ทั้งนี้ กรณีที่เป็นกระแสครึกโครมกรณีใด ๆ นั่นก็ว่ากันไปตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม ๆ ไม่เฉพาะเจาะจงกรณีใด เกี่ยวกับเรื่อง “นารีพิฆาตพระ”นี่ยุคนี้ “นับวันดูจะยิ่งน่ากังวล!!”ซึ่ง ณ ที่นี้ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็จะชวนพลิกแฟ้มพิจารณาเรื่องราวทำนองนี้กันอีก…
“นารีพิฆาตพระ” เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้น
ซึ่งพิฆาตในที่นี้คือ “หาพระเป็นเหยื่อ”
เป็น “เหยื่อมิจฉาชีพประสงค์ทรัพย์!!”
เรื่อง “นารีพิฆาตพระ” นี่ที่ผ่านมามี“พระตบะแตกจนเป็นเหยื่อ”อยู่เนือง ๆ จนมีช่วงหนึ่งที่เกิดกรณีขึ้นมาก ทาง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถึงขนาดต้องออกมาเผยถึง“เล่ห์แก๊งแสบ”รูปแบบนี้ ซึ่งหลักใหญ่ใจความมีว่า…แก๊งแสบแนวนี้มักจะมี สเต็ปในการเข้าหาพระสงฆ์ที่ถูกล็อกเป้าเป็นเหยื่อ ดังนี้คือ… 1.ใช้โปรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงหน้าตาดี, 2.ขอแอดเฟรนด์กับพระในโซเชียลมีเดีย, 3.เริ่มจากชวนพระคุยเรื่องทั่วไป, 4.ขอแลกไลน์ส่วนตัวกับพระโดยอ้างว่าคุยช่องทางอื่นไม่สะดวก, 5.จะตีสนิทกับพระอย่างรวดเร็ว, 6.รุกด้วยการจีบพระ, 7.ชวนวิดีโอคอล …นี่เป็นสเต็ป
“โซเชียลมีเดีย”เอื้อต่อสเต็ปเหล่านี้
หรือ “เอื้อต่อการใช่เล่ห์พิฆาตพระ”
ทั้งนี้ เมื่อพระที่ถูกมุ่งเป้าเป็นเหยื่อหลงกลโดยมีการวิดีโอคอลแล้ว “นางนกต่อ” ก็จะรีบ “เผด็จศึก” โดยการ “ชวนให้วิดีโอคอลสยิว” ซึ่งมีตั้งแต่ให้เหยื่อ “โชว์อาบน้ำออนไลน์” จนถึงยั่วยวนให้เหยื่อ “ช่วยตัวเองโชว์” โดยจะ “บันทึกคลิปสยิวไว้ใช้ขู่เรียกทรัพย์–ตบทรัพย์” ซึ่งมีพระจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อถูกตบทรัพย์จากแก๊งแสบแบบนี้ โดยที่มูลค่าความเสียหายรวม ๆ ก็คงไม่ใช่น้อย ๆ และเห็นว่า “เหยื่อ” ไม่ได้มีแค่พระอ่อนอาวุโส…แต่ “พระอาวุโส–พระผู้ใหญ่…ก็มี”…นี่ก็ชวนอึ้ง!!
