้นทางไหน ยังคงเป็นปริศนา?
รัฐบาลแพทองธาร ตอนนี้รับทราบสถานการณ์ ตรวจพบ ’โรคแอนแทรกซ์“ มีผู้เสียชีวิต–มีผู้ติดเชื้อ–มีกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง จึงอย่าประมาทมองข้ามผ่าน ต้องเฝ้าระวังคุมเข้มไม่ให้ปัญหาบานปลาย เชื้อแพร่กระจายลุกลามไปยังจังหวัดอื่น
ที่สำคัญต้องมี “ทีมสืบสวนโรค”ลุยทำงานคู่ขนานไปด้วย ระดมค้นหา “ต้นตอ” โรคแอนแทรกซ์ เข้ามาโผล่อยู่ในมุกดาหารได้อย่างไร ? อย่างน้อยยังจะช่วยเป็นข้อมูลไว้ป้องกันปัญหาโรคภัยพิบัติในภายภาคหน้าได้อีก.
………………………………………….
เชิงผา