ทั้งนี้ คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ “มูฟออน” ในไทยยุคปัจจุบันถือว่าแพร่หลาย เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าความหมายก็ประมาณว่า “ชีวิตดำเนินต่อไปหลังรักร้าง”ไม่ว่าจะรักร้างของคู่รัก หรือถึงขั้นเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ตาม ซึ่งกรณี “คนดังรักพัง…ถูกนอกใจ–ถูกเท” ก็มักเป็นที่สนใจว่า “จะมูฟออนอย่างไร??” และนี่ก็ดูจะเป็นกรณีศึกษาได้…
คนดังบางคนรักพังแล้วเงียบหายไป
ขณะที่บางคนก็ “มูฟออนได้เข้มแข็ง”
และเรื่องนี้ก็ “มีข้อมูลคู่มือน่าสนใจ”
เกี่ยวกับเรื่อง “มูฟออน”นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่จากกระแส “รักร้าง” ที่ปรากฏ “อื้ออึงขึ้นมาก” ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็จึงพลิกแฟ้มหยิกยกข้อมูลที่น่าสนใจมาสะท้อนต่อ-สะท้อนย้ำ ณ ที่นี้ โดยเป็นข้อมูลจากบทความชื่อ “เมื่อถูกคนรักนอกใจแต่เลือกให้อภัยแล้วไปกันต่อ : คู่มือก้าวข้ามความเจ็บปวดจากนักจิตวิทยา”ที่มีการเผยแพร่ให้แนวทางเรื่องนี้ไว้ในเว็บไซต์ www.istrong.co ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต ซึ่งใครที่ รู้สึกว่าเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงไปต่อหน้า…ยิ่งน่าพิจารณา…
แนวทางที่แนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในแหล่งข้อมูลดังกล่าว หลักใหญ่ใจความนั้นมีว่า… การ “ก้าวข้าม” ความเจ็บปวด และความกลัวที่จะไว้ใจใครอีก อาจจะเป็นบททดสอบที่ยากกว่าการ “ถูกนอกใจ” เนื่องจากจะมีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ถูกคนรักนอกใจ เป็นระยะ ๆ เช่น จะมั่นใจได้หรือไม่ว่าจะไม่เจอกับเหตุการณ์ถูกนอกใจซ้ำอีก? หรือจะทำอย่างไรถึงจะหยุดฝันร้ายนี้ไม่ให้ตามหลอกหลอน? โดยในทางจิตวิทยาแล้ว…คำถามในหัวเช่นนี้ หรือความรู้สึกในใจที่บางคนกำลังเผชิญอยู่นี้ ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติหรือแปลกแต่อย่างใด เพราะเป็นกระบวนการทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คน หลังเกิดเหตุการณ์ที่สั่นคลอนชีวิต แต่…สำหรับคนที่ตัดสินใจให้อภัยคนรักแล้ว ก็ “ควรลองเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”เพราะ…
จะอย่างไร “ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป”

ทั้งนี้ ข้อมูลในแหล่งข้อมูลดังกล่าวระบุไว้อีกว่า… Elisabeth Kubler-Ross นักจิตวิทยาต่างประเทศชื่อดัง ได้อธิบายไว้เกี่ยวกับ 5 ขั้นตอนสำคัญเมื่อต้องเผชิญกับความสูญเสียหรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิต …ซึ่งนี่น่าจะสามารถใช้เป็น “หลักคิด 5 ข้อ” ที่นำไปพิจารณาปรับใช้ได้…ปรับใช้กับการสูญเสียอย่างการ “ถูกนอกใจ” หรือปรับใช้ “รับมือรักเลิกรา–หย่าร้าง”