“พระที่เป็นเหยื่อของแก๊งนี้ส่วนใหญ่จะติดกับดักความสวยงามของผู้หญิงคู่กรณี จนโดนข่มขู่เรียกทรัพย์สิน เสียเงินทองไม่รู้จักจบสิ้น หรือพระหลายรูปก็จำต้องลาสิกขากลางพรรษาออกไป เพราะรู้สึกอับอายขายหน้า” …นี่เป็นหลักใหญ่ใจความอีกส่วนจากการระบุไว้โดย สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จากที่ได้มีการ “เตือนภัยพระ” กรณีนี้ไว้

และกรณี “ลวงสยิวผ่านโซเชียลเพื่อตบทรัพย์พระ” นี่เรื่องนี้ทาง พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก็ได้เคยสะท้อนไว้กับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ว่า… นอกจากมีพระหนุ่ม ๆ ที่เสียรู้เล่ห์หลอกล่อของแก๊งแบบนี้แล้ว ก็ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่ที่โดนเล่นงานจากแก๊งแบบนี้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า…ก็ไม่ผิดที่ชาวพุทธไทยจะตกตะลึงกับเรื่องนี้
ทาง พระพยอม ท่านยังเคยสะท้อนกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้เพิ่มเติมว่า… เท่าที่สังเกตพระสงฆ์ที่โดนส่วนใหญ่มักจะ “ติดกับดัก” ความสวยของผู้หญิงโดยแก๊งเหล่านี้จะใช้ “สาวสวยหน้าตาดี”มาเป็น “เหยื่อล่อ”ผ่านการ “วิดีโอคอล”ซึ่งพอสนิทมากขึ้นก็จะหลอกล่อด้วยการ “ออดอ้อนพระ” เพื่อชวนให้พระเกิดความรู้สึกเอ็นดู หรือสงสาร ซึ่งกรณีนี้ก็สะท้อนชัดเจนเลยว่า… เทคโนโลยีขยี้ศีลธรรมให้ยับเยินได้ง่ายมาก เพราะแม้แต่ “พระ” ก็ยังตกเป็น “เหยื่อมิจฉาชีพทางดิจิทัล” เหล่านี้ โดยในยุคนี้แทบทุกอย่างต้องเกี่ยวโยงกับเทคโนโลยี…นี่ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นเหยื่อรูปแบบต่าง ๆ
ทั้งนี้ พระพยอม ท่านยังเคยเล่าผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ “น่าคิด” อีกประเด็นหนึ่ง คือ… ท่านเองจะ ไม่มีโทรศัพท์ไว้ส่วนตัว เพราะเคยมีช่วงหนึ่งมีสีการายหนึ่งชอบโทรฯ มาคุยอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น อยู่คนเดียว ธุรกิจไม่มีคนช่วย แล้วพยายามหยอดคำหวาน ๆ หวังให้สงสารจนอยากช่วยเหลือ ซึ่งพระพยอมท่านเล่าว่า…เจอแบบนี้ก็ตัดสายเลิกคุย และเลิกถือโทรศัพท์ติดตัว เพื่อ “ตัดไฟแต่ต้นลม”โดยให้ลูกศิษย์รับสายญาติโยมแทน ซึ่งนับวันยิ่งมีสายแปลก ๆ คนแปลก ๆ เข้ามาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
พระพยอมท่านยังระบุไว้ว่า… ญาติโยมบางคนก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ของพระ แต่ท่านก็ยืนยันว่า ต้องทำแบบนี้จึงจะช่วยพระเอาไว้ได้ โดยเฉพาะ “พระรุ่นใหม่” ที่อาจยัง “ไม่ค่อยเคร่งพระวินัย–ไม่ค่อยระวังตัว”ที่ก็ยิ่งสุ่มเสี่ยง เพราะด้วยความที่ “ห่างจากโลก–อ่อนต่อโลก” เมื่อมีการใช้หญิงสาวหน้าตาสะสวย หน้าตาดี น่ารัก มาพูดจาเพราะ ๆ…
ก็อาจจะ“อดใจไม่ไหว–ห้ามใจไม่อยู่”
อาจจะ “ทำให้เสียรู้ เสียเงิน เสียพระ”
และ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ท่านยังสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” โดยยก “คำสอนของพระพุทธเจ้า”ไว้ด้วยว่า… พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า…เสียงใดจะครอบงำจิตใจบุรุษได้เท่ากับเสียงสตรีเป็นไม่มี รูปอะไรจะครอบงำจิตใจบุรุษได้เท่ารูปสตรีก็ไม่มี ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่ใช้เพศหากิน ถ้า พระที่อ่อนต่อโลก ไม่ระวังก็ยิ่งเสี่ยง และยิ่งสติปัญญาไม่พอ โอกาสที่จะถูกล่อลวงก็ยิ่งมีสูง จึงไม่แปลกที่ ยุคนี้มีกรณี “นารีพิฆาตพระ” กลาดเกลื่อน โดยถ้า “พระไม่ระวังกายใจให้ดี ๆ” ก็อาจ “เป็นเหยื่อแก๊งนารีพิฆาตได้ง่าย ๆ”…อาจทำให้ต้อง “ละเมิด-อาบัติปาราชิก” ซึ่ง…
กับประเด็น “การละเมิดพระวินัย” นั้น
กรณีนี้ก็มีงานวิจัยที่ชี้ “ปัจจัย–สาเหตุ”
คือ “อะไรบ้าง??” ตอนหน้ามาดูต่อ…
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์