การ “ถูกนอกใจ–เลิกรา–หย่าร้าง” ที่ก็ถือว่า “สั่นคลอนชีวิต” นั้น สำหรับ 5 ขั้นตอน หรือ “หลักคิด 5 ข้อ” ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้กรณีนี้ข้อมูลในแหล่งข้อมูลข้างต้นระบุไว้ว่า… ขั้นแรก ช็อก และปฏิเสธ (Denial) โดยช่วงแรกที่ได้รู้ความจริง คนเรามักตกใจ และ ไม่อยากเชื่อ ว่าเรื่องนี้จะเกิดกับตนเอง ทำให้คน ๆ นั้นพยายามหาเหตุผลเพื่อมาอธิบายว่า…ทำไมเขาจึงทำแบบนี้กับเรา? จากนั้นก็ขั้นที่สอง โกรธ (Anger) เมื่อความจริงค่อย ๆ เข้ามากระทบจิตใจ คนที่ได้รับผลกระทบแบบนี้จะเริ่มรู้สึกโกรธแค้น ทั้งโกรธคนรัก โกรธตัวเอง โกรธโลกทั้งใบ ส่งผลให้บางคนแสดงออกด้วยอาการ ก้าวร้าว เอาแต่ใจ คุมอารมณ์ไม่ค่อยได้
ขั้นที่สาม ต่อรอง (Bargaining) โดยเมื่อถึงขั้นนี้คนที่ถูกนอกใจมักเริ่มมองหาทางแก้ไข อาจจะ หวังให้ทุก ๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงกลับเป็นเหมือนเดิม ผ่านการกระทำและพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ขู่ทำร้ายตัวเอง ขอร้องให้กลับมา หรือแม้แต่สัญญาว่าจะยอมเปลี่ยนแปลงตนเองตามที่ฝ่ายที่นอกใจต้องการ, ขั้นที่สี่ ซึมเศร้า (Depression) ซึ่งหากปล่อยให้อารมณ์ดำดิ่งจากการถูกนอกใจนาน ๆ จะทำให้คนที่ถูกนอกใจมักเกิดอาการซึมเศร้า โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าอะไร ๆ คงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ก็จะยิ่งทำให้ รู้สึกหมดหวัง เศร้า เหงา ท้อแท้ หรือบางคนปล่อยปละละเลยตัวเอง นอนไม่หลับ รับประทานไม่ได้ ส่งผลให้น้ำหนักลด หรือรายที่อาการหนัก ๆ ก็อาจจะถึงขั้นปล่อยให้งานหรือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอยู่นั้นพังไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีขั้นที่ห้า ยอมรับ (Acceptance)เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร ส่วนใหญ่คนเราจะค่อย ๆ ปล่อยวาง ยอมรับความจริง ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้ได้ ชีวิตจะเริ่มกลับคืนสู่ปกติ แม้แผลใจยังไม่หายดี แต่ก็ถึงเวลา “เริ่มต้นชีวิตใหม่” อีกครั้ง
และการจะ “มูฟออน” เริ่มต้นชีวิตใหม่นั้น ข้อมูลคำแนะนำที่มีการเผยแพร่ไว้ทาง www.istrong.co ก็แนะนำไว้ว่า… “สิ่งที่ควรจะทำ” นั้นมีดังนี้คือ… ให้เวลาตัวเองในการเยียวยา อย่าเร่งรีบกดดันตัวเองเกินไป, ฝึกระบายความรู้สึกอย่างสร้างสรรค์ แทนที่จะระเบิดอารมณ์ใส่คนอื่น หรือเก็บกดไว้, ห้ามตัดสินหรือโทษตัวเองเป็นอันขาด ไม่ว่าจะรู้สึกอับอายแค่ไหน, หาสิ่งที่มีความสุขมาเติมเต็มชีวิต ใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบ, เปิดใจคุยกับคนรักอย่างสงบ ถึงสาเหตุการนอกใจ และ ปรึกษาแหล่งความช่วยเหลืออื่นเมื่อพร้อม ได้แก่ คนใกล้ชิด ครอบครัว เพื่อนสนิท หรือนักบำบัด …นี่เป็น “คำแนะนำ”
ทั้งนี้ “รักพัง–ถูกเท” การจะมูฟออนได้เร็วหรือช้า?? หรือมูฟออนได้เข้มแข็งหรือไม่?? ในแหล่งข้อมูลดังกล่าวข้างต้นก็ชี้ไว้ด้วยว่า… “การผ่านขั้นตอนทั้ง 5 อาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ความเข้มข้นของความสัมพันธ์ สาเหตุของการนอกใจ ระยะเวลาที่ถูกนอกใจ การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน” …นี่ “ก็น่าคิด”
แต่กระนั้น…ที่แน่ ๆ “มูฟออนทำได้”
แม้ “อาจจะช้า–อาจไม่เข้มแข็งบ้าง”
ทว่า “โลกไม่ได้พังลงแต่อย่างใด!!”.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